เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : ใจกลางของเรื่องไวรัสระบาด คือรักษาการจ้างงาน : วันจันทร์ที่ 27 กรกฎาคม 2563

ใจกลางของเรื่องไวรัสระบาด คือรักษาการจ้างงาน

นอกจากคำทักทายของคนในสังคมไทยหลังคำว่า​ “ทานอะไรมาหรือยัง” ก็คือข้อความที่ว่า​ “ทำงานที่ไหนกัน” สังคมเราให้ความสำคัญกับเรื่องการมีงานทำในลักษณะต่างๆ ตามแต่ละยุคสมัยเช่น​ มีงานทำเป็นข้าราชการ​เป็นเจ้าคนนายคน​ มีงานทำเป็นพนักงานธนาคารเพราะมั่นคง​ มีอาชีพเป็นครูผู้คนก็นับถือ​ หรือมีอาชีพเป็นหมอ​ พยาบาลจะได้เป็นที่พึ่งพิงของคนในสังคม​ ดังนั้น​ การมีอาชีพ​ มีหน้าที่ในการงาน​ ที่เราเรียกเป็นภาษาเศรษฐกิจการ​ “ไม่เป็นคนว่างงาน” นอกจากนี้ในความคิดด้านปัจเจกก็จะพบว่า​ คนใดก็ตามที่มีงานทำ​ จะยากดีมีจน​ สูงต่ำดำขาว​ หากมีงานทำ​ มีสัมมาอาชีพแล้ว​ เขาคนนั้นจะมีความภูมิใจในคุณค่า (Value)​ ในตนเอง​ เพราะมันคือความรู้สึกที่เท่าเทียมว่าตัวเราหาเลี้ยงดูตนเองด้วยศักยภาพและความรู้ที่ตนเองมี​ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งแห่งที่อย่างไร

หากแต่ว่าข่าวร้ายที่กำลังจะมาเยือนระบบเศรษฐกิจ​และสังคมของเราๆ ท่านๆ ในช่วงปลายปีนี้ก็คือเรื่อง​ การว่างงาน​ อาจไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหนๆ​ เราๆ ท่านๆ ก็พอจะทราบว่า

1. ผลกระทบของการทำธุรกิจภายใต้เงื่อนไขการรักษามาตรการด้านสาธารณสุข​อย่างเข้มแข็งทำให้ธุรกิจบางประเภทยังคงทำไม่ได้​ หรือทำได้แต่ไม่มีความจำเป็นที่กิจการต้องจ้างในจำนวนเท่าเดิม​ หรือถูกบังคับด้วยจำนวนของลูกค้า​มันไม่มี/มีจำนวนน้อยลงอย่างน่าใจหาย​ ไม่นับว่าก่อนหน้านี้​จะมีการใช้ระบบหุ่นยนต์​เข้ามาแทนที่แล้วระยะหนึ่ง

2. เรามีเด็กจบใหม่​ จบการศึกษา​ ผ่านการศึกษาจากระบบการศึกษาที่ผลิตบุคลากร​ในแต่ละปีสามสี่แสนคน​ เวลานี้ตลาดแรงงานจากฝั่งนายจ้างลดการว่าจ้างงานเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ​ มันก็เกิดส่วนที่จบมาแล้วแต่ยังหางานทำไม่ได้

3. เรามีคนที่ทำงานไม่เต็มที่​จำนวนหนึ่งเช่น​ ทำงานเฉพาะช่วงเวลา​ ทำงานแบบ​ full job แต่ไม่​ full time ยังมีพวกอาชีพอิสระ​ รับจ้างทำของ​ มีงานทำมีรายได้เมื่อมีคนมาว่าจ้างให้ทำงานรายชิ้น​ รายครั้ง​ รายโครงการ​ เป็นต้นอีกจำนวนหนึ่ง

4. นายจ้างที่ได้รับผลกระทบที่หนักมากเวลานี้คือ​ SME​ ที่ทำธุรกิจแต่ได้รับผลกระทบมากจากความต้องการในสินค้าบริการที่ลดลง​ แข่งขันกันมากขึ้น​ หรือถูกบังคับโดยเงื่อนใขสาธารณสุข​ให้บริการด้วยต้นทุนที่สูง​ขึ้น​ ดังนั้นค่าใช้จ่ายด้านการจ้างงานจึงเป็นรายการค่าใช้จ่ายผันแปรที่สูงมากในลำดับต้นๆ ของต้นทุนการทำธุรกิจ​ ถ้าจะลด​ ถ้าจะเลิก​ จะไปต่อหรือไม่ไปต่อ​ ค่าใช้จ่ายตัวนี้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจมากๆ​ ดังนั้นถ้าจะรักษาการจ้างงานตรงนี้ไว้ให้ได้​ ก็ต้องมีกระแสเงินสดมาหมุนเวียนจ่ายให้​ แล้วค่อยไปจ่ายคืนกันในวันหลัง​ คำถามคือเงินตรงนี้จะมาจากไหน​ เพราะตอนเศรษฐ​กิจดีเงินตัวนี้มาจากรายได้จากการขายหรือให้บริการ​

5. ประเด็นสำคัญที่ฝังอยู่ในเรื่องการจ้างงานของคนทำงานคือ​ คนทำงานหรือแรงงานเหล่านั้น​ ท่านมีหนี้ครับ​ ท่านมีหนี้ที่ก่อไว้ก่อนหน้านี้แล้ว​ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน​ หนี้รถยนต์​ หนี้บัตรเครดิต​ หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล​ หนี้การทำเกษตร​ หนี้จากการทำธุรกิจ​ หนี้ที่ก่อมากินใช้​ หนี้ก้อนนี้ยังไม่หายไปไหน​ หนี้ก้อนนี้ได้ถูกแช่แข็งเอาไว้ก่อนในช่วงไวรัสระบาด​ แต่เมื่อช่วงเวลามาตรการ​ผ่อนปรนหมดตั้งแต่มิถุนายนในรอบแรก​ และสิ้นกันยายน​/ตุลาคม​ การชำระห​นี้​ตามเงื่อนไขเดิมก็จะมา​ คำถามคือจะเอารายได้จากไหนมาชำระหนี้ถ้ามีการว่างงาน​ ตกงาน​ ขาดงาน​ ถูกลดงาน​ ลดจำนวนชั่วโมงการทำงาน​ หรือหยุดงานโดยสมัครใจ​ไม่รับค่าจ้าง​ เพราะถ้าไม่มีมาจ่ายหนี้ตามกำหนดก็จะกลายเป็นหนี้ค้างชำระ​ เป็นหนี้เสียในลำดับถัดไปตามวันเวลาที่จะผ่านไปในแต่ละวัน

มีผู้คนในส่วนของการทำนโยบายได้พยายามคิดค้นหาหนทางที่จะบรรเทาผลกระทบ​ แต่ที่จะแก้ไขปัญหา​แบบให้หมดไปคงจะยากมากๆ​ เราอาจจะเริ่มได้อย่างนี้หรือไม่​

ประการแรก​ สิ่งที่สถาบันการเงินเคยคิดว่าทำไม่ได้คือการให้กู้แก่กิจการเพื่อไปเป็นรายจ่ายโดยยังประมาณการ​รายได้ที่ไม่แน่นอนหรือยังไม่เห็นชัดเจนนั้นไม่ควรทำ​ เวลานี้อาจจะต้องทำและทำมากขึ้นด้วย​ เพราะถ้าไม่ทำแล้วละก็​ กิจการก็ต้องเลิกจ้าง​ ลูกจ้างที่กู้เงินสถาบันการเงินก็จะไม่มีเงินจ่าย​ หนี้เสียก็จะวนกลับมาอยู่ดี

ประการที่สอง​ แหล่งเงินที่จะมาสนับสนุนสถาบันการเงินให้นำไปปล่อยต่อกับกิจการแล้วส่งผ่านสภาพคล่องตัวนี้ไปเป็นรายจ่ายในการจ้างงาน​ ไปเป็นรายได้ของคนทำงาน​ ย้อนกลับไปเป็นเงินที่นำมาชำระหนี้สินของคนทำงาน​ ต้องมีต้นทุนที่ต่ำถึงต่ำมากๆ​ และที่สำคัญต้องยอมรับความเสียหายที่อาจไม่ได้รับคืนไว้ในสัดส่วนที่สูง​ ความคิดที่ว่าเงินหลวงตกน้ำไม่ไหล​ ตกไฟไม่ไหม้อาจต้องหยุดคิดเอาไว้ชั่วคราวก่อน

ประการที่สาม​ ขนาดของจำนวนเงินและระยะเวลาที่ต้องทำจำเป็นต้องมากกว่าที่เคยคิดและยาวนานมากกว่าที่เคยกำหนด​ เพราะเราเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์​แต่เราไม่รู้​ว่าอุโมงค์ยาวแค่ไหน​ ต้องใช้เวลาประมาณ​ไหนจึงจะออกจากอุโมงค์​ได้​ ที่สำคัญมากๆ คืออากาศ​ในอุโมงค์ช่วงไหนมีไวรัสมาก​ มากจนทำให้เราต้องหยุดรอไม่สามารถ​เดินต่อไปได้ชั่วขณะ​ในอุโมงค์​ที่ชื่อว่า​ COVID-19​

งานคือเงิน​ เงินคืองาน
บันดาล​สุข​ แต่ที่ทุกข์​
คือวันนี้​ อาจไม่มีงาน
หนี้จะบาน​ ดอกจะเพิ่ม
เพิ่มความทุกข์ สุขไม่มี
ชีวีก็อาจจะยอมจบก่อนกำหนด..