เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) วันที่ 6 พฤษภาคม 2562
“การรุกคืบเข้ามาของการให้บริการแบบออนไลน์ในเรื่องการให้กู้”
โดย คุณสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร
คลิกอ่านได้ที่ https://www.posttoday.com/finance/money/588267
ผู้เขียนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยเมื่อผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพาณิชย์ไทยได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า กลยุทธ์ของธนาคารปีนี้ จะมุ่งสร้างการเติบโตและขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และดิจิทัลมากขึ้น โดยธนาคารได้ตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) รวม 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ลูกค้าบุคคลรายย่อย 10,000 ล้านบาท และลูกค้าผู้ประกอบการธุรกิจ SME 20,000 ล้านบาท เป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเทียบปี 2561 โดยเหตุที่ว่าธนาคารมีระบบการบริหารจัดการแบบ End to End ดีขึ้นโดยเฉพาะ การพิสูจน์และยืนยันตัวตนหรือ KYC/CDD การจัดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การคัดกรองลูกค้า การประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตและด้านต่างๆ จนมีผลทำให้ธนาคารมีข้อมูลมากเพียงพอในการเข้าใจ เข้าถึง และประเมินความเสี่ยง (ประเมินโอกาสที่จะได้รับชำระหนี้จากการให้กู้ในปัจจุบันและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้าได้แม่นยำ มั่นใจมากขึ้น
นายธนาคารที่เป็นผู้นำในตลาดสินเชื่อ SME และนวัตกรรมในบริการทางการเงินได้ระบุต่อไปอีกว่า
ไตรมาสแรกปี 2562 ทำสินเชื่อประเภทนี้ค่อนข้างน้อย โดยอยู่ในระดับ 5,000 ล้านบาท ลูกค้าสินเชื่อส่วนใหญ่ที่ได้รับอนุมัติยังอยู่ที่รายย่อย และผู้ประกอบการร้านค้าอิสระ ร้านค้าออนไลน์ที่เป็นลูกค้าธนาคารเป็นหลักอยู่ เนื่องจากฐานลูกค้ากลุ่มนี้มีบัญชีเงินหมุนเวียนกับธนาคาร (Having Transaction Data) มีข้อมูลจาก Platform E-Commerce ที่ลูกค้าคนขอสินเชื่อได้ไปค้าขายในระบบนั้น มันทำให้ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อผ่านระบบดิจิทัลได้ง่ายมากขึ้น เราต้องไม่ลืมคือธนาคารคือกิจการที่มีข้อมูล มีการค้นหาโอกาสในการนำเงินฝากมาหาประโยชน์โดยการปล่อยสินเชื่อกับการลงทุน และด้วยการไปร่วมมือกับ Platform E-Commerce จะยิ่งเติมพลังและขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อีกมากมาย ลองคิดตามผมนะครับจากข่าวที่บอกว่า ดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อออนไลน์ (Digital Lending) หากเป็นผู้กู้รายย่อยคิดอยู่ที่ราว 10-20% เทียบกับดอกเบี้ยสินเชื่อบุคคลทั่วไปที่คิดไม่เกิน 28% ท่านผู้อ่านลองเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะยาวที่ยากจะเกิน 2-3%ในเวลานี้ นี่คือโอกาสในการหาผลตอบแทนที่ดีมากๆ
ประเด็นสำคัญที่ผู้เขียนอยากจะกล่าวย้ำในวันนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าในไม่ช้าก็คือ ขีดความสามารถในการพิสูจน์ว่าบุคลนี้คือคนๆนี้ ถ้าเราหรือระบบเราสามารถตอบคำถามจนเชื่อได้ว่า You are who you say you are ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถนำสิ่งที่เรียกว่า
Something you have หรือ
Something you know หรือ
Something you are มาผสมผสานกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ตัวอย่างเช่นใช้สิ่งที่เราเป็นอยู่คือ เสียงของเรา ลายนิ้วมือของเรา ม่านตาของเรา หรือใบหน้าของเรา ที่รวมๆเรียกว่า ไบโอเมตทริกซ์ มาดำเนินการจนมั่นใจและมีกฎหมายรองรับว่านาย A คือนาย A โดยนาย A ไม่ต้องนำพาตัวเอง หรือนำพาตัวเป็นๆของตัวเองมายังสถานที่ของผู้ให้บริการทางการเงินอีกต่อไป (Non face – to – face) แต่ได้กระทำผ่านเครื่องมือและระบบคอมพิวเตอร์/ระบบอินเทอร์เน็ต จนมีมาตรฐานที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไปและเมื่อระบบนิเวศทางดิจิทัลยิ่งมีพัฒนาการด้านความปลอดภัยมากขึ้นเราก็จะได้เห็นความทันสมัยในการบริการทางการเงินในอนาคตมากขึ้น
มีข้อมูลปรากฏในข่าวสารที่เผยแพร่โดยสื่อมวลชนระบุว่าผลสำรวจของ Visa ใน พ.ศ.2561 ระบุว่าผู้บริโภคหรือลูกค้าที่ยื่นขอใช้บริการทางการเงินยินดีที่จะใช้ ไบโอเมตทริกซ์ ของตัวเอง (Something you are) มาพิสูจน์ตัวตนก่อนการใช้บริการทางการเงินเหตุเพราะมันมีความสะดวก รวดเร็ว และเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการใช้ Error! Hyperlink reference not valid. Somethings you know ที่นับวันจะลดบทบาทลงไปเหตุเพราะปัญหาการลืม การถูกขโมย และความยุ่งยากในการทำซ้ำๆ ในแต่ละขั้นตอนการใช้บริการ
โดยข่าวได้ระบุว่า 86 %ของผู้บริโภคที่ทำแบบสำรวจสนใจที่จะลองใช้ ไบโอเมตทริกซ์ เพื่อยืนยันตัวตนหรือทำการชำระเงิน 65 %ของผู้ทำแบบสำรวจมีความคุ้นเคยกับการใช้ไบโอเมตทริกซ์ ประกอบกับความก้าวหน้าในอุปกรณ์มือถือที่ส่งผลให้การสแกนลายนิ้วมือ การสแกนใบหน้านั้นมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การใช้เสียงเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนมีความแม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันอาจถึงเวลาแล้วที่จะนำเทคโนโลยี ไบโอเมตทริกซ์ มาใช้ในแอปพลิเคชัน ของธนาคารมากขึ้น มากขึ้น และมากยิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงิน (Payment service) ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าของตน
ท่านผู้อ่านลองคิดตามผมนะครับ
1.เราไม่ต้องเอาตัวเองไปยังธนาคารเพื่อขอใช้บริการสินเชื่อแต่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองผ่านโทรศัพท์มือถือ
2.ไม่ต้องทำเอกสารเป็นกระดาษ ไปส่งเจ้าหน้าที่สินเชื่อแต่ส่งโดยการถ่ายภาพเอกสารส่งไปให้แทน
3.ทำการพิสูจน์และยืนยันตัวตนได้ผ่านสิ่งที่เราเป็นหรือไบโอเมตทริกซ์ในวันนี้
4.ลงนามในหนังสือให้ความยินยอมโดยไม่ต้องมีเอกสารและเซ็นสดต่อหน้าเจ้าหน้าที่ธนาคาร
Error! Hyperlink reference not valid. 15-30นาที
6. ถ้าได้รับอนุมัติ เงินที่ขอกู้ไปจะถูกส่งตรงไปยังบัญชีของผู้ขอกู้ทันที สภาพคล่องของคนที่ได้รับเงินกู้ก็จะทันการณ์
ปี 2562 ยังมีอะไรที่จะออกมาอีกมากมายและผู้เขียนก็เชื่อว่าการรุกคืบเข้ามาของการให้บริการแบบออนไลน์ในเรื่องการให้กู้จะเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณในปีนี้นะครับ เรามาลองติดตามเป้าเงินกู้ด้วยกันนะครับ