Blog Page 118

5 ช่องทางเพิ่มรายได้สไตล์คนเจนวาย

5 ช่องทางเพิ่มรายได้สไตล์คนเจนวาย

เมื่อคนเจนวายใช้เงินเก่ง ก็ควรที่จะหาเงินเก่งด้วยเช่นกัน และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้คนเจนวายมีโอกาสในการหารายได้เสริมได้ง่ายขึ้น และนี่เป็นไอเดียในการหารายได้เสริมในแบบฉบับชาวเจนวาย

• ขายของออนไลน์ สำหรับคนเจนวายที่มีหัวคิดการค้าและชอบการค้าขายผ่านช่องทาง Social เช่น Facebook, Instagram เป็นต้น น่าจะสนุกกับการขายสิ่งที่ตัวเองสนใจ ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องตุนสินค้า

• ทำ Freelance รับเขียนบทความ หรือใครเป็นคนครีเอทมีความคิดสร้างสรรค์ ทำกราฟิกได้ เป็นต้น เป็นอาชีพที่น่าสนใจ มีอิสระ ไม่ต้องเข้าออฟฟิศ เหมาะกับไลฟ์สไตล์เจนวาย หรือถ้ามีงานประจำอยู่แล้วก็ยึดเป็นอาชีพเสริมได้

• ถ่ายภาพขายออนไลน์ สำหรับคนเจนวายที่ชอบเล่นโทรศัพท์ ชอบถ่ายรูปสวยๆ สร้างพอร์ตภาพออนไลน์ขาย เช่น Shutterstock เป็นต้น รายได้ต่อดาวน์โหลด ขึ้นอยู่กับการให้ราคาของผู้ซื้อออนไลน์รายนั้นๆ

• รับหิ้วของ สำหรับคนเจนวายที่รักการชอปปิ้งและท่องเที่ยวก็หารายได้เสริมเป็นค่าขนมได้ ราคารับหิ้วสินค้าขึ้นอยู่กับขนาดของและการจัดส่ง

• ทำเพจรีวิว สำหรับคนเจนวายที่รักสินค้ากลุ่มใดเป็นพิเศษ และมีความเชี่ยวชาญจนคนอื่นให้ความเชื่อถือ เช่น รีวิวภาพยนตร์, รีวิวอาหาร, รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวเครื่องสำอาง เป็นต้น รายได้จะมาจากค่าโฆษณาสินค้าหรือร้านค้าที่นำมาลงในเพจนั้นเอง

6 ข้อควรระวังในการเป็นเจ้าของบัตรเครดิต

6 ข้อควรระวังในการเป็นเจ้าของบัตรเครดิต

บัตรเครดิต ช่วยให้เราใช้จ่ายได้สะดวกคล่องมือ แต่ถ้าสะดวกมากไป ก็อาจทำให้บางคนเผลอจ่ายเกินตัวไปได้ง่ายๆ รู้ตัวอีกที อาจมีหนี้ท่วมถึงหัวจนรับผิดชอบไม่ไหว แถมประวัติเครดิตยังเสียหายอีกด้วย

• จ่ายหนี้ล่าช้า มีผลกว่าที่คิด เพราะการจ่ายบิลบัตรเดรดิตล่าช้าไปเพียงไม่กี่เดือน ไม่ว่าจะเพราะลืม หรือเงินฝืดก็ตาม อาจส่งผลให้ยอดหนี้พอกพูนขึ้นเพราะดอกเบี้ย

• กดเอาเงินสด ห้ามทำถ้าไม่จำเป็น เพราะจะถูกคิดดอกเบี้ยรายวันอัตราสูงสุดถึง 20% ต่อปี แถมยังต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก 3% พร้อมกับ VAT 7% อีกด้วย

• จ่ายขั้นต่ำทำดอกเบี้ยพุ่ง การจ่ายหนี้บัตร 10% ของยอดการใช้จ่ายทั้งหมด ยอดหนี้ที่เหลือจะถูกยกไปทบในงวดต่อๆ ถ้าเราเอาแต่จ่ายขั้นต่ำไปเรื่อยๆ หมายความว่าก้อนหนี้จะยิ่งพอกพูนใหญ่ขึ้น

• ป้องกันบัตรเครดิตให้พ้นจากมือโจร ถ้าใช้บัตรเครดิตไม่ระมัดระวัง บัตรเครดิตอาจทำให้เราตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้

• เอาชนะความอยากให้ได้ เราไม่ควรรูดซื้อของที่ไม่จำเป็น ของฟุ่มเฟือย หรือของที่ไม่ก่อรายได้ ควรตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้ในใจ ว่าในแต่ละงวดจะรูดใช้ไม่เกินจำนวนเท่าไร

• เครดิตบูโร เรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจ ควรหมั่นไปตรวจเครดิตบูโร เพื่อตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตัวเอง ว่าถูกต้องตามที่เราเข้าใจหรือไม่ ถ้าพบว่าข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง จะได้ทำเรื่องขอแก้ไขได้ทันท่วงที

6 เทคนิคชอปปิงให้มีเงินเหลือเก็บออมไปพร้อมกัน

6 เทคนิคชอปปิงให้มีเงินเหลือเก็บออมไปพร้อมกัน

การชอปปิงเป็นการใช้จ่ายที่สามารถวางแผนได้นะคะ เพราะเราจะรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องใช้จ่ายอะไรบ้าง ดังนั้นถ้าไม่อยากชอปจนเงินหมดก็ต้องใช้เงินอย่างมีการวางแผนและมีสติค่ะ เพื่อที่จะได้มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้แถมได้ของครบครันด้วยค่ะ

  1. อย่าชอปตอนต้นเดือน เก็บเงินก่อน แบ่งค่าใช้จ่ายก่อน ดังนั้นเทคนิคแรกชอปช่วงใกล้สิ้นเดือน ส่วนมากไม่ค่อยมีคนชอป บางทีร้านค้าก็ลดราคาเพื่อดึงลูกค้า

  2. ฝึกวินัยในตัวเอง วางแผนไว้ว่าจะชอปอะไรบ้างอย่างละกี่ชิ้น ลิสต์มาว่ามีจำนวนเท่าไหร่ หลังจากวางแผนแค่ไหนก็ซื้อแค่นั้น ต้องเคร่งครัดในวินัยที่เราวางแผนไว้

  3. รอลดราคา รอชอปปิงตอนลดราคา บางช่วงห้างสรรพสินค้าลดราคา 20-70% ค่ะ รับรองว่าประหยัดชัวร์

  4. ใช้เงินสด การชอปปิงไม่ควรใช้บัตรเครดิตค่ะ ถึงมีก็ไม่ควรใช้ เพราะจะใช้เพลินจนไม่รู้ลิมิตของตัวเอง แนะนำให้ใช้เงินสดที่มีในกระเป๋า เพราะเราจะรู้ทันทีว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่ เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือไม่

  5. อย่าชอปเพราะเพื่อนชวน ข้อนี้สำคัญนะคะ บางทีเพื่อนชวนเพราะเพื่อนกำลังอยากชอป ถ้าเราไปทุกครั้งที่เพื่อนชวนรับรองชอปตามเพื่อนทุกครั้งแน่นอนค่ะ

  6. ห้ามกดเงินสดจากบัตรเครดิต ไม่ควรกดเงินสดจากบัตรเครดิตออกมาใช้เป็นอันขาด เพราะการกดเงินสดจากบัตรเครดิตนั้น คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคารในอัตราที่สูง และที่สำคัญก็คือค่าธรรมเนียม 3% ที่เรียกเก็บจากการกดเงินออกมาให้ในแต่ละครั้ง นั่นหมายความว่ายอดหนี้ของคุณจะเพิ่มมากกว่าจำนวนเงินที่กดจริง

7 อุปนิสัยเศรษฐีที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

7 อุปนิสัยเศรษฐีที่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ในยุคสมัยที่สังคมให้คุณค่ากับภาพลักษณ์ภายนอกด้วยแล้ว การมีวินัยและแผนการเงินจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในวันนี้เป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องอย่าลืมคิดถึงวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน

  1. ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มีคววามอุตสาหะ คนจะรวยต้องคิดว่าความรวยเป็นขึ้นอยู่กับความสามารถและความอุตสาหะ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ

  2. ชีวิตคือการเรียนรู้ ทำตัวเองเป็นแก้วน้ำว่างเปล่าที่พร้อมจะค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆ ทั้งในด้านการงานและการเงิน ยิ่งคุณมีความรู้มากเท่าไหร่ ก็จะมีความก้าวหน้าและบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นเท่านั้น

  3. หาทางต่อทุนให้งอกเงย ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าถ้าหาเงินมาได้จะเอาไปลงทุนอะไรต่อดีเพื่อที่จะได้บรรลุเป้าหมายทางการเงินที่กำหนดไว้

  4. ใช้จ่ายเมื่อจำเป็น เข้าใจความแตกต่างระหว่างความจำเป็นและความต้องการ ก่อนจะใช้จ่ายเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์จะต้องคิดอ่านให้รอบคอบ

  5. ไม่ประมาท พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน ลองคิดดูว่าถ้าทรัพย์สินของคุณเสื่อมสลายไปจะทำอย่างไร เตรียมการวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อที่จะได้ไม่ติดขัดในเวลาฉุกเฉิน

  6. อย่าทำตัวเหมือนคนรวย เพราะถ้าคุณทำตัวให้เหมือนคนรวย จะมีค่าใช้จ่ายตามมาพร้อมกับความรวยจากการใช้ของแบรนด์เนมต่างๆ แต่การทำตัวให้รวยนั้นไม่จำเป็นต้องโอ้อวด

  7. มีวินัยทางการเงิน พยายามเสริมสร้างนิสัยทางการเงินที่ไม่หวังการพึ่งพาคนอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกู้ยืมนั่นเอง รักษาวินัยของพฤติกรรมทั้งในด้านการทำงานและการใช้เงิน

4 วิธีจัดการการเงินที่เหมาะสมในแบบคนเจนวาย

4 วิธีจัดการการเงินที่เหมาะสมในแบบคนเจนวาย

เรื่องของการเงินเป็นเรื่องที่ต้องวางแผน ถึงแม้จะอยู่ในเจนวาย ก็ต้องเตรียมการเผื่อวันข้างหน้าและวัยเกษียณด้วย การจัดการการเงินและการออมจึงเป็นเรื่องสำคัญ คิดใส่ใจเรื่องเงินในตอนนี้รับรองว่าชีวิตดีแน่นอน

  1. ควบคุมค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนอย่างสมาร์ท ด้วยการทำบันทึกรายรับรายจ่ายบนแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อทำให้เรารู้สถานะทางการเงินของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา

  2. วางแผนในการเคลียร์หนี้สินในแต่ละเดือนให้หมดสิ้นตั้งแต่วันที่เงินเดือนออก ทั้งค่าที่พัก ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่างวดรถ หนี้บัตรเครดิต

  3. เมื่อจ่ายหนี้สินต่างๆ หมดแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือแบ่งเงินออม เพื่อที่จะสามารถนำเงินที่เหลือไปใช้จ่ายอื่นๆ ได้ ทางที่ดีถ้าสามารถวางแผนการออมเงินได้ จะเป็นแรงจูงใจอย่างดี เรียกง่ายๆ ว่าการตั้งเป้าหมาย เมื่อมีเป้าหมายก็ต้องมีการวางแผนการใช้เงินที่ชัดเจนขึ้น การออมส่วนใหญ่ที่แนะนำ เช่น การลงทุนหุ้น ตราสารต่าง ๆ การออมเงินสด การเข้าโครงการออมเพื่อวัยเกษียณ เป็นต้น

  4. การวางแผนภาษี เพราะต้องเสียภาษีทุกคน ดังนั้นการวางแผนทางการเงินจะทำให้เรารู้ว่าการลงทุนใดสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้บ้าง เช่น ความรู้ในการซื้อ LTF/RMF และประกันชีวิต ที่สามารถนำมาหักลดหย่อนเพิ่มเติมได้

Say no 6 พฤติกรรมเพิ่มความจน อดทนวันนี้สบายในวันหน้า

Say no 6 พฤติกรรมเพิ่มความจน อดทนวันนี้สบายในวันหน้า

เข้าใจว่าคนทำงานก็อยากให้รางวัลกับชีวิต โดยใช้เงินซื้อความสุข ซื้อสิ่งที่ต้องการ แต่การใช้เงินต้องมีสติและระลึกถึงวันข้างหน้า ควรใช้เงินอย่างพอดี อย่ามีพฤติกรรมแบบนี้เพราะจะยิ่งทำให้จนหนักกว่าเดิม

  1. ใช้ชีวิตเกินค่าครองชีพ อยากได้ของที่อยากได้ อยากทานอาหารอร่อย แต่เมื่อต้องจ่ายเงิน คุณรู้สึกว่าหนักใจที่จะจ่ายแต่อยากซื้อ นั่นคือสัญญาณอันตรายทางการเงินที่คุณกำลังใช้เกินตัวอยู่

  2. หนักไม่เอา เบาไม่สู้ อยากใช้เงินมาก ก็ต้องขยันให้มาก ต้องหาเงินให้พอกับความต้องการของตัวเอง

  3. ไม่มีวินัย ใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ทุกคนควรมีวินัยในการใช้เงิน ใช้เงินเมื่อพร้อม เก็บออมให้ได้ จัดสรรเงินให้ดี มีวินัยจะได้เที่ยวสมใจแถมมีเงินเก็บด้วย

  4. กลัวการตั้งเป้าหมายในชีวิต ไม่อยากกดดันตัวเอง คนเราควรที่จะยอมรับความจริงและสร้างเป้าหมายเพื่อจะได้ดำเนินชีวิตย่างมีแผนการ

  5. ใช้เงินมือเติบ หน้าใหญ่ใจโต ใช้อย่างพอดี ทำในสิ่งที่พอใจ ไม่ต้องใส่ใจคนที่แคร์ของนอกกาย เพราะยิ่งแคร์มาก ยิ่งเสียเงินมาก

  6. เล่นหวย รวยเบอร์ การลุ้นเลขเด็ดพอเล่นได้สนุกๆ เพลินๆ แต่อย่าลืมว่าโชคไม่ได้อยู่กับเราเสมอไป มีได้ก็มีเสีย อาจเสียมากกว่าได้

ทำไมเราต้องมีเงินออม

ทำไมเราต้องมีเงินออม

เมื่อถามว่าทำไมต้องมีเงินออม สมัยนี้เงินหายากแถมค่าของเงินก็ไม่ได้เยอะ ใช้ไม่เท่าไหร่ก็หมดแล้ว จะเหลือที่ไหนไปออม แต่การเจียดเงินสักนิดหน่อยเพื่อเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนมันจะมากขึ้น สามารถเป็นเงินเก็บในการหาความสุขให้รางวัลกับตัวเองได้ด้วย ประโยชน์ของการมีเงินออมนั้น เช่น

  1. เพื่อเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่เป็นเงินก้อน เช่น ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าส่วนกลางคอนโดมีเนียม ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน

  2. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำรองที่จำเป็นต้องใช้ตามโอกาส เช่น การซื้อเครื่องเรือน ซื้อรถใหม่ ภาษีสังคม เงินช่วยเหลือ เงินธรรมเนียมต่างๆ

  3. ออมเงินเพื่อให้รางวัลตนเองและคนที่เรารัก เช่น เงินใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว หรือซื้อของขวัญในวาระพิเศษสำหรับคุณพ่อคุณแม่

  4. เพื่อให้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ยามเจ็บป่วย ช่วงว่างงาน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ

  5. ออมเงินไว้ใช้ในระยะยาว เช่น การซื้อบ้าน

7 ข้อที่ต้องทำ ป้องกันการถูกโจรกรรมทางบัตรเครดิต

7 ข้อที่ต้องทำ ป้องกันการถูกโจรกรรมทางบัตรเครดิต
  1. รักษาบัตรให้ดี เซ็นชื่อหลังบัตรให้ชัดเจน บัตรเครดิตเหมือนเป็นเงินของเราเลย หวงเงินยังไง ก็หวงบัตรเครดิตอย่างนั้น ป้องกันการถูกขโมยค่ะ
  2. ตั้งรหัสการใช้งานให้ยากและเป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่างๆ จะได้ยากต่อการโจรกรรม ควรตั้งรหัสที่คนอื่นเดายากค่ะ
  3. ตรวจสอบจำนวนเงินก่อนเซ็นชื่อ เมื่อรูดบัตรทุกครั้ง ก่อนเซ็นชื่อต้องตรวจสอบยอดและรายการที่จ่ายไปให้ละเอียดก่อนเซ็นชื่อ
  4. ให้บัตรอยู่ในสายตาเราขณะชำระเงิน เพื่อป้องกันการถูกคัดลอกข้อมูลต่างๆ เลข CVC หรือ CCV แล้วแอบไปทำธุรกรรมในภายหลังโดยที่เราไม่ทราบ
  5. เก็บเซลสลิปให้ดีจนกว่าจะชำระค่าบัตร เพราะเมื่อเราได้รับใบแจ้งหนี้แล้ว เราต้องเอาเซลล์สลิปมาตรวจสอบเทียบกัน หากพบรายการใดไม่ถูกต้องจะได้ท้วงติงทางธนาคารอย่างทันท่วงที
  6. เมื่อบัตรหายรีบโทรอายัดบัตรทันที ไม่เฉพาะแค่บัตรหายหรือถูกขโมยเท่านั้น ในกรณีที่พบการเรียกตัดบัตรเครดิตในรายการที่เราไม่ได้สั่งซื้อ เราควรต้องรีบอายัดบัตรเลยค่ะ
  7. ซื้อของออนไลน์ร้านที่เชื่อถือได้เท่านั้น เช่น มีใบรับรองดิจิทัล หรือใช้ระบบลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต หรือเป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐบาล

7 ข้อที่ต้องทำ ป้องกันการถูกโจรกรรมทางบัตรเครดิต

5 สิ่งแสนง่าย ออมเงินได้เป็นก้อนในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน

5 สิ่งแสนง่าย ออมเงินได้เป็นก้อนในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน

ในแต่ละวันเราสามารถมีเงินเหลือเก็บออมได้ ไม่ต้องอาศัยหลักการยุ่งยากอะไร เพียงแค่ตั้งใจที่จะทำ เราก็มีเงินเหลือใช้เหลือออมได้ค่ะ มาดูกันว่าควรทำอย่างไร

  1. ออมก่อนใช้ ดีกว่าใช้เหลือแล้วค่อยออมนะคะ
  2. ทำอาหารกลางวันเอง ห่อไปทานที่ออฟฟิศ ประหยัดได้เยอะเลยค่ะ
  3. หยุดซื้อของฟุ่มเฟือย ใช้อะไร ใช้เท่าไหร่ซื้อแค่นั้น อย่าฟุ่มเฟือยกับของไม่จำเป็นเลยค่ะ ถึงจะไม่แพง ถ้าซื้อไปเรื่อยๆ เงินก็หมดไปโดยไม่รู้ตัว
  4. ช้อปด้วยบัตรเครดิตให้น้อยลง ซื้อเงินสดปลอดภัยกว่า เพราะมันจะไม่เกินงบ
  5. ลดการเข้าสังคม นัดเพื่อนให้น้อยลง อาจจะนัดรวมกันทีเดียวหลายๆ คน หรือจำกัดไว้เลยว่าเดือนนี้จะเจอเพื่อนกี่วัน มีงานที่ต้องไปกี่งาน จะได้วางแผนการเงินได้ถูกค่ะ

หลัก 5 ข้อง่ายๆ ไม่ต้องเข้าใจยากแค่ตั้งใจจริง แค่นี้ก็ทำได้แล้วค่ะ

5 สิ่งแสนง่าย ออมเงินได้เป็นก้อนในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน

เรื่องน่าอ่าน