เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : บทสนทนาของคนอยากจะกู้​ เมื่อถาม​ ก็มีคนมาตอบ​ ตอบได้ดีด้วย : วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564

บทสนทนาของคนอยากจะกู้​ เมื่อถาม​ ก็มีคนมาตอบ​ ตอบได้ดีด้วย

ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ แบบมีบรรยากาศ​ฝนตกปรอย ๆ​ สลับตกหนักตามการพยากรณ์อากาศ​ที่แม่นยำของกรมอุตุนิยมวิทยา​ไทย​ ผู้เขียนได้เข้าไปสำรวจตรวจสอบในห้องสนทนาของพันทิป​ ที่ว่าด้วยเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ไปสะดุดตรงคำถามของท่านสมาชิกรายหนึ่งที่บอกว่า​ “กู้เงิน 10,000 บาท ไม่ผ่านเพราะบูโร หนี้เยอะ มีมาตรการไหนช่วยได้บ้าง” เมื่อวันที่​ 11 สิงหาคม 2564 เวลา 00:35:32 น.​ ผู้เขียนเห็นว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ​สิ่งที่นำเสนอความว่า

เจ้าของกระทู้​ : เราตั้งกระทู้นี้เพราะความอัดอั้นตันใจ กุมขมับกับกระบวนการหรือมาตรการเยียวยาต่าง ๆ ของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อย่างเช่น สินเชื่อพิเศษ 10,000 บาท ของแบงก์ชมพู และแบงก์ชาวไร่ชาวนา คือพ่อแม่เราทำอาชีพอิสระ แน่นอนช่วงโควิด-19 ไม่มีรายได้ แต่มีภาระค่าบ้าน ค่ารถ ที่เจ้าหนี้ยังไม่หยุดเก็บ แต่กลับตามเก่งกว่าเดิมอีก

เขาไปยื่นกู้เงิน 10,000 บาทกัน ครั้งแรกแบงก์ชมพู ไปรอยื่นเอกสารเสียเวลาทั้งวัน ได้ sms ไม่ผ่านเกณฑ์ทั้งคู่​ ต่อมายื่นแบงก์ชาวไร่ชาวนา เสียเวลา เสียค่ารถเดินทางข้ามภูมิภาค ไปทำเรื่องทั้งวัน รอคิวนาน รอเป็นขอทานมาขอเศษข้าว​ พอกลับกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่าเขาให้เซ็นเอกสารไม่ครบ มาเซ็นให้ใหม่หน่อย อ้าววว… นี่ต้องเสียเงิน เสียเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดให้ท่านเหรอ สุดท้ายก็ได้ sms แจ้งมาว่าไม่ผ่าน เพราะไม่ได้ดำเนินการในเวลาที่กำหนด

หลังจากนั้นนานมาก ๆ นานจนลืม แบงก์ชาวไร่ชาวนามีการนัดหมายใหม่ คราวนี้มีความหวัง เตรียมเอกสารพร้อม เรียกกลับไปขนาดนี้ต้องผ่านแน่ ก็ไปสเต็ปเดิม ขอทานรอเศษข้าวประทังชีวิต สุดท้ายก็ไม่ผ่านอยู่ดี

แม่เราเลยถามเจ้าหน้าที่ตรง ๆ ว่าติดขัดอะไรตรงไหน เผื่อจะแก้ไขให้มันถูกต้องตามเกณฑ์ได้ เพราะจากความเดือดร้อนเข้าเกณฑ์ทุกอย่าง เจ้าหน้าที่บอกว่า เพราะเครดิตเสีย เรื่องบูโรอะไรต่าง ๆ หนี้เยอะภาระเยอะ แม่ก็สวนกลับว่า ถ้าฉันมีสภาพคล่องทางการเงิน ฉันจะมายืนคุยกับคุณตรงนี้ทำไม​ 

(ผู้เขียน : ขอเรียนว่าจากข้อมู​ลที่เขียน​ น่าจะเป็นเรื่องมีประวัติการค้างชำระ มีการชำระล่าช้าในบางบัญชีสินเชื่อซึ่งมีระดับความร้ายแรง​ไม่เท่ากันกล่าวคือค้างนานไหม เพิ่งจะค้างเมื่อไม่นานหรือค้างมานานแล้ว จำนวนเงินที่ค้างมากน้อย​ ประการสำคัญคือเมื่อรวมยอดหนี้เก่าทุกบัญชีเปรียบเทียบกับรายได้และยอดที่ต้องผ่อนรายเดือนแล้วน่าจะไม่ผ่านเกณฑ์​การประเมินความเสี่ยงเรื่อง​ ความสามารถในการชำระหนี้ ความตั้งใจในการชำระหนี้… อันนี้ผู้เขียนประเมินจากคำบอกเล่าตามกระทู้)​

ฟังดูแล้วเราเหนื่อยใจมาก เรารู้สึกว่าพ่อแม่กำลังโดนลอยแพ กลุ่มคนติดเครดิตบูโรก็เดือดร้อนเหมือนกันนะ จะไม่ปรับเกณฑ์ จะไม่ผ่อนปรนหน่อยเหรอ 

(ผู้เขียน : เรียนว่ามีการปรับกติกาหลายข้อ เช่น​ ถ้าเข้ามาตรการชะลอการชำระหนี้หรือ​ skip payment เนื่องจากได้รับผลกระทบ​จำนวนวันค้างชำระจะไม่นับต่อเนื่อง หรือถ้ามีการปรับโครงสร้างหนี้​ก่อนเป็นหนี้เสียจะไม่มีการส่งข้อมูล​วันที่ปรับปรุง​โครงสร้างหนี้มาเข้าระบบ​ เป็นต้น)​

อย่างที่บอกถ้าคนมีสภาพคล่องทางการเงินเขาก็ไม่ไปขอความช่วยเหลือจากคุณหรอก ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ แต่ในเมื่อมันไม่มีเงินหมุนก็ต้องยอมเสียประวัติ นี่คงเป็นปัจจัยที่คนไทยเป็นหนี้นอกระบบเยอะ เพราะไม่สามารถเข้าถึงการบริการเหล่านี้ได้อย่างแท้จริง

(ผู้เขียน​ : อยากให้ท่านผู้อ่านลองพิจารณาว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่​ มันเป็นปัจจัยที่ไปใช้บริการหนี้นอกระบบหรือไม่​ การกู้เงินมาใช้จ่ายทั้งที่ก้อนเก่าอาจถูกประเมินว่ามีมากแล้ว​ ขณะที่เงินที่เอามาให้กู้เป็นเงินฝากของอีกคนหนึ่ง​ ในทางกลับกัน​ ท่านเจ้าของกระทู้เป็นเจ้าของเ��​ ท่านจะยอมให้ธนาคารทำอย่างใจท่านว่าหรือไม่)​

เห็นคนใหญ่คนโตเขาออกข่าว อาชีพอิสระ แท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง แม่ค้า นักร้องร้านอาหาร สามารถกู้สินเชื่อนั้นโน้นนี้นี่ได้ แต่ความจริงแล้ว ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเลย เศร้านะ

(ผู้เขียน : คิดว่าตรงนี้เป็นเรื่องปกติ​ ใครไม่ได้อะไรอย่างใจคิด​ การเหน็บแนม​ย่อมมีอยู่เสมอ​ แต่มันคือเหตุผลหรืออารมณ์​ ท่านผู้อ่านลองคิดตาม)​

เราเองเคยขอคำแนะนำไปในเพจแบงก์ชาวไร่ชาวนา ว่ากรณีแบบนี้ทำยังไงดี แอดมินได้แต่แนะนำให้ไปปรึกษาเจ้าหน้าที่ เขาจะแนะนำสินเชื่อที่เหมาะกับผู้กู้ให้ เราตอบว่าลองทำทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เขาก็บอกว่าเป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ เป็นนโยบาย บลาๆๆๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ทางออก โทรเบอร์ 02 ก็ไม่ได้คุยกับใครสักคน

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ ญาติ พ่อ แม่ พี่ น้อง กู้เงิน 10,000 บาท ผ่านไหม ถ้าไม่ได้เพราะเหตุผลอะไร

ปล. เราเงินเดือน ป.ตรี ต้องเลี้ยงคนทั้งบ้าน คิดว่ารอด หรือไม่รอด มีแววว่าจะต้องกู้อยู่เหมือนกันนะเนี่ยยยยยยยยย 

 

มีผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นตอบกระทู้ดังกล่าว ดังนี้

1.เจ้าของกระทู้มองในมุมของตัวเองอย่างเดียว

2.คนไทยต้องคิดยาว ๆ มากกว่านี้

เอาเงินมาหมุนก่อน ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ก็ยอม

เอาเงินมาหมุนก่อน ดอกเบี้ยร้อยละ 20 ก็ยอม

เอาเงินมาหมุนก่อน ดอกเบี้ยร้อยละ 30 ก็ยอม

เอาเงินมาหมุนก่อน​ ดอกเบี้ยร้อยละ​ 40​ ก็ยอม

3.หนี้ไม่ใช่รายได้​ ดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่าย

ควรเลือกเป็นหนี้เฉพาะที่จำเป็น หรือเป็นประโยชน์

4.การกู้ยืมสินเชื่อสถาบันการเงินเครดิตคือเรื่องสำคัญ การมีประวัติเสียทางเครดิตมันมีผลอย่างมากต่อการพิจารณาอนุมัติ หลาย ๆ คนได้โอกาสจากสถาบันการเงินในการใช้สินเชื่อต่าง ๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบุคคล ฯลฯ สร้างความมั่นคงให้ตัวเอง แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเสียเครดิต พอแก้ไขแล้วอยากกลับมามีโอกาสอีกครั้งแต่ไม่ได้โอกาสแทนที่จะโทษความผิดพลาดของตัวเองกลับโทษแต่สถาบันการเงิน

5.กู้เงินไม่ใช่แจกเงิน สร้างหนี้ไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้จะคืนยังไง คนให้เงินก็คงไม่ให้​ ต้องดิ้นรนหารายได้เพิ่มก่อน

6.โทษฟ้าโทษฝน โทษไปซะทุกอย่าง แต่ลืมโทษวินัยการเงินของตัวเอง

7.ลองขอความช่วยเหลือจาก “โครงการหมอหนี้เพื่อประชาชน” ของแบงก์​ชาติ

8.​ปรับความคิดตัวเองก่อน หนี้ไม่ใช่รายได้

9.​คิดแบบเด็ก ๆ อ่ะเนอะ มองมุมคนปล่อยด้วยครับถ้าปล่อยให้แล้วธุรกิจคุณไม่เป็นดังหวัง  หรือตกงาน เพราะบริษัทไปต่อไม่ได้​ คุณจะทำยังไงกับหนี้ที่สร้าง

มันผิดตั้งแต่กระบวนการความคิดแล้ว  ก่อนเป็นหนี้ มีแผนใช้หนี้ยังไง กี่แผน แผน 1 ล้ม แผน 2 เป็นยังไง

10.ธนาคารเขามีเกณฑ์ในการประเมินของเขาครับ เพราะเขาต้องบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยครับ​ แต่เข้าใจเจ้าของกระทู้ว่ามีผลกระทบเรื่องรายได้ แต่ตอนนี้ต้องคิดว่าวางแผนจะทำยังไงต่อ เพราะกู้มาแล้วเงินก็เอามาลงทุนหมด แล้วจะชำระหนี้เขาอย่างไร

โจทย์ชีวิตมักยากเสมอครับ คนไม่มีก็คือไม่มี ต้องการหาทางออก เป็นกำลังใจให้ครับ

11.​เรากู้แบงก์สีฟ้า เขาพิจารณาละเอียดมาก ๆ สิ่งที่เน้นคือเราต้องมีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้ ดูเอกสารการเสียภาษี สเตทเมนต์ย้อนหลังครึ่งปี ทั้งที่กู้แค่ล้านเดียว แต่โฉนดที่เอามาค้ำมูลค่า 20 ล้านบาท เพราะแบงก์ไม่ได้ต้องการยึดหลักทรัพย์ใครค่ะ

12.​คุณต้องตัดเรื่องที่พูดมาส่วนดราม่าออกไปก่อน ส่วนเนื้อแท้ของเรื่องคือ เครดิตไม่ดีเขาเลยไม่ให้กู้ ดังนั้นอย่าไปโทษปัจจัยอื่น อย่าโทษแต่คนอื่น

13.​หนี้เก่ายังไม่ชำระ แล้วจะเอาเงินไหนมาจ่ายหนี้ใหม่

14.​เข้าใจทั้งสองฝ่ายนะครับ ไม่ว่าจะติดเครดิตบูโรด้วยเรื่องอะไร จะฟุ่มเฟือยใช้เงินไม่คิดหรือผิดพลาดทางธุรกิจก็ตามสมัยนี้มันชักหน้าไม่ถึงหลังจริง ๆ พอมีข่าวธนาคารปล่อยกู้ก็ต้องลองไปกู้เอาเงินมาหมุนในชีวิตประจำวัน​ ขนาดเงินเยียวยาของประกันสังคมที่ให้สมัครได้ ยังมีเด็กนักเรียนไปสมัครเพื่อขอรับเงินชดเชยเลยคนที่ผมรู้จักไปขอกู้ธนาคารสีชมพูก็เห็นได้กันทุกคน เคสของคุณธนาคารคงปล่อยให้ไม่ได้จริง ๆ ละมั้งครับ

อย่างไรก็ตาม ต้องมองในมุมของธนาคารบ้างว่าหากเขาปล่อยกู้แล้ว เขาจะเสียหายหรือไม่ เพราะเงินที่นำมาปล่อยกู้คือเงินฝากของประชาชนคนอื่น ๆ นั่นแหละ ถ้าทวงคืนไม่ได้ธนาคารอาจล้มได้เลย

ถ้าปล่อยกู้แล้วลูกหนี้ไม่จ่าย ธนาคารทุกแห่งมีข้อบังคับว่าต้องติดตามหนี้ ซึ่งทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายตามมา เช่น ค่าติดตามทวงถาม ค่าจ้างทนาย ค่าขึ้นศาล ค่าธรรมเนียมชั้นบังคับคดี ฯลฯ คุณจะเห็นว่าไม่มีธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ ออกโปรโมชันแบบนี้เพราะผู้ถือหุ้นเอาตายแน่ ๆ (ถ้าจะทำต้องมีคำสั่งจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ผมว่า ธปท. คงไม่บ้าจี้ขนาดนั้นเพราะมันจะล้มกันหมด)

ตอนนี้ถ้าจำเป็นจริง ๆ เพื่อความอยู่รอด คนที่เครดิตดีที่สุดในบ้านอาจต้องเป็นคนไปกู้แทนแล้วรักษาเครดิตให้ดี ไม่อย่างนั้นวัฏจักรมันก็วนกลับมาอีก

15.สู้สู้

16.​อ้างกระทู้​ พ่อ แม่ ก็รู้อยู่แล้ว ว่าไม่ได้

ต่อให้สถานการณ์ปกติ ไม่มีโควิด ไปกู้ในสถานะทางการเงินมีภาระเยอะ ก็ไม่ได้อยู่ดี แถมตอนนี้ คนกู้นี้เฉลี่ยทุกธนาคาร ทั้งประเทศ น่าจะวันละหลายร้อยคนต่อสาขา

17.​ ปรับ mindset ใหม่ครับ ไม่มีใครต้องรับผิดชอบใคร เราต้องรับผิดชอบเราและครอบครัวเอง​ ประหยัดและอดออมให้มาก เผื่อสำรองทางออกในเวลาที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ อ้อติดบูโร ให้ลืมเลยถ้าคิดจะกู้ในระบบไม่ผ่านแน่นอน

สุดท้าย​  สำหรับผู้เขียนที่มีข้อแนะนำ

ถามตัวเองว่ากู้ครั้งนี้เอาไปทำอะไร

เงินกู้เก่าจะจ่ายคืนได้อย่างไร

เงินกู้ใหม่ถ้าได้รับอนุมัติจะเอาที่ไหนมาคืน

สุดท้ายคือรวมยอดหนี้เก่ากับหนี้ใหม่ที่อยากจะได้นั้นแล้วถามตัวเองว่าจะเอาตรงไหนมาคืนเจ้าหนี้ได้อย่างไร

ใครว่าคนไทยไม่มีความรู้เรื่องทางการเงิน

จากการถามตอบ​ ผู้เขียนคิดว่ามีความรู้เป็นอย่างมาก​ อารมณ์​หายไปเยอะแล้ว

ขอบคุณ​ทุกท่านที่ติดตามครับ