Blog Page 61

เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : พ.ร.ก. มาแล้ว​ การ​ Jump Start เพื่อเดินธุรกิจต่อไปก็จำเป็น : วันจันทร์ที่ 12 เมษายน2564

เศรษฐกิจ​ต้องพึ่งจิตใจ

ในท่ามกลางข้อมูล​ที่ไหลบ่า​ บ้างก็มีที่มา​ บ้างก็มาลอย ๆ​ บ้างก็อ้างว่ามาจากคุณหมอ​ บ้างก็ตั้งตนเป็นคุณหมอ (อาจมีปมว่าตอนนั้นเอ็นทรานซ์ (Entrance)​ไม่ติดแพทย์​ เลยสะกดจิต​ตัวเองให้เป็นคุณหมอตอนนี้ด้วยการแชร์​ข่าวมั่ว)​ ก็ไม่ว่ากัน​ จนบรรยากาศ​ตอนนี้ของประเทศที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็นเลขศูนย์​อันดับต้น ๆ ของโลกเมื่อหลายเดือนก่อนโน้น​ กลับมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 2,000 คนต่อวัน​ มีความตื่นตระหนกแต่ไม่ตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง​ ได้แต่โยนให้เป็นภาระสาธารณสุข​และบุคลากรท​างการแพทย์​ ไม่ได้ดั่งใจก็ลงเฟซบุ๊ก… เคยถามตนเองหรือไม่ว่า​ ในยามนี้ท่านจะสร้างศึกสงครามบนโลกการสื่อสารกับใคร ใครเป็นอริราชศัตรูของเรา ไม่มีเลย… มันคือความกลัวของตัวเรา​ ก็ไหนว่าเราเป็นชาวพุทธ ร่ำเรียนมาว่า​ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย​ ล้วนเป็นอนิจจัง​ ความรู้ความตั้งใจตอนลาพักร้อน​ ช่วงวันหยุดไปปฏิบัติธรรมมันหายไปไหน​ เราทั้งหมดไม่ได้อยู่ในเรือลำเดียวกัน​ หากแต่เราอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน​ หากเรายังไม่มี วินัยและความเมตตาต่อกัน​ ยากที่จะหนีพ้นไปกับสงครามนี้​ ที่สุดมันคือโศกนาฏกรรม​ร่วม​ 
ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านลองอ่านถ้อยความเหล่านี้ที่เป็นหลักยึดของมดงาน บุคลากร​ทางการแพทย์​ ทั้งชายและหญิงที่เป็นทหารราบแนวหน้า​ แล้วถามใจท่าน ๆ รวมถึงตัวผู้เขียนเองว่า​ ท่านเหล่านั้นมีวินัยและความรักความเมตตา​ต่อผู้คนไม่ว่า​ ยากดีมีจน จะนิสัยดี​นิสัยเลว (บางคนต้องบอกว่าเลยชั่วไปหลายกิโลเมตร) จะมีตำแหน่งหรือไม่​ อยู่หรือไม่​ ผู้เขียนคิดว่า​ คุณหมอ​ คุณพยาบาล​ เวรเปล​ แม่บ้าน​ มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม​ ถ้อยคำนั้นมีอยู่ว่า
ขอให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่งประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ลาภ ทรัพย์และชื่อเสียงก็จะตกแก่ท่านเองเมื่อท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์
ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเป็นคุณหมอเท่านั้นแต่ฉันต้องการให้พวกเธอมีความเป็นมนุษย์ด้วย
คุณลักษณะสำหรับการเป็นแพทย์นั้น คือ ความเชื่อถือไว้วางใจ
1.ท่านต้องมีความเชื่อในความสามารถของตนเอง คือ มีความมั่นใจ
2.ท่านต้องมีความไว้ใจระหว่างแพทย์กันเอง คือ ความเป็นปึกแผ่น
3.ท่านต้องได้รับความเชื่อถือจากคนไข้ของท่าน คือ ความไว้ใจของคณะชน
คุณสมบัติ 3 ประการนี้เป็นอาวุธ เกราะ และเครื่องประดับอันงามของแพทย์ การจะได้รับความไว้ใจของคนไข้ของท่าน ถือสุภาษิตว่า ใจเขา ใจเรา
กลับมาที่ระบบเศรษฐกิจ​ไทย​ เครื่องยนต์​ที่จะลืมตาอ้าปากได้คงจะมีแต่เรื่องการส่งออก​ เพราะประเทศใหญ่ ๆ ต่างกลับมามีการเจริญเติบโต​และหากประเทศ​เหล่านั้นตั้งหลัก​ และนำเข้าสินค้าไทยเราเพิ่มได้แล้วก็น่าจะทำให้ประเทศเราเติบโต​ได้พื้น ๆ ก็ต้องมีว่า​ สัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) เติบโตได้สัก​ 2% ขึ้นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์​พูดคุยกันในเวทีเสวนาของ​ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Research Institute หรือ TDRI) ​ในส่วนการใส่เงินของภาครัฐในการเยียวยา​ การ​กระตุ้น​ การฟื้นฟูก็คงเป็นไปตามตัวเลขที่เปิดเผย​ คงเดินไปตามระบบราชการ (แบบบ่น ๆ เบื่อ ๆ กันไป ซึ่งไม่ได้เป็นแต่ประเทศ
ในการเดินทางร่วมกันของปวงชนชาวไทย​ จนตลอดรอดฝั่ง​ จะชั่วดีถี่ห่างก็ไทย​ด้วยกัน​ ชาวสาธารณสุข​และบุคลากรทางการแพทย์​ได้ทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้ว​ เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ทำในสิ่งที่เรียกกันว่าวินัยและความรักความเมตตาต่อกันแล้วหรือไม่อย่างไร​ เศรษฐกิจ​มีชีวิต​ ต้องพึ่งวินัย​ พึ่งความรักความเมตตาก็วันนี้แหละครับ

เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : กระแสการแชร์ข่าว (มั่ว)​ การ์ดต้องไม่ตก​ การลงทะเบียนหมอพร้อม​ ในช่วง​ WFH : วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม 2564 :

กระแสการแชร์ข่าว (มั่ว)​ การ์ดต้องไม่ตก​ การลงทะเบียนหมอพร้อม​ ในช่วง​ WFH

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา​ ไม่ทราบว่าท่านผู้อ่านจะได้เจอปรากฏ​การณ์แบบเดียวกับผู้เขียนหรือไม่​ เมื่อได้ยกเอาโทรศัพท์​เคลื่อนที่​ (มือถือ) ขึ้นมาอ่านข้อความ​ ซึ่งหากเราจะได้เจริญสติและพิจารณาข้อความต่าง ๆ แล้ว​ เราจะพบว่า​
1.มีผู้ตั้งตนเป็นกูรูกูรู้​ มากมายพร้อมคำแนะนำ​ ซึ่งมีทั้งมาขอโทษที่เผยแพร่ในเวลาต่อมาและท่านที่ไม่รู้ที่มาที่ไป​ ออกมาบอกเล่าเก้าสิบ​ หลากหลายไปหมด​ จนบางครั้งผู้เขียนคิดว่า​ หากมีคนส่งต่อข้อความมาก ๆ ว่า​ ผักตบชวาในแม่น้ำมีคุณค่า​ป้องกันไวรัสได้​ จะมีใครไหมหนอที่จะไปลากเอาขึ้นมาต้มกิน​ ความกลัวผสมกับความที่ไม่คิดถึงเหตุและผล​ อาจทำให้ปัญหาผักตบชวาที่มีกับแม่น้ำลำคลองสกปรกเราหมดไปก็ได้หรือไม่​

2.เรื่องที่ยากที่สุด คือ การรักษาระยะห่าง 2 เมตร ก็เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมเพราะตัวเราอยากเจอมนุษย์คนอื่นอยู่ตลอดเวลามนุษย์​อย่างเรา​ ตัวท่าน​ ตัวผมต้องยอมรับว่า ไม่สามารถจะกักกันตนเอง และการปิดเมืองไปได้นานกว่านี้แล้ว ไม่ใช่เพียงเพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจอย่างเดียวที่ยกขึ้นมา แต่เป็นเพราะสภาวะทางจิตใจ​ ความทุกข์​ใจที่ไม่ได้เจอใครอย่างที่ใจเราต้องการต่างหาก​ มนุษย์​เป็นสิ่งมีชีวิตที่ใฝ่หาเสรีภาพ​ แต่รุกรานสิ่งมีชีวิตอื่นตลอดเวลา​

แม้คุณหมอที่รู้จริงจะบอกว่าการใส่หน้ากากอนามัย​ หน้ากากผ้า​ หรือแม้แต่หน้ากากผ้าทับบนหน้ากากอนามัย พร้อมกับการรักษาระยะห่าง 2 เมตรขึ้นไป บวกกับการรักษาความสะอาดของมือผ่านการใช้แอลกอฮอล์​หรือสบู่ จะช่วยให้เราปลอดภัยจากโควิดได้ 100% แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ก็แทบจะไม่อยากจะทำตามขั้นตอนแนะนำเหล่านี้แล้ว เพราะทำมานานเกินปี จนเกินจะทนในความคิดความเป็นไปของใครบางคน​ ยิ่งไปตกกับพวกบุญมาวาสนาส่ง​ คิดว่าตนเป็นอภิมนุษย์​ มีอำนาจบารมีมากกว่าคนอื่น​ จักสุขสำราญเยี่ยงใดก็ได้​ กิจกรรมชอบกิน ชอบเที่ยว​ มันเลยสร้างผลกระทบที่รุนแรงให้กับคนที่เขามีวินัยและต้องทนทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบมาเป็นเวลานานนับปีเข้าไปเต็มเปา​ ขออัญเชิญเจ้ากรรมนายเวรจงมาเสวยกรรมเพื่อส่งผลให้อภิมนุษย์​เหล่านั้นให้ได้รับผลกรรมในสิ่งที่ทำลงไปด้วยเถิด​ หลับอย่าได้ตื่น​ ฟื้นอย่าได้สุข​ ทุกข์อย่าได้หมด​ หดในทรัพย์สิน​ เงินทอง​ อำนาจวาสนา…

3.วัคซีนที่ใช้กันทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ทุกท่านที่เจริญด้วยสติ​ ใช้ปัญญาผ่านสมองในศีรษะก็ทราบดีว่า​ วัคซีนเหล่านั้นล้วนได้รับการอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินทั้งนั้น​ นั่นหมายความว่า “มันไม่มีเวลาเพียงพอที่จะวิเคราะห์วิจัยถึงความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนที่ใช้กันอยู่ตอนนี้ ไม่ว่าจะใช้ความพยายาม ความรู้ และทรัพยากรที่ดีที่สุดจากนักวิทยาศาสตร์​ก็ตาม​ เต็มที่คือการทดลองในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นมนุษ​ย์จำนวนหนึ่ง​ ในระยะเวลาหนึ่ง​ และยังอาจมีข้อจำกัดที่ไม่รู้จำนวนหนึ่ง​ ประเด็นสำคัญคือ​ ความจริงที่ว่า​ เรา ๆ ท่าน ๆ ทุกคนจะต้องคิดให้ได้ว่า “ในเวลานี้เราอยู่ในภาวะฉุกเฉินหรือไม่?​ วิธีป้องกันภัยยามฉุกเฉินเราคืออะไร​ ทางรอดที่ดีที่สุดของเราคืออะไร”

4.รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่ามาจากระบบแบบใด​ เมื่อมาเป็นผู้รับผิดชอบก็ต้องเจอโจทย์ว่า​ “ประชาชนในประเทศของตน อยู่ในภาวะฉุกเฉิน จึงหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนของตน” ความเสี่ยงบนความสมดุลที่ต้องวางลงไปว่า
(1)ระดับสภาพความฉุกเฉินประมาณไหน
(2)เครื่องมือคือวัคซีน​จะหามา ส่งต่อ​ ฉีดไป​ ให้ไวให้มากพอจะทำกันอย่างไร
(3)ผลข้างเคียง​ ผลกระทบ​ หากมีสิ่งไม่พึงประสงค์​ สิ่งที่ไม่มีใครต้องการ​ จะลดความรุนแรงมันได้อย่างไร​ จะไม่ให้มี มันทำไม่ได้​ และก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้มี​
เราอาจบอกได้ว่ากระทบ​ 2% แต่สำหรับคนที่โดนกระทบเต็มที่มันคือ​ 100% สำหรับชีวิตเขา​ ความยากมันอยู่ตรงนี้​ ใครไม่อยู่จุดนั้นคงไม่รู้​ การถู ๆ ไถ ๆ บนมือถือแล้วก็ส่งข้อความไปมันง่ายมาก​ ความคิดเห็นมันเยอะ ความไม่พอใจมันมาก​ ยิ่งความไม่พอใจ (แทน)​ คนที่ไม่ได้รู้จักยิ่งมากเพราะไม่ต้องรับผิดรับชอบ​อะไร​ โพสต์​ออกไปแล้วจะดูดี ได้แต่ความสะใจ​ อย่างมากถ้ามีเรื่องก็บอกว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์​ ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องความไม่รู้ที่หลงผิดพลาดไปในการส่งข้อความ คนไทยขี้สงสารเดี๋ยว​ก็จบ

เรื่องที่น่าสนใจคือ​ หลายเดือนก่อนตอนตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันน้อยรายนั้น​ วัคซีน​จะมาไม่มาไม่มีประเด็น​ พอมีเหตุปะทุขึ้นมารอบสามแบบสงกรานต์​ไม่ได้สาดน้ำ​ ความตื่นตระหนก​ก็มาดุจดังความหิวโหย​ มีการพูดกันถึงขนาดว่า จะฉีดอะไรก็ฉีด​ น้ำเกลือ น้ำมนต์ก็ได้ถ้ามันป้องกันได้​ ไม่มีการสนใจว่ายี่ห้อไหน​ ทำจากจีนหรือไม่​ ใครเป็นเจ้าของกิจการบริษัทผู้ผลิตวัคซีน​ เอาเป็นว่ามีมาให้ฉีดได้บัดเดี๋ยว​นี้เป็นอันยุติ​ แต่ถ้าความหิวโหยนั้นเกิดมีทางเลือกขึ้นมาปั๊บ​ ความเป็นมนุษย์เรื่องเยอะก็เข้ามาทันที​ เป็นเรื่องที่เกิดจากธรรมชาติพื้นฐานของมนุษย์ อธิบายได้ว่า​ เมื่อเรากำลังจะอดตาย เราอาจกินอะไรก็ได้ แต่หากมนุษย์​ที่หิวเหลือเกินนายนั้น เกิดมีทางเลือกขึ้นมา นายคนนี้ก็จะลืมความหิวสิ้น และเริ่มที่จะวิเคราะห์ว่าทางเลือกไหนมันจะดีกว่ากัน​ และจะส่งผ่านสิ่งที่ตนเองอยากจะเชื่อ (ว่าจริง)​ ไปให้คนรอบข้างเพื่อให้เกิดเสียงสะท้อนว่า​ ใช่ ๆ เรื่องจริง​ กลับมายืนยันสิ่งที่ตนเองส่งออกไป บางครั้งอาจเพราะจะสะกดจิตตัวเองให้เชื่อยังไม่แรงพอก็เป็นได้​ ไม่มีอะไรที่จะเติมเต็มความต้องการของมนุษย์เราได้ เพราะมนุษย์​นั้นมีความต้องการไม่สิ้นสุดจริงไหมครับ​

5.มีคำกล่าวว่า​ ถ้าเราคิดว่าเราไม่ได้อยู่ในภาวะฉุกเฉินอะไร จากการเม้าท์มอยกับเพื่อนในกลุ่มไลน์แล้ว เราก็แค่ไม่ไปฉีดวัคซีน​ ก็เท่านั้น… แต่เราก็ต้องรู้ว่าเรากำลังมีความเสี่ยงที่มากกว่าคนอื่น ๆ ที่เขาไปฉีดกัน​ใช่ไหม​ ไม่ว่าเรา “ต้องการ” จะได้รับวัคซีนหรือไม่ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราต้อง “เลือก” เองนี่จึงเป็น “ความจริง” เดียวที่ทุกคนควรต้องรู้ที่เหลือจากนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ตัวเราต้องชั่งน้ำหนักเอาเองว่าจะลงมือทำไปในทางไหน​ คำกล่าวนี้ทำให้ผู้เขียนไม่ลังเลใจในการลงทะเบียนหมอพร้อมเวอร์ชัน​ 2 โดยไม่สนใจความไร้สาระพวกที่แชร์หาเรื่องด่าคนทำงานว่าระบบล่ม​แล้ว​ (ก็ไม่ทราบว่าโพสต์​ไปแล้วจะเกิดประโยชน์พระแสงด้ามง้าวกับใคร)​ ซึ่งผู้เขียนก็ลงทะเบียนได้ในครั้งเดียว​ จากนั้นผู้เขียนก็เอาหน้ากากอนามัยมาใส่​ เอาหน้ากากผ้ามาสวมทับ​ เดินไปตลาด​ ซื้อของกิน​ ตอนสั่งก็พูดผ่านหน้ากาก​ ยืนสั่งอยู่ห่าง ๆ​ ก่อนรับของก็เอาแอลกอฮอล์​มาถูมือ​ รับของแล้วเดินกลับบ้าน​ มาถึงบ้านก็ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์​อีกครั้งก่อนลงมือทาน​ เวลาทานก็นั่งทานคนเดียวห่าง ๆ กับคนอื่น​ หมดแล้วก็นั่งทำงานต่อเพราะ​ WFH ​หมดเวลาทำงานก็เตรียมการออกกำลังกายต่ออีก​อย่างน้อย 40 นาที​ มันน่าเบื่อแต่มันต้องทำ​ เหตุ​เพราะเราอยู่ในสถานการณ์​ฉุกเฉิน​ตัวเราไม่ใช่อภิมนุษย์​ ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตที่เวลาทานอาหารต้องมีดนตรีและนารีมานั่งขับกล่อมให้เกิดความเสี่ยงกับเวรและกรรมตามทันที่ผู้คนสาปแช่ง

ขอบคุณ​ครับที่ติดตาม

ไล่สเต็ปหนี้ที่ควรปลดล็อก กู้วิกฤติทางการเงินให้กลับมาสดใส

ไล่สเต็ปหนี้ที่ควรปลดล็อก กู้วิกฤติทางการเงินให้กลับมาสดใส

ไล่สเต็ปหนี้ที่ควรปลดล็อก กู้วิกฤติทางการเงินให้กลับมาสดใส

เมื่อวิกฤติทางการเงินครั้งนี้ใหญ่หลวงเกินกว่าจะรับไหว ปัญหาการเงินที่ใครหลาย ๆ คนต่างจะต้องประสบพบเจอ และยังแก้ปัญหาไม่ตก คงไม่พ้นปัญหาเรื่อง “หนี้สิน” ยิ่งในยุคนี้ที่ง่ายต่อการก่อให้เกิดหนี้ง่ายมากขึ้น ทำให้หลายคนมักจะใช้จ่ายเกินตัว และไร้ซึ่งการระมัดระวังตัว จนท้ายที่สุดนำไปสู่การเข้าไปยังจุดวงจรชีวิตหนี้ที่ยากเกินกว่าจะออกมา

แต่เมื่อเรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ หากเราต้องการที่จะหยุดวงจรหนี้ของตัวเอง ก็ควรต้องเริ่มไล่สเต็ปการปลดล็อกหนี้ เพื่อนำไปสู่อิสรภาพทางการเงิน ซึ่งการที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ควรเริ่มจาก “แก้หนี้” ตามแต่ละประเภทดังกล่าว เพื่อช่วยกู้วิกฤติทางการเงินของคุณให้กลับมาสดใสกันค่ะ

  1. หนี้ที่พักอาศัย

เช่น บ้าน คอนโด เป็นต้น ซึ่งอย่างน้อย ๆ หนี้ประเภทนี้ก็ถือว่าเป็น “หนี้ดี” เพราะอย่างน้อย ๆ ทรัพย์สินจะตกมาเป็นของเราในอนาคต หากมีการชำระอย่างสม่ำเสมอจนครบกำหนด แต่หากในกรณีที่เกิดวิกฤติทางการเงิน ไม่สามารถชำระเหมือนเช่นเคยให้ลองไปลดภาระหนี้ผ่านสถาบันการเงินที่เราได้ทำการยื่นขอสินเชื่อเพื่อขอลดค่างวด หรือดอกเบี้ย ซึ่งนับเป็นวิธีการปลดล็อกภาระหนี้ได้ทางหนึ่ง

  1. หนี้รถยนต์

รถยนต์ก็ยังนับว่าเป็นหนี้ดี เพราะเป็นทรัพย์สินของตัวเราเอง ซึ่งวิธีการปลดล็อกหนี้ จะคล้ายกับหนี้ที่พักอาศัย คือลดภาระหนี้ด้วยการเจรจากับบริษัทไฟแนนซ์ เพื่อขอยืดระยะเวลาการชำระค่างวดลดลง เป็นการช่วยลดภาระรายจ่ายลงไม่ให้เป็นค่าใช้จ่ายที่ตึงจนเกินไป

  1. หนี้บัตรเครดิต

วิธีการปลดล็อกหนี้บัตรเครดิตที่ดีที่สุดคือการชำระหนี้รวมเป็นก้อนเดียว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดอกเบี้ยทบต้น หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ สะสมกลายเป็นหนี้งอกเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ จนต้องค้างชำระในอนาคต แต่ถ้าหากยังรู้สึกว่าการชำระหนี้รวมเป็นเงินก้อนเดียวอาจจะใช้วิธีโปะหนี้ที่มีให้ได้มากที่สุด เพื่อเป็นการรักษาเครดิตของตัวเองดีกว่าการค้างชำระ และหนีหายไปนะคะ

  1. หนี้มรดก

หนี้นับเป็นมรดกที่จะสามารถตกไปสู่ลูกหลานของเราได้หากไม่มีการจัดการวางแผนการเงินที่ดี เมื่อเราเสียชีวิตลง และคงเหลือภาระหนี้สินไว้ เช่น หนี้บ้าน หนี้รถ เป็นต้น ผู้ที่จะต้องรีบช่วงต่อในการชำระต่อก็คือทายาทของเรานั่นเอง ซึ่งถ้าหากเราไม่อยากให้ลูกหลานต้องลำบาก จึงเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งปลดล็อกหนี้ที่อาจจะเป็นมรดกตกทอดไปสู่ลูกหลานของเราได้ค่ะ

  1. หนี้นอกระบบ

นับว่าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดหนี้สินมากที่สุด เนื่องจากมีดอกเบี้ยที่แพงมากกว่าสถาบันการเงิน และมีความสุ่มเสี่ยงต่ออันตรายในการทวงถามหนี้ ซึ่งหากใครที่หลงไปกู้เงินนอกระบบมาใช้ในยามวิกฤติ วิธีที่จะปลดล็อกวงจรนี้โดยเร็วที่สุดคือการยื่นขอพิจารณาสินเชื่อส่วนบุคคลจากสถาบันการเงิน เพื่อนำมาล้างหนี้นอกระบบให้หมด นอกจากดอกเบี้ยจะน้อยกว่าแล้วยังมีความปลอดภัยต่อการทวงถามหนี้มากกว่าอีกด้วย

วิธีในการปลดล็อกหนี้ดังกล่าวให้การเงินกลับมาสดใส สามารถแก้ได้โดยเข้าร่วมคลินิกแก้หนี้ โดย SAM

คลินิกแก้หนี้โดย SAM คืออะไร

คือ คลินิกแก้หนี้ที่ช่วยเหลือปัญหาคนที่มีหนี้เสีย เช่น หนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมในโครงการ โดยสามารถเข้าร่วมได้ผ่านช่องทาง ดังนี้

www.คลินิกแก้หนี้.com
www.debtclinicbysam.com
– Line ID @debtclinicbysam
– สมัครด้วยตนเองที่โครงการคลินิกแก้หนี้

สุดท้ายนี้วิธีที่จะปลดล็อกหนี้แต่ละประเภทได้อย่างดีที่สุด คือการสร้างและรักษาวินัยทางการเงินของตัวเองเป็นอย่างดี แบ่งสัดส่วนการใช้จ่ายอย่างเหมาะสมและการเงินของคุณจะกลับมาสดใสอย่างแน่นอนค่ะ

6 สิ่งนอกเหนือจากเงินที่ควรลงทุน ให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีพลาด

6 สิ่งนอกเหนือจากเงินที่ควรลงทุน ให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีพลาด

6 สิ่งนอกเหนือจากเงินที่ควรลงทุน ให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีพลาด

ชีวิตคนเราเกิดมาทั้งทีต้องใช้ให้คุ้ม อนาคต ความฝันที่วาดเอาไว้ต้องเป็นจริง ซึ่งกว่าที่ภาพจินตนาการของเรากลายเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นชัดเจนขึ้นมา เราก็ต้องลงทุนไปเยอะเพื่อให้ได้ผลตอบแทนกลับมาที่คุ้มค่า

แน่นอนว่าการลงทุนที่หมายถึงไม่ใช่แค่การลงทุนในรูปแบบเงินแต่เพียงเท่านั้น แต่รวมไปถึงการลงทุนพื้นฐานที่ช่วยเพิ่มศักยภาพของชีวิตได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มพูนทักษาบนชีวิตจริงเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างไม่ประมาท และก้าวไปสู้เป้าหมายได้อย่างสำเร็จ ซึ่งการลงทุนที่ว่าจะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

  1. ลงทุนความรู้

เพราะความรู้นั้นเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ก่อนที่จะไปต่อยอดก้าวอื่น ๆ ให้กับชีวิต และยิ่งเรามีโอกาสในการพัฒนาความรู้ตนเองมากเท่าไหร่ การที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันการเข้าถึงความรู้มีมากมาย ไม่ว่าจะคอร์สเรียนออนไลน์ หนังสือ E-book ที่จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ และสร้างประโยชน์โดยง่ายที่สุด

  1. ลงทุนชีวิต

ก่อนที่จะไปลงทุนให้กับผู้อื่น เราควรลงทุนให้กับชีวิตของตนเองเป็นลำดับแรก เพราะสิ่งที่มีค่ามากที่สุดมากกว่าเงิน หรือสิ่งอื่นใด คือการใช้ชีวิตของเรามีความสุข ค้นหาความสุขให้กับตนเอง

  1. ลงทุนในสิ่งที่ชอบ

ชีวิตคนเราช่างแสนสั้น ถ้าจะลงมือทำอะไรสักอย่างควรทำในสิ่งที่รัก หรือถนัด เพราะหมายถึงว่าเราจะมีแพชชัน หรือเป้าหมายที่จะมุ่งมั่นทำให้ชีวิตของเราประสบความสำเร็จ เริ่มมองหาจากสิ่งที่เราสนใจ ค่อย ๆ ไล่ระดับลงไป มองหาช่องทางที่จะเปลี่ยนจากความชอบ ที่ไม่ใช่แค่ความชอบแต่ยังสามารถลงทุนต่อยอดไปได้อีกไกล

  1. ลงทุนสุขภาพ

ต้นทุนของการมีสุขภาพที่ดีไม่จำเป็นต้องลงทุนใช้เงินมหาศาล เพียงแค่ใส่ใจกับตนเอง หันมาออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ยิ่งถ้าหากเรามีสุขภาพที่ดีก็จะส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยน้อยลง ไม่ต้องเดินเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นประจำ

  1. ลงทุนเวลา

คนทุกคนล้วนแต่มีเวลาที่เท่ากันในทุก ๆ วัน แต่มีการใช้เวลาที่แตกต่างกันออกไป สิ่งที่ทุก ๆ คนควรลงทุนคือการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ ให้เวลาของการทำงาน การพักผ่อนสัมพันธ์กัน เพื่อที่จะได้ทุ่มเทกับการทำงานได้อย่างเต็มที่ และได้มีเวลาค้นหาสิ่งใหม่ ๆ รอบตัวเพื่อไปต่อยอดการทำงานของตนเอง

  1. ลงทุนความรัก ความสัมพันธ์

ความรัก และความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ประเมินค่าด้วยเงินไม่ได้ ฉะนั้นการสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนในระยะยาวอย่างมั่นคง ควรค่าแก่การลงทุนอย่างมาก เพราะไม่ใช่แค่เราจะได้มอบความรัก ความรู้สึกให้แก่ผู้อื่น แต่ผู้ที่ได้รับความรักก็จะรู้สึกอุ่นใจได้อย่างไม่มีเงื่อนไขใดใด

การลงทุนกับชีวิตมีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งล้วนแต่เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้เราไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างสำเร็จ ถ้าใครที่กำลังต้องการปูพื้ฐานให้กับชีวิต ลองลงทุนกับชีวิตเหล่านี้รับรองได้ว่าชีวิตของเราจะก้าวไปได้อย่างไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก The Secret Sauce EP.51 จาก The Standard

เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : เศรษฐกิจต้องพึ่งจิตใจ : วันจันทร์ที่ 26 เมษายน2564

เศรษฐกิจ​ต้องพึ่งจิตใจ

ในท่ามกลางข้อมูล​ที่ไหลบ่า​ บ้างก็มีที่มา​ บ้างก็มาลอย ๆ​ บ้างก็อ้างว่ามาจากคุณหมอ​ บ้างก็ตั้งตนเป็นคุณหมอ (อาจมีปมว่าตอนนั้นเอ็นทรานซ์ (Entrance)​ไม่ติดแพทย์​ เลยสะกดจิต​ตัวเองให้เป็นคุณหมอตอนนี้ด้วยการแชร์​ข่าวมั่ว)​ ก็ไม่ว่ากัน​ จนบรรยากาศ​ตอนนี้ของประเทศที่เคยมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็นเลขศูนย์​อันดับต้น ๆ ของโลกเมื่อหลายเดือนก่อนโน้น​ กลับมาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทะลุ 2,000 คนต่อวัน​ มีความตื่นตระหนกแต่ไม่ตระหนักถึงหน้าที่ของตนเอง​ ได้แต่โยนให้เป็นภาระสาธารณสุข​และบุคลากรท​างการแพทย์​ ไม่ได้ดั่งใจก็ลงเฟซบุ๊ก… เคยถามตนเองหรือไม่ว่า​ ในยามนี้ท่านจะสร้างศึกสงครามบนโลกการสื่อสารกับใคร ใครเป็นอริราชศัตรูของเรา ไม่มีเลย… มันคือความกลัวของตัวเรา​ ก็ไหนว่าเราเป็นชาวพุทธ ร่ำเรียนมาว่า​ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย​ ล้วนเป็นอนิจจัง​ ความรู้ความตั้งใจตอนลาพักร้อน​ ช่วงวันหยุดไปปฏิบัติธรรมมันหายไปไหน​ เราทั้งหมดไม่ได้อยู่ในเรือลำเดียวกัน​ หากแต่เราอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน​ หากเรายังไม่มี วินัยและความเมตตาต่อกัน​ ยากที่จะหนีพ้นไปกับสงครามนี้​ ที่สุดมันคือโศกนาฏกรรม​ร่วม​ 

ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านลองอ่านถ้อยความเหล่านี้ที่เป็นหลักยึดของมดงาน บุคลากร​ทางการแพทย์​ ทั้งชายและหญิงที่เป็นทหารราบแนวหน้า​ แล้วถามใจท่าน ๆ รวมถึงตัวผู้เขียนเองว่า​ ท่านเหล่านั้นมีวินัยและความรักความเมตตา​ต่อผู้คนไม่ว่า​ ยากดีมีจน จะนิสัยดี​นิสัยเลว (บางคนต้องบอกว่าเลยชั่วไปหลายกิโลเมตร) จะมีตำแหน่งหรือไม่​ อยู่หรือไม่​ ผู้เขียนคิดว่า​ คุณหมอ​ คุณพยาบาล​ เวรเปล​ แม่บ้าน​ มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม​ ถ้อยคำนั้นมีอยู่ว่า

 

ขอให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่งประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ลาภ ทรัพย์และชื่อเสียงก็จะตกแก่ท่านเองเมื่อท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์

ฉันไม่ต้องการให้พวกเธอเป็นคุณหมอเท่านั้นแต่ฉันต้องการให้พวกเธอมีความเป็นมนุษย์ด้วย

คุณลักษณะสำหรับการเป็นแพทย์นั้น คือ ความเชื่อถือไว้วางใจ

1.ท่านต้องมีความเชื่อในความสามารถของตนเอง คือ มีความมั่นใจ

2.ท่านต้องมีความไว้ใจระหว่างแพทย์กันเอง คือ ความเป็นปึกแผ่น

3.ท่านต้องได้รับความเชื่อถือจากคนไข้ของท่าน คือ ความไว้ใจของคณะชน

คุณสมบัติ 3 ประการนี้เป็นอาวุธ เกราะ และเครื่องประดับอันงามของแพทย์ การจะได้รับความไว้ใจของคนไข้ของท่าน ถือสุภาษิตว่า ใจเขา ใจเรา

กลับมาที่ระบบเศรษฐกิจ​ไทย​ เครื่องยนต์​ที่จะลืมตาอ้าปากได้คงจะมีแต่เรื่องการส่งออก​ เพราะประเทศใหญ่ ๆ ต่างกลับมามีการเจริญเติบโต​และหากประเทศ​เหล่านั้นตั้งหลัก​ และนำเข้าสินค้าไทยเราเพิ่มได้แล้วก็น่าจะทำให้ประเทศเราเติบโต​ได้พื้น ๆ ก็ต้องมีว่า​ สัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (Gross Domestic Product : GDP) เติบโตได้สัก​ 2% ขึ้นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์​พูดคุยกันในเวทีเสวนาของ​ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (Thailand Development Research Institute หรือ TDRI) ​ในส่วนการใส่เงินของภาครัฐในการเยียวยา​ การ​กระตุ้น​ การฟื้นฟูก็คงเป็นไปตามตัวเลขที่เปิดเผย​ คงเดินไปตามระบบราชการ (แบบบ่น ๆ เบื่อ ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นแต่ประเทศเราประเทศเดียว)​ และเราๆท่านๆที่เป็นคนส่วนใหญ่คงต้องเดินทางไปในอุโมงค์​ที่มีปลายแสงสว่างอยู่ไกลๆกันอย่างน้อยก็จนถึงไตรมาสสา​มปี​ 2565​ ดังที่มีคนพยากรณ์​เอาไว้​

ในการเดินทางร่วมกันของปวงชนชาวไทย​ จนตลอดรอดฝั่ง​ จะชั่วดีถี่ห่างก็ไทย​ด้วยกัน​ ชาวสาธารณสุข​และบุคลากรทางการแพทย์​ได้ทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้ว​ เรา ๆ ท่าน ๆ ได้ทำในสิ่งที่เรียกกันว่าวินัยและความรักความเมตตาต่อกันแล้วหรือไม่อย่างไร​ เศรษฐกิจ​มีชีวิต​ ต้องพึ่งวินัย​ พึ่งความรักความเมตตาก็วันนี้แหละครับ

ไม่ว่างจริง ๆ ส่งตัวแทนไปตรวจเครดิตบูโร ทางไหนได้บ้างนะ

ตรวจเครดิตบูโร

ยื่นคำร้องขอตรวจเครดิตบูโร ต้องไปด้วยตัวเองเท่านั้นจริงเหรอ?

คำตอบคือ “ไม่จริง” ค่ะ

ในกรณีที่คุณเกิดเหตุสุดวิสัย ไม่สะดวกไปตรวจเครดิตบูโรด้วยตัวเอง สามารถส่งตัวแทน หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นตรวจเครดิตแทนได้โดยไปยังสถานที่ตรวจเครดิต ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ดังนี้

หลักฐานการยื่นคำร้องขอตรวจเครดิตบูโรกรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน
✔ หนังสือมอบอำนาจบุคคลธรรมดา กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน
(ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่ https://www.ncb.co.th/check-your-credit-bureau/request-credit-bureau-doc-download)

✔ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง
✔ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง

ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สำหรับการมอบอำนาจมีที่ไหนบ้าง

วันจันทร์-วันศุกร์

📍 1. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวิร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น 2
🕘 เวลา 9.00 – 16.30 น.

 

📍 2. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี)
🕘 เวลา 9.00 – 15.30 น.

 

วันจันทร์-วันอาทิตย์

📍 3. ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 1
🕘 เวลา 9.00 – 15.30 น.

———————————————–

ข้อมูลเพิ่มเติม
🌐 www.ncb.co.th
💌 consumer@ncb.co.th
👥 Facebook : ilovebureau
▶️ YouTube : ilovebureau
🖼 Instagram : ilovebureau
📲 Line : @ilovebureau
Bureau Chatbot Add Friend : https://lin.ee/o0AQ8ya

คอลัมน์ เครดิตบูโรคิดเป็นเห็นต่าง : ตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ อยู่ไหนก็ตรวจได้ ปลอดภัยไร้โควิด : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับวันศุกร์ 23 เมษายน 2564

ตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ อยู่ไหนก็ตรวจได้ ปลอดภัยไร้โควิด

สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในขณะนี้ เราควรห่างไกลในการพบปะหน้าตา แต่เราสามารถใกล้ชิดกันผ่านออนไลน์ได้ครับ

เครดิตบูโรให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของข้อมูลในการตรวจเครดิตบูโรได้อย่างรวดเร็ว หลากหลายช่องทาง อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเอง เตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ ทำให้ลูกค้ารู้สถานะหนี้ มีวินัยทางการเงิน สามารถวางแผนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อป้องกันภัยการเงินในยุคปัจจุบันอีกด้วย

ล่าสุด เครดิตบูโรร่วมกับธนาคารกรุงไทย ขยายช่องทางบริการตรวจข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่งผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT อำนวยความสะดวกให้ลูกค้ารับรายงานได้ทางอีเมลภายใน 24 ชั่วโมงนับจากทำรายการและชำระเงินสำเร็จ สะดวกรวดเร็วกว่าการเลือกรับเอกสารผ่านทางไปรษณีย์ ที่ต้องรอภายใน 7 วันทำการ 

เครดิตบูโรได้พัฒนาการให้บริการที่มีรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในสังคมยุคดิจิทัลและในสถานการณ์โควิด-19 ที่เน้นการรักษาระยะห่าง (Social Distsncing) ลดการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้น การตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ที่จะได้รับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ถือเป็นการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของเจ้าของข้อมูลที่ปลอดภัยจากโควิด-19 และสะดวกอย่างยิ่ง

นอกเหนือจากบริการใหม่ล่าสุด ลูกค้าสามารถตรวจเครดิตบูโรออนไลน์ในช่องทางอื่น ๆ ได้ ผมสรุปได้ดังนี้ครับ

แบบรับรายงานทางอีเมล รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit report) ปลอดภัย สะดวก รวดเร็ว ได้แก่

1.โมบายแอปธนาคารเกียรตินาคินภัทร “KKP e-Banking” รับรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ทางอีเมล…ได้ทันที

2.โมบายแอปธนาคารกรุงไทย “Krungthai NEXT” รับรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง ทางอีเมล ภายใน 24 ชั่วโมง (ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด)

3.โมบายแอปธนาคารทีทีบี “ttb touch” รับรายงานทางอีเมลภายใน 3 วัน

 แบบรับรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 7 วันทำการ ได้แก่

1. โมบายแอปธนาคารทีทีบี กรุงไทย

2. ธนาคารออนไลน์ ธนาคารกรุงศรี กรุงไทย (สำหรับผู้ที่มีบัญชีธนาคาร)

 กรณีชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรศัพท์มือถือ และที่อยู่ของท่านมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาปรับแก้ไขในระบบให้ถูกต้อง ก่อนใช้บริการครับ

 โปรดรักษาสุขภาพ ป้องกันดี มีวินัย ปลอดภัยทุกท่าน ครับ

อย่าได้โดนหลอกลวง รู้ทันพฤติกรรมโจรการเงินที่อาจแฝงมาอยู่ใกล้คุณแบบไม่รู้ตัว

อย่าได้โดนหลอกลวง รู้ทันพฤติกรรมโจรการเงินที่อาจแฝงมาอยู่ใกล้คุณแบบไม่รู้ตัว

อย่าได้โดนหลอกลวง รู้ทันโจรการเงินที่อาจแฝงมาอยู่ใกล้คุณแบบไม่รู้ตัว

แม้ว่าในยุคนี้โลกโซเชียล ดิจิทัลกำลังมาแรงเนื่องจากสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ง่ายต่อการสื่อสาร การทำธุรกรรม แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ใช้โอกาสนี้ในการหลอกลวงให้ผู้อื่นโอนเงิน และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการหลงกล “โจรการเงิน” ที่แฝงตัวมาอย่างเนียน ๆ เราต้องมาเตรียมพร้อมรู้ทันรูปแบบที่คนกลุ่มนี้มักชอบแฝงตัวมากันดูค่ะ

แฝงตัวในรูปแบบอีเมลธนาคาร

กลลวงของโจรที่มักจะใช้เป็นประจำ คือมาในรูปแบบของไซเบอร์ โลกออนไลน์โดยเฉพาะการส่งอีเมล ซึ่งจะแนบลิงก์ URL ของเว็บไซต์ธนาคาร เพื่อให้เราเข้าไปสมัครกรอกข้อมูลส่วนตัว อาทิ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน เป็นต้น และหลังจากที่ได้ข้อมูลเราไปก็จะสวมรอยเป็นตัวเราทันที

แฝงตัวในรูปแบบ SMS ชิงโชค

วิธีหนึ่งที่โจรมักนิยมใช้คือการเจาะข้อมูลเพื่อค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของเราและส่งข้อความในรูปแบบ SMS โดยมีข้อความ พร้อมลิงก์ระบุประโยคเช่น คุณเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัล กรุณากรอกข้อมูลของคุณผ่านลิงก์นี้ เป็นต้น ซึ่งหากเรากดเข้าลิงก์นั้นไปโจรก็จะสามารถเก็บข้อมูล และบันทึกการใช้งานของคุณนำไปสวมรอยได้นั่นเองค่ะ

แฝงตัวในรูปแบบร้านค้าออนไลน์

กลลวงรูปแบบออนไลน์อีกแบบหนึ่งที่มักจะเจอกันอยู่บ่อย ๆ คือการอ้างว่าตัวเองเป็นร้านค้าออนไลน์ ขายของพร้อมส่ง โจรรูปแบบนี้มักจะมีคำพูดเพื่อมาโน้มน้าว ชักจูงชวนให้เชื่อ และเมื่อเราหลงเชื่อ ก็จะเกิดการตกลงพร้อมให้โอนเงิน ซื้อของ และก็จะเนียนหายตัวไปโดยที่เราไม่สามารถตามตัวได้เลย

แฝงตัวในรูปแบบพนักงาน หรือนักธุรกิจ

มักมาหลอกลวงโดยการแอบอ้างว่าเป็นพนักงานขาย หรือนักธุรกิจ โดยจะแต่งตัว ใช้คำพูดที่เป็นทางการ เพื่อให้ดูมีความจริงจังมาหลอกล่อให้เราไปร่วมทำธุรกิจร่วมกันกับเขา พอเริ่มหลงกลก็จะหลอกให้โอนเงินไปให้ก่อนเพื่อทำสัญญาว่าจ้าง และหาข้าอ้างว่าธุรกิจเกิดปัญหา ท้ายที่สุดก็ชิ่งเงินหนีไปเนียน ๆ นั่นเองค่ะ

แฝงตัวในรูปแบบเพื่อน

กลลวงที่แนบเนียน และแยบยลที่มาแบบที่เราไม่รู้ตัวมากที่สุดคือ การแฝงตัวมาในรูปแบบเพื่อน หรือสวมรอยเป็นเพื่อนอ้างว่า เดือดร้อนต้องการใช้เงินด่วนให้โอนเงินมาเลขบัญชี ซึ่งหากเราไม่เอะใจสงสัยพฤติกรรมรับรองได้ว่าเราจะเสียท่าให้กับโจรอย่างแน่นอนค่ะ

ภัยการเงินนับวันยิ่งเข้ามาใกล้ตัวเราขึ้นทุกที ฉะนั้นก่อนที่จะใช้จ่าย หรือทำธุรกรรมใดก็ตาม ควรมีสติ รอบคอบ และระมัดระวังตัวอย่างถึงที่สุดนะคะ

หลักการออมขั้นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งง่าย ๆ ได้ทุกช่วงวัย ฉบับมือใหม่หัดออม

หลักการออมขั้นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งง่าย ๆ ได้ทุกช่วงวัย ฉบับมือใหม่หัดออม

หลักการออมขั้นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งง่าย ๆ ได้ทุกช่วงวัย ฉบับมือใหม่หัดออม

อยากออมเงินให้เห็นผลต้องเริ่มต้นจากตรงไหน ?

เชื่อว่าในทุก ๆ ช่วงวัยคงจะมีรูปแบบการออมเงินที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล แม้ว่าการออมเงินหลาย ๆ คนอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องยาก แค่เก็บเงินแต่ละเดือนก็ทำได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดค่ะ แต่การจะออมเงินให้สร้างความมั่งคั่ง และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แค่ออมเงินอย่างสม่ำเสมออย่างเดียวคงไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการออมเงินในรูปแบบไหน สิ่งที่สำคัญในการเริ่มต้นสำหรับมือใหม่หัดออม คือหลักการออมเงินขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีหลักการสากลง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

หลักการออมขั้นพื้นฐาน 3 แบบ

– รายรับ – รายจ่าย = เงินออม

– รายรับ – เงินออม = รายจ่าย

– หักเงินออม 20% ของรายรับทั้งหมด

เหตุผลที่ควรมีหลักการออมเบื้องต้นยึดเป็นหลักไว้ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยเราจะได้มีเป้าหมายที่แน่ชัดในการเริ่มต้นในการออม และเพื่อที่จะได้วางแผนการเงินในอนาคตต่อไปได้ พอเราได้หลักการ ก็จะได้แนวทางการออม เพื่อที่จะสร้างความมั่งคั่งต่อไปได้ค่ะ

แนวทางการออมเบื้องต้น

การออมก็เปรียบเสมือนกับการลงทุนอย่างหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต ยิ่งเราออมเงินมากเท่าไหร่ ในอนาคตเราจะมีเงินไว้ใช้มากเท่านั้น มาลองดูแนวทางการออมเงินเบื้องต้นที่ไม่ว่าใครก็ทำได้กันค่ะ

  1. ออมด้วยตัวเอง

แนวทางการออมเงินด้วยตัวเองส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ชีวิตของแต่ละบุคคล เช่น เก็บแบงก์ 50 บาท เก็บเหรียญ ออมเงินตามวันที่ ออมเงินตามสัปดาห์ เป็นต้น

  1. ออมด้วยฝากประจำ

การฝากประจำเหมือนเป็นแนวทางการออมเงินรูปแบบหนึ่งที่ดูแล้วคล้ายกับการพักเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง   ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ และผลตอบแทนที่ไม่สูง แต่เพราะด้วยที่เราจะต้องทำการฝากอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ เดือน การออมเงินแบบนี้จะช่วยสร้างวินัยทางการเงินได้อย่างเคร่งครัด ให้เราสามารถสร้างความมั่นคงในอนาคตแบบง่าย ๆ ได้

  1. ออมผ่านกองทุนรวม

กองทุนรวมไม่ใช่แค่การออมเงิน แต่นับเป็นการลงทุนด้วยเนื่องจากมีความเสี่ยงปานกลางไปจนถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลพอร์ตการเงินของตัวเอง กองทุนรวมก็จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยจัดการดูแลให้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกกองทุนเอง หรือ DCA ในจำนวนที่เท่า ๆ กันในแต่ละเดือน แต่ทั้งนี้เราก็ควรต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจการลงทุนด้วยเช่นกัน

  1. ออมหุ้น

เช่นเดียวกับกองทุนรวม แต่หุ้นจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่า และจะต้องมีเวลาคอยอัปเดตข่าวเดตอยู่ตลอดเวลา ทั้งต้องมีความรู้พื้นฐานการงทุนมาในระดับหนึ่ง ฉะนั้นหากใครที่ต้องการออมเงินในรูปแบบนี้จะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ

  1. ออมทอง

การออมทองถือเป็นการออมเงินที่มีความผันผวน และความเสี่ยงที่สูง แต่มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยกว่าทรัพย์สิน หรือการออมในรูปแบบอื่น ๆ โดนสามารถเริ่มออมจากจำนวนเงินทีละเล็ก ๆ เมื่อครบกำหนดก็สามารถถอนออกมาเป็นทอง หรือขายเพื่อนำเงินมาก็ได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้หลักการออมเงินไม่มีอะไรที่แน่ชัดตายตัว ขึ้นอยู่กับความถึงพอใจของแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีการวางแผนอย่างชัดเจนว่าเราจะออมเงินไปเพื่ออะไร และเหมาะสมกับการออมเงินในรูปแบบไหน ซึ่งถ้าหากหาทางที่ใช่เจอแล้ว การสร้างความมั่นคั่งในชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะค่ะ

เรื่องน่าอ่าน