Blog Page 152

คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ : “มีเสียงโวยเสมอ ถ้าหยุดเติมไวน์ ในงานรื่นเริง” : วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561

คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ

“มีเสียงโวยเสมอ ถ้าหยุดเติมไวน์ ในงานรื่นเริง”

นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561

 

มันจะมีเสียงโวยเสมอ ถ้ามีการหยุดเติมไวน์ ในขณะงานรื่นเริงกำลังสนุกสนาน

1.สุรา ไวน์  ของมึนเมา หากดื่มกินพอประมาณก็อาจกระตุ้นเลือดลมให้คึกคัก ทานอาหารอร่อยขึ้น สนทนาได้สนุกขึ้น แต่ถ้าเกินเลยไปจะเป็นปัญหาต่อสุขภาพ  อันตรายต่อตนเองและผู้อื่นหากขับขี่ยานพาหนะ และในระยะยาวแล้วผู้ที่เสพติดจะต้องมีต้นทุนที่ต้องจ่ายในเรื่องสุขภาพ  ซึ่งกว่าจะรู้สึกก็คงคิดได้ว่า … เรามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร… ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง

2.ในเรื่องของการลงทุนก็เช่นกัน ถ้าผู้ลงทุนคิด ใคร่ครวญ และคำนึงถึงความเสี่ยงเทียบกับผลตอบแทนและไม่เอาความกดดันที่ตนเองไม่รู้จะหันไปลงทุนอะไรให้มันพอกับสิ่งที่ต้องการและคาดหวังไว้ เนื่องจากในสภาพความจริงเวลานี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมันเตี้ยติดดิน แบงก์ก็ยังกำไรมากมายเกินกว่าแสนล้านในไตรมาส3ของปีนี้ดอกเบี้ยเงินกู้ขยับได้ยากเพราะจะกระทบคนกู้  เงินฝากที่เป็นฐานของแหล่งเงินกู้ก็ต้องอยู่แบบนี้มานานนับสิบปี ท่านผู้อ่านท่านใดจำได้บ้างว่าเงินฝากออมทรัพย์เราเกิน 2-3% เกิดขึ้นในปี พ.ศ.ใด มันจึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่า ผู้คนที่พอจะเก็บออมได้บ้างจึงค้นหารูปแบบการลงทุนโดยละเลย หรือตั้งใจจะไม่ได้ยินเสียงตะโกนว่ามันเสี่ยงนะเพราะคิดว่าทำดีกว่าไม่ทำ  และปลอบใจตัวเองว่า มันคงไม่เกิดขึ้นกับเรา

3.การมีบ้านเป็นของตนเอง  เป็นภารกิจศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนในสังคมเราจำนวนไม่น้อย  การพิสูจน์ตนเองของครอบครัวที่ชายเป็นใหญ่  จึงมุ่งสร้างฐานะในช่วงวัยทำงาน บ้านเป็นสินทรัพย์ชิ้นใหญ่ บ้านหลังแรกจึงเป็นเรื่องที่มุ่งเน้นไปตามความเชื่อว่า ซื้อบ้านผ่านการกู้  วางดาวน์เป็นก้อน เข้าอยู่อาศัยจริง เป็นการลงทุนสร้างฐานะ และถ้าขายไปในอนาคตก็จะได้กำไรกลับมาพอสมควร ความเชื่อ ความจริง ความงามในความมุ่งหมายจึงไม่มีใครจะโต้แย้งว่าบ้านหรือคอนโดหลังแรกจะสร้างปัญหา

4.แต่บ้านหรือคอนโดสัญญา ที่สองมันมีประเด็นที่อาจมีความเห็นต่าง เช่น

4.1 ถ้าบ้านหลังแรกอยู่ไกล อยู่ชานเมือง  การขนส่งสาธารณะยังไม่เสร็จ  รถไฟฟ้ายังไม่มาหานะเธอ ใครต่อใครก็สงสารลูกสงสารตัวเองที่จะต้องแหกขี้ตาแต่เช้าวิ่งเข้ามาในเมืองให้ทันเวลา  ถ้าเขาและเธอมีความจำเป็นจริงๆ พอมีเงินออมบ้าง  เราจะไปสร้างเงื่อนไขเพิ่มให้เขาเหล่านั้นกู้เงินมาซื้อที่อยู่อาศัยยากลำบากขึ้นอีกหรือ

4.2 แต่ถ้าบ้านหรือคอนโดหลังที่สองที่คนอีกกลุ่มมุ่งหมายจะใช้วิธีหมุนหนี้ หมุนเงิน  เกินฐานะที่จะลงทุน หวังจะกู้มาซื้อแล้วปล่อยเช่าเพื่อเอาค่าเช่ามาจ่ายค่าผ่อน  หรือวางดาวน์ปลอมๆ กู้เงินโดยเป็นสัดส่วนที่สูงของราคาที่เวอร์ เงินกู้ที่ได้ถูกทอนกลับในส่วนของเงินดาวน์ที่ลงไปก็เท่ากับว่าเขาจับเสือมือเปล่าใช่หรือไม่ พฤติกรรมมีจริงหรือไม่ถ้ามีจริงมันมากหรือน้อยมันขยายผลขยายแผลไปขนาดไหนและจะจัดการตรงนี้กันอย่างไร มาตรการฉีดยาฆ่าหญ้าโดยไม่ทำให้มะลิ กุหลาบ แก้วเจ้าจอม หรือต้นไม้หอมอื่นๆ โดนด้วยจะทำกันแบบไหน

5.ก็ไหนคนปล่อยกู้บอกตัวเองมี big data ก็ไหนคนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บอกว่าตัวเองทำธุรกิจ บน big data  ก็ไหนผู้กำกับ กรรมการบอกมีข้อมูลที่มาจาก big data ก็ไหนคนที่ทำวิเคราะห์วิจัยบอกทำมาจาก big data ทำไมจึงไม่เอาผลจาก big data ที่ท่านๆ มีมาชนกันล่ะ เอาความรู้จริงมาถกแถลง อภิปราย กัน อย่าเอาความรู้สึกให้ใช้ความรู้จริง ลึกๆ ผมในฐานะคนทำงานมีคำถามในใจว่า หรือว่าที่บอกว่าฉันมี big data ที่แท้มันคือคำพูดที่ต้องพูด มีไม่มีไม่รู้แต่ต้องพูดให้ดูดีของผู้นำองค์กรที่ตนเองมีสัญญาจ้างสี่ปีค้ำคออยู่

6.ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา มีเริ่มต้นมีกำไรแพร่กระจาย ทำกันทุกตึกทุกแห่งที่อยู่อาศัย ทำกันเพราะแข่งขัน แข่งกันจนหมดมุขดี ก็ต้องใช้มุขปัญญาแบบมาร พิสดารจนหมดทางแล้ว คนที่เฝ้าดูอดรนทนไม่ได้เพราะกลัวว่าเชื้อไฟเล็กๆ จะกลายเป็นไฟป่า เหตุเพราะหมู่บ้านเคยถูกไฟป่าเผาเป็นจุณในปี 2540 ดังนั้นจึงตัดสินใจเลิกเสิร์ฟเครื่องดื่มทุกชนิดในงานเลี้ยงที่กำลังสนุก และประธานยังไม่กล่าวปิดงาน ที่สำคัญแขกทุกคนต่างเจอน้ำสมุนไพรตราพญานาคคะนองนา ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าหญ้ากิเลสในใจคนละแก้วครึ่งแก้ว จึงไม่แปลกใจที่จะมีเสียงอื้ออึง เมื่อฝุ่นได้จางลง ผมหวังใจว่าจะได้เห็นปัญญาจาก  big data ที่ท่านๆ บอกว่ามีนะครับ

มันจะมีเสียงโวยเสมอ ถ้ามีการ หยุดเติมไวน์  ในขณะที่งานรื่นเริง กำลังสนุก

เทคนิคบริหารเงินสำหรับพ่อแม่ เลี้ยงลูกให้ดีได้แบบไม่เป็นหนี้

โบราณว่า “มีลูก 1 คน จนไป 7 ปี” เพราะกว่าจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้โตขึ้นมาได้ เต็มไปด้วยภาระและค่าใช้จ่ายหนักอึ้ง ตั้งแต่ค่าคลอดยาวไปถึงค่าเล่าเรียนปริญญาโท จนบางครอบครัวถึงกับต้องยอมเป็นหนี้ ยิ่งถ้ามีลูกมากกว่า 1 คนก็ยิ่งไม่ง่าย ทักษะการบริหารเงินจึงเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่จำเป็นต้องมี มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ที่ทำให้พ่อแม่บริหารเงินให้ได้ดียิ่งขึ้น

• ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
เมื่อสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้น รายจ่ายก็ยิ่งยิบย่อย ฉะนั้นการทำบัญชีรายรับรายจ่ายจึงสำคัญ เงินเข้ามาเท่าไร จ่ายออกไปกับอะไรบ้าง อย่าลืมบันทึกไว้ให้ดี มีรูรั่วตรงไหนจะได้อุดทัน คอยระวังอย่าให้รายจ่ายเกินรายรับไปเด็ดขาด

• ออมเงินแยกเป็นส่วน ๆ
ออมเพื่อเป็นค่าคลอด ค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษ ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ สารพัดค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการเลี้ยงลูก ควรประเมินจำนวนเอาไว้คร่าว ๆ ล่วงหน้า และเก็บเงินแยกเป็นส่วน ๆ ไว้ตามวัตถุประสงค์ ถึงเวลาต้องจ่ายจริงจะได้ไม่ขัดสน
• เงินสำรองฉุกเฉินต้องมี
นอกจากค่าใช้จ่ายที่เล็งเห็นได้ ยังต้องออมเงินไว้เผื่อเหตุฉุกเฉินอื่น ๆ โดยควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเก็บไว้ไม่น้อยกว่า 6 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อเดือน และไม่แตะต้องเงินจำนวนนี้ถ้าไม่จำเป็น แบบนี้แม้ว่าครอบครัวจะขาดรายได้กะทันหัน ก็ยังมีเงินพอกินอยู่ไปได้อีกประมาณครึ่งปีนั่นเอง

• ลงทุนให้เหมาะสม
มองหาช่องทางลงทุนอื่นนอกเหนือจากเงินฝาก เช่น ลงทุนในหุ้น กองทุน สลากออมสิน ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทุ่มเงินลงทุนในหลักทรัพย์ที่ความเสี่ยงสูงในจำนวนมากเกินไป เพราะมีครอบครัวต้องดูแล อาจจะไม่สามารถรับความเสี่ยงได้เท่ากับคนโสด เน้นความมั่นคงในระยะยาวจะดีกว่า

• อย่าวางใจรายได้ทางเดียว
แม้ว่าจะมีรายได้มาก แต่ถ้าเป็นรายได้ที่มาจากทางเดียวก็ไม่ควรไว้วางใจ เพราะเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ควรหาช่องทางรายได้เสริมอื่นเผื่อไว้บ้าง เช่น ขายของออนไลน์ ขายงานฝีมือ เป็นต้น

• อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด
ถึงจะหาเงินได้มาก แต่ถ้าเอาเงินไปจ่ายกับสิ่งไม่จำเป็นก็ไร้ประโยชน์ ฉะนั้นอย่าลืมตัดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยออกไปด้วย และคอยมองหาช่องทางประหยัดเงินสม่ำเสมอ เช่น น้องรับช่วงต่อของใช้จากพี่ ไม่ยึดติดกับสินค้าแบรนด์ดัง ทำอาหารกินเองที่บ้านแทนการออกไปกินข้างนอก เป็นต้น

• ทำประกัน
หัวหน้าครอบครัวควรวางแผนทำประกันอย่างเหมาะสม เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา คนข้างหลังจะได้ก้าวต่อไปได้ ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

• ปลูกฝังวินัยการใช้เงินให้ลูก
ต่อให้พ่อแม่ประหยัดแค่ไหน แต่ถ้าลูกยังใช้เงินเป็นกระดาษ ก็อาจพาครอบครัวสู่ความลำบากได้สักวัน ฉะนั้นอย่าลืมสอนให้ลูกใช้เงินอย่างชาญฉลาดด้วย และเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกดูสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีของครอบครัวในวันนี้ และเพื่ออนาคตของลูกเองในวันหน้า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Parents One

เงินออมสำคัญไฉน ทำไมต้องมีเงินออม

การออมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตบรรลุเป้าหมายในสิ่งที่มุ่งหวัง เช่น ออมเงินเพื่อสมัครเรียนคอร์สพิเศษ ออมเงินเพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ ออมเงินเพื่อจะซื้อบ้านในอนาคต เป็นต้น ซึ่งการออมเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งที่จะทำให้ผู้ออมบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนี้การออมเงินไว้เพื่อใช้ยามฉุกเฉิน ยังช่วยลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินเมื่อได้ เช่น มีเงินสำรองตอนเจ็บป่วย มีเงินซ่อมบ้านซ่อมรถ ฯลฯ

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าการออมเงินนั้นมีคววามสำคัญกับชีวิตของทุกคนมาก เพราะมันเป็นปัจจัยที่จะทำให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการโดยที่ไม่เดือดร้อน ขาดสภาพคล่อง หรืออย่างร้ายแรงคือต้องเป็นหนี้

ทำไมเราต้องมีเงินออม

เงินออมถือเป็นปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายที่กำหนดไว้ในอนาคตสำเร็จและเป็นจริงขึ้นมา เช่น กำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะต้องมีบ้านเป็นของตนเองในอนาคตให้ได้ นอกจากนี้เงินออมยังช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดอีกด้วย ดังนั้นทุกคนจึงควรมีการออมอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อถามว่าทำไมต้องมีเงินออม สมัยนี้เงินหายากแถมค่าของเงินก็ไม่ได้เยอะ ใช้ไม่เท่าไหร่ก็หมดแล้ว จะเหลือที่ไหนไปออม และสารพัดข้อขัดข้องที่ขัดขวางการออม แต่รู้หรือไม่ว่าการเจียดเงินสักนิดหน่อยเพื่อเก็บไว้ เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนมันจะมากขึ้น สามารถเป็นเงินเก็บในการหาความสุขให้รางวัลกับตัวเองได้ด้วย ดังนั้นการออมจึงมีประโยชน์มาก ประโยชน์ของการมีเงินออมนั้น เช่น

  1. เพื่อเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายประจำที่เป็นเงินก้อน เช่น ค่าเบี้ยประกันภัย ค่าเบี้ยประกันชีวิต ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าส่วนกลางคอนโดมีเนียม ค่าส่วนกลางหมู่บ้าน
  2. เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำรองที่จำเป็นต้องใช้ตามโอกาส เช่น การซื้อเครื่องเรือน ซื้อรถใหม่ ภาษีสังคม เงินช่วยเหลือ เงินธรรมเนียมต่างๆ
  3. ออมเงินเพื่อใช้ในเทศกาลต่างๆ ใช้หาความบันเทิงและให้รางวัลแก่ชีวิต เช่น เงินใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว ชมภาพยนตร์ ชมคอนเสิร์ต
  4. เพื่อให้มีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉินหรือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น ยามเจ็บป่วย ช่วงว่างงาน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ซ่อมบ้าน ซ่อมรถ
  5. ออมเงินไว้ใช้ในระยะยาว เช่น การซื้อบ้าน

เราสามารถออมเงินได้อย่างไรบ้าง

ช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ทั้งยังหาเงินยากขึ้น ข้าวของเครื่องใช้แพงขึ้น มีรายจ่ายรอบด้านที่เป็นอุปสรรคต่อการออมเงิน หลายคนอาจจะมืดแปดด้านว่าแล้วจะออมเงินได้อย่างไร จะเอาเงินที่ไหนมาออม ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วการออมเงินมีวิธีการที่ไม่ยากเลยค่ะ

  • อย่างแรกเลยคือต้องเก็บก่อนใช้ กันเงินไว้สัก 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ เก็บเข้าธนาคารเลยค่ะ แบบนี้ได้ออมเงินแน่นอน
  • วิธีการต่อมาคือพกเงินให้น้อยลงเพื่อจำกัดการใช้เงินตัวเอง โดยลองตั้งกฎกับตัวเองว่าจะไม่ใช้เกินจากที่พกวันนี้ ก็เป็นตัวช่วยในการออมเงินได้
  • วิธีการต่อมาที่อยากนำเสนอคือลดการใช้บัตรเครดิต หรือทางที่ดีก็งดใช้ไปเลย เพื่อลดการใช้จ่ายเพื่อความฟุ่มเฟือย และตัดช่องทางการเป็นหนี้โดยที่ไม่จำเป็นได้
  • วิธีการอีกอย่างที่น่าสนใจคือ การเก็บแบงก์ 50 บาท มีเมื่อไหร่เก็บเท่านั้น ลองคิดว่ามันเป็นของหายาก น่าสะสม ด้วยมูลค่าของเงินที่ไม่มากไปไม่น้อยไปเหมาะสมที่จะออมเงิน เก็บ 2 ใบก็ร้อยบาทแล้วนะคะ
  • อีกวิธีที่ช่วยได้คือเปิดบัญชีฝากประจำระยะยาว โดยเอาเงินที่ออมๆ ไว้ไปฝากเข้าบัญชีนั้นเลย จะได้ไม่ต้องถอนมาใช้บ่อยๆ

วิธีการง่ายๆ แต่คลาสสิกอย่างการหยอดกระปุกออมสิน ก็ยังเป็นวิธีการออมเงินที่ได้ผลอยู่นะคะ หยอดเหรียญทุกวัน เมื่อสะสมมาถึงปีก็ได้หลายบาทแล้วค่ะ ใช้ของแบรนด์เนมให้น้อยลงและลองปรับไลฟ์สไตล์ให้อยู่ง่ายกินง่ายสักหน่อย ก็ช่วยประหยัดเงินได้ เงินออมก็มากขึ้นนะคะ

ความสุขที่ได้จากการมีเงินออม

เมื่อมีเงินออมเพิ่มมากขึ้น เราจะมีความสุขเมื่อเห็นจำนวนเงินที่มากขึ้นค่ะ นอกจากนี้เรายังมีปัจจัยไว้เปย์เพื่อซื้อความสุข ความบันเทิง ความพอใจโดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนหรือเป็นหนี้เลย เราจะมีอิสรภาพทางการเงินโดยสมบูรณ์และไม่ลำบากยามที่เราทำงานไม่ได้แล้ว รู้อย่างนี้แล้วก็เริ่มออมเงินกันเลยดีกว่าค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.1213.or.th

หนี้ดีก่อให้เกิดรายได้อย่างไร แบบไหนคือหนี้ที่ดี

มุมมองหนี้ในด้านบวก ก่อให้เกิดผลดีอย่างไร

เมื่อได้ชื่อว่าเป็นหนี้ ก็จะก่อให้เกิดความประหวั่นพรั่นพรึงวิตกกังวลและพาให้ชีวิตไม่สดใส แต่อย่าลืมว่าทุกสิ่งมี 2 ด้าน ทั้งด้านบวกและด้านลบ ถึงแม้ว่าจะเป็นหนี้มีความทุกข์ใจ แต่ถ้ารู้จักเลือกมุมมองและสร้างพลังบวกให้กับตัวเองว่าการเป็นหนี้ก็มีพลังในด้านบวกเช่นกัน ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้เรามุมานะทำงานปลดหนี้ได้สำเร็จในเวลาอันใกล้ค่ะ

การปรับ mind set ให้มองว่าการเป็นหนี้ในด้านบวกนั้น อย่างแรกเลยต้องมองว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เมื่อเราใช้หนี้หมด ปัญหาก็หมดไป มันไม่ใช่ความทุกข์ที่จะอยู่กับเรานาน คนที่สามารถปลดหนี้ได้จะมีโอกาสที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน ต่อมาต้องมองไปข้างหน้าให้เป็นกำลังใจ ณ ช่วงเวลาที่หาเงินใช้หนี้นั้นแน่นอนว่ามันแสนทรมาน แต่เมื่อเรามองอนาคตหลังปลดหนี้แล้วมันสดใส ก็จะยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เรามีกำลังแรง กำลังใจในการปลดหนี้มากขึ้น นอกจากนี้เราลองตั้งเป้าหมายในการปลดหนี้ดู เช่น จะตั้งเป้าปลดหนี้ในระยะเวลาเท่าไร จำนวนเงินต่องวดเป็นจำนวนเท่าไร ฯลฯ เพื่อที่จะได้วางแผนการเงินได้อย่างถูกต้อง แถมมีเงินเหลือเก็บด้วย เมื่อมีการจัดสรรเงินที่ลงตัว เราจึงมีเงินเหลือที่จะซื้อความสุขให้รางวัลแก่ตัวเอง เช่น ทานอาหารที่อยากทาน ซื้อของที่อยากได้ เห็นมั้ยคะเมื่อมองในด้านบวกแล้ว การเป็นหนี้ทำให้เราใช้เงินเป็น เพิ่มวินัยทางการเงินและการออม ในอนาคตเราสบายแน่นอน

สร้างหนี้ในด้านบวกได้อย่างไรบ้าง

สำหรับการเป็นหนี้ไม่ได้มีแค่ด้านลบอย่างเดียว หนี้ที่ก่อให้เกิดมูลค่าหรือคุณค่าให้กับลูกหนี้ก็ถือว่าเป็นหนี้ในด้านบวก หลายคนอาจสงสัยว่า เอ๊ะ! หนี้ในด้านบวกมันเป็นยังไง?

หนี้ในด้านบวก คือหนี้ที่ก่อให้เกิดมูลค่าและเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ หรือสร้างรายได้ให้กับลูกหนี้ หนี้ประเภทนี้ยกตัวอย่างเช่น หนี้เพื่อการลงทุนทำกิจการ หนี้ผ่อนบ้าน ที่อยู่อาศัย หนี้เพื่อการศึกษา เป็นต้น ซึ่งหนี้สินเหล่านี้ถือว่าเป็นหนี้เพื่อการลงทุนและสามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต

เมื่อเราได้ก่อหนี้ขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์ก็ตาม เราก็ต้องมีการชำระหนี้อย่างถูกต้องเช่นกัน อย่างแรกที่ต้องคำนึงตั้งแต่ก่อนตัดสินใจก่อหนี้คือเราต้องประเมินว่าเมื่อเราก่อหนี้แล้วจะมีกำลังในการใช้หนี้หรือไม่ เกินกำลังที่จะใช้หนี้หรือไม่ เมื่อประเมินและวางแผนการใช้จ่ายและชำระหนี้แล้ว ก็อย่าลืมที่จะชำระคืนให้ครบ ซึ่งหนี้เหล่านี้มักจะมีการกำหนดให้ใช้เป็นงวดๆ ในระยะเวลาที่กำหนดอยู่แล้ว ซึ่งช่วงระยะเวลาเหล่านั้นลูกหนี้สามารถวางแผนและจัดสรรการเงินได้

ตัวอย่างการสร้างหนี้ในด้านบวกให้ได้ผลดี

ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าหนี้ที่ดีมันมีอะไรบ้าง เรามาดูกันว่าการสร้างหนี้เหล่านั้นจะเพิ่มมูลค่าและประโยชน์ให้ก่ลูกหนี้ได้อย่างไร

หนี้เพื่อความมั่นคง ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยอย่างบ้านที่เมื่อเราผ่อนชำระหมดแล้วจะกลายเป็นทรัพย์สินและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมทั้งสามารถนำไปสร้างรายได้ต่อโดยการขายหรือปล่อยให้เช่าได้

หนี้เพื่อการศึกษา ยิ่งเรามีความรู้ความสามารถมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะมีหน้าที่การงาน มีอาชีพที่ดีและสร้างรายได้มากขึ้น รวมทั้งสามารถต่อยอดสร้างรายได้จากความสามารถที่เรามีในด้านอื่นๆ ถือเป็นใบเบิกทางสำหรับอนาคต

หนี้เพื่อสร้างอาชีพ เป็นหนี้จากการกู้เงินมาเพื่อการลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว หรือขยายธุรกิจจากเดิมด้วยการกู้เงินมาซื้ออุปกรณ์เพิ่มกำลังผลิตเพื่อเพิ่มโอกาสและสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้น หนี้ประเภทนี้เหมาะกับคนที่อยากเริ่มต้นลงทุนธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุนสำรอง

แน่นอนว่าการเป็นหนี้มันก่อให้เกิดทุกข์ ไม่มีอิสรภาพทางการเงิน แต่เมื่อมองในด้านบวกการเป็นหนี้ทำให้เรามีวินัยทางการเงินมากขึ้น ช่วยให้มีระบบการคิดและการแบ่งสรรสัดส่วนทางการเงินได้ดีมากขึ้น อย่างไรก็ตามหนี้ก็มีทั้งหนี้เสียและหนี้ที่ดี หนี้ที่ดีก็อย่างเช่น หนี้เพื่อการลงทุน หนี้เพื่อการศึกษา หนี้เพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งหนี้ที่ดีเหล่านี้ก่อให้เกิดมูลค่าและประโยชน์ในอนาคตด้วย อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเป็นหนี้ในด้านบวก ลูกหนี้ก็ต้องมีหน้าที่ชำระให้ครบถ้วนเช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.1213.or.th

หยุดให้บริการตรวจเครดิตบูโร (ชั่วคราว) : วันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2561 เนื่องในวันปิยมหาราช : ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ

หยุดให้บริการตรวจเครดิตบูโร (ชั่วคราว)

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม 2561 เนื่องในวันปิยมหาราช

ขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ

ตรวจเครดิตบูโร ฟรี! งาน “Thailand Smart Money 2018” จ.เชียงราย วันที่ 19-21 ตุลาคม 2561

ตรวจเครดิตบูโร ฟรี! งาน “Thailand Smart Money 2018” จ.เชียงราย
วันที่ 19-20 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00-19.00 น.
วันที่ 21 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00-17.00 น.
ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา จ.เชียงราย
ฟรี!!…บริการตรวจเครดิตบูโร แต่ขอรับเป็นเงินบริจาคแทน พร้อมเปิดคลินิกเครดิตบูโรให้คำปรึกษา

 

คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ : น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ : วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ

น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้

นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2561

บทความนี้ผมเริ่มเขียนในตอนเช้าของวันที่ 13 ต.ค. 2561  ในเช้าวัน อันสงบสดใสมีแสงแดดร้อนตามแบบของประเทศในแถบศูนย์สูตรหรือที่เราๆ ท่านๆ มักจะพูดแบบกึ่งขำกึ่งแซวว่าเป็น  “สยามเมืองร้อน ถึงร้อนมาก” ผมสังเกตผู้คนในร้านค้า ในตลาดสดแบบดั้งเดิมอันเป็นแหล่งทำมาหากินเศรษฐกิจฐานรากต่างสวมใส่เสื้อสีเหลืองกันแทบทุกท่าน นับเป็นเวลาหนึ่งปีที่พระองค์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยได้เสด็จสู่สวรรคาลัย
          

ผมยังจำข้อความที่ผู้คนต่างแสดงออกในเวลานั้นกล่าวโดยสรุปรวมว่า จะขอตั้งตนเป็นคนไทยที่ดี ไม่แบ่งแยก หยุดการขัดแย้งทั้งในทางความคิดต่างเห็นต่างไม่มุ่งให้ร้ายป้ายสีที่สำคัญคือจะมุ่งมั่นพัฒนาตนไปตามกิจตามหน้าที่ตามตำแหน่งแห่งที่ที่ตนเองรับผิดชอบที่จะทำอย่างนี้ตามที่กล่าวก็เพราะ “ฉันเกิดในรัชกาลที่9” อยากให้ทุกท่านที่ได้อ่านได้รำลึกถึงวาจาและใจของเราที่ได้ให้คำมั่นในวันนั้น
          

เราท่านทุกคนต่างอยู่ในระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง ของประเทศไทย จะชั่วดีถี่ห่างก็คนไทย หากมีผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอก เช่น สงครามทางการค้า แรงกดดันจากการเปลี่ยนแปลงของประเทศยักษ์ใหญ่ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เราๆ ท่านๆ ที่ต่างทำมาหากินล้วนต้องโดนเข้าบ้างไม่มากก็น้อย แต่ปัจจัยภายในนั้นสำคัญมากในเวลานี้แต่ละวันเวลาที่คืบคลานไปนั่นคือระยะเวลาที่จะเกิดการถ่ายโอนอำนาจถ่ายโอนสิทธิการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยที่ต้องไม่ยึดเอาเพียงการเลือกตั้งคือทุกสิ่งอย่างมาถึงตรงนี้ของบทความ ผมได้ยินเสียงจากคลิปยูทูบที่ใครบางคนเปิดไลน์อ่าน ซึ่งก็เป็นข้อความที่ผมและท่านหลายคนได้รับ ข้อความ ภาพ และเสียง กล่าวว่า
          

คลิปงานประมวลภาพพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพนี้ตัดต่อได้ดีมากที่สุดเท่าที่ดูมา เป็นคลิป 9.04 นาที แต่เราร้องไห้เกิน 10 นาที จนพิมพ์จบ น้ำตายังไม่หยุดไหล ซึ้งใจกับการจัดงานที่ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ผู้ร่วมขบวนทุกท่านตั้งใจปฏิบัติในภารกิจ และประชาชนที่เฝ้าฯ ทุกคนทำออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ  คงไม่มีใครหรือฝรั่งต่างชาติคนใดเข้าใจช่วงเวลาแบบนี้ได้ดีเท่าเราหัวใจคนไทย https://youtu.be/xne9VoXXvg ผมเปิดอ่านแล้วก็เป็นอาการเดียวกับท่านที่แสดงข้อความกับคลิปนั้น
          

… ขอแต่เพียงไทยเราอย่าผลาญญาติ ร่วมชาติร่วมจิตเป็นข้อใหญ่ ไทยอย่ามุ่งร้ายทำลายไทย จงพร้อมใจพร้อมกำลังระวังเมือง…
         

เนื้อเพลงท่อนหนึ่งที่กระตุกต่อมคิดของตัวตนคนไทยในเวลานี้ ขอทุกท่านมีสติครองใจ อย่าลื่นไหลไปกับวาทกรรมของคนกลุ่มหนึ่งที่ “แกล้งตาย” ตลอดสี่ห้าปีที่ผ่านมา เพราะเวลานี้พวกเขาได้โลดทะยานออกมาจากหลุมพร้อมนโยบายและสัญญาที่ขาดเหตุและผลใช่หรือไม่
          

ระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง และความมั่นคงของประเทศกำลังถูกท้าทายอีกครั้งในระยะต่อไปอีกไม่นาน พร้อมๆ กับคลื่นระลอกใหม่ในความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโล กันชนในระบบเศรษฐกิจไทยจะไม่มีวันพอ ถ้าเราทุกท่านไม่ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองผ่านไลน์ ผ่านการตั้ง Status ในโลกสังคมออนไลน์ หรือผ่านการใส่เสื้อผ้าที่สะท้อนตัวตนในเวลานั้นเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา “สัจจะและสติ คือนิสัยรากฐานของคนในชาติที่มั่นคง”
          

กราบขอบพระคุณทุกท่านครับ

รายการ THE STANDARD Daily วันที่ 3 ตุลาคม 2561 : ถามสด ตอบสด ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร! : ผู้ร่วมรายการ คุณสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร

รายการ THE STANDARD Daily

วันที่ 3 ตุลาคม 2561

ถามสด ตอบสด ทุกเรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับเครดิตบูโร!

กับคุณสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)

ขอขอบคุณรายการ THE STANDARD Daily มา ณ ที่นี้

รายการ Wealth Me Up : EP 52 ตอน เช่า VS ซื้อ คอนโดฯ แบบไหนคุ้มกว่ากัน : ผู้ร่วมรายการ คุณสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร

รายการ Wealth Me Up

EP 52 ตอน เช่า VS ซื้อ คอนโดฯ แบบไหนคุ้มกว่ากัน

ตอน “เช่า VS ซื้อ คอนโดฯ แบบไหนคุ้มกว่ากัน”

มีใครเป็นเหมือนกันหรือไม่ เช่าคอนโดฯ อยู่ก็รู้สึกเสียดายค่าเช่า แต่ถ้าจะซื้อก็ไม่กล้าตัดสินใจเพราะกลัวเป็นภาระระยะยาว แล้วแบบไหนจะดีหรือคุ้มกว่ากันนะ

ผู้ร่วมรายการ คุณสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร

เรื่องน่าอ่าน