จบใหม่ การเงินไม่เจ็บ! วิธีบริหารเงินให้เหลือเก็บฉบับ First Jobber
ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันถือได้ว่าส่งผลกระทบกับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่เพิ่งได้งานทำ แล้วต้องมาอยู่ในช่วงที่ค่าครองชีพสูง และรายจ่ายที่สวนทางกับรายรับ จนสุดท้ายไม่เหลือเงินให้เก็บ
และเพื่อไม่ให้เงินก้อนแรกของเด็กจบใหม่ต้องสลายหายไป เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนทางการเงินให้ได้อย่างรอบคอบนั่นเองค่ะ
- สังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของตนเอง
โดยสามารถสังเกตตนเองได้ตั้งแต่ในช่วงวัยเรียน เมื่อได้รับเงินมาจากครอบครัว เรามักจะใช้จ่ายไปกับอะไร มีการจัดสรรเงินในแต่ละครั้งที่ได้รับเงินหรือไม่ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เราสามารถนำมาวิเคราะห์และปรับพฤติกรรมการใช้เงินของเราเมื่อเข้าสู่วัยทำงานได้
- จัดทำบันทึกรายรับ-รายจ่าย
หากการสังเกตยังมองไม่เห็นภาพรวม การทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายนั้น จะช่วยให้เห็นภาพได้มากขึ้น เพราะเปรียบเสมือนเป็นการลิสต์รายจ่ายออกมาทั้งหมด ช่วยจัดการรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้ เช่น ค่าบริการส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ค่ากาแฟช่วงพักกลางวัน เป็นต้น หากเราสามารถประหยัดเงินในส่วนนี้ได้ นอกจากจะเป็นการเซฟเงินแล้วยังเป็นการสร้างวินัยทางการเงินให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
- จัดสรรการเงินในแต่ละเดือน
เมื่อเห็นภาพรวมของพฤติกรรมการใช้เงินของตนเองแล้ว เราก็สามารถจัดสรร แบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายและเงินออมได้อย่างเหมาะสม เช่น 15% สำหรับการลงทุน 50% สำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 20% สำหรับเงินออมฉุกเฉิน 15% สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวหรือสร้างความสุข เป็นต้น
- ศึกษาและหาแหล่งลงทุนที่ใช่
แม้ว่าในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้อาจไม่ใช่ช่วงที่เหมาะกับการลงทุนเท่าไหร่ แต่การที่ปล่อยในเงินนอนอยู่ในบัญชีเฉย ๆ ก็ดูจะน่าเสียดาย ดังนั้นเราจึงควรมองหาช่องทางในการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง หรือเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน เพื่อเพิ่มโอกาสที่จะทำให้เงินงอกเงยขึ้นมา เช่น เงินฝากประจำแบบปลอดภาษี ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หุ้น กองทุนรวม เป็นต้น
ในช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงินที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นเรื่องที่สำคัญ ยิ่งถ้าเรามีวินัยและเป้าหมายทางการเงินอย่างชัดเจน จากเงินก้อนแรกก็เปลี่ยนเป็นเงินก้อนโตได้ไม่ยากค่ะ