ความเข้าใจผิดของคนไปขอสินเชื่อเรื่องเครดิตบูโร
เมื่อผมได้ไปอ่านคำถามของผู้คนที่ส่งมายังทีมงานเครดิตบูโรในกรณีที่ท่านเหล่านั้นไปยื่นขอสินเชื่อ ขอเปิดบัตรเครดิตกับสถาบันการเงินแต่พบว่าได้รับการปฏิเสธด้วยคำบอกเล่าต่างๆนาๆ แน่นอนว่าลูกค้าคนไปยื่นขอทำเรื่องก็มักจะไม่พอใจ หงุดหงิด ไม่สบายใจ ต่างก็ต้องการคำตอบให้หายคาใจ และถ้าได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องจะได้นำเอาไปแก้ไข ตัวอย่างในวันนี้คือ
… ผมไปสมัครบัตรเครดิตตามธนาคาร แต่ผลปรากฏว่า ทางธนาคารไม่สามารถอนุมัติบัตรให้ เนื่องจากมีชื่ออยู่ในเครดิตบูโร ทั้งนี้ชื่อของผมหลังจากได้เช็กประวัติแล้ว ปรากฏว่าได้มีการคัดชื่อออกตั้งแต่ พฤศจิกายน 2562 ไปแล้ว จึงสงสัยว่า ทางธนาคารยังเช็กได้ว่ายังคงมีชื่อผมอยู่ครับ รบกวนช่วยเช็กว่ายังติดในเรื่องด้านใดให้อีกทีนะครับ…
ผู้เขียนขอเคลียร์คำตอบดังนี้นะครับ
1. การมีชื่ออยู่ในเครดิตบูโร เป็นเงื่อนไขของกฎหมายครับ เมื่อเราได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือเปิดบัตรเครดิต ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้จะส่งข้อมูลของตัวเราและรายละเอียดของบัญชีสินเชื่อภายใต้ชื่อของเรามาที่เครดิตบูโรครับ และจะส่งข้อมูลประวัติการชำระหนี้ว่าค้างหรือไม่ค้างชำระต่อเนื่องทุกเดือนจนกว่าเราจะปิดบัญชีนั้น ไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจผิดๆกันว่าจะส่งข้อมูลเฉพาะคนที่มีการค้างชำระเท่านั้นมาที่เครดิตบูโร คนที่ไม่ค้างชำระก็ส่งเข้ามาทุกเดือนครับ ส่งตามความเป็นจริง
2. ที่บอกว่าคัดชื่อออกหมายความว่าเมื่อมีการชำระหนี้เสร็จสิ้นทุกบัญชีที่มีอยู่ ย้ำนะครับว่าต้องทุกบัญชีที่มีอยู่ ถ้าได้มีการชำระหนี้ครบถ้วนและปิดบัญชีแล้ว นับจากวันที่ปิดบัญชีบวกไปอีก 36เดือน ทางเครดิตบูโรจะลบประวัติการชำระหนี้ของบัญชีนั้นๆ(Account Level) และจะลบข้อมูลของบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีนั้น(Subject Level) ออกไปจากระบบของเครดิตบูโร ย้ำอีกครั้งนะครับต้องชำระครบทุกบัญชีจึงจะเอาชื่อบุคคลที่เป็นลูกหนี้ออกไปจากระบบ แต่ถ้าปิดเฉพาะบัญชีใดบัญชีหนึ่งก็จะลบเฉพาะบัญชีนั้นครับเมื่อครบเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
3. ทำไมธนาคารเช็กเจอตัวเรา หรือเช็กเจอประวัติการชำระหนี้เราทั้งที่เป็นประวัติการชำระหนี้ที่ดี และประวัติการค้างชำระได้ กรณีนี้แบ่งได้ดังนี้
3.1 ถ้าเราไปติดต่อธนาคารที่เราเคยมีบัญชีกับเขาอยู่ในอดีตและต่อมาเราได้ปิดบัญชีกับเขาไปแล้วก็ตาม ประวัติที่เราเดินบัญชีกับเขาตั้งแต่เปิดบัญชีจนปิดบัญชีกับธนาคารนั้นอาจจะยังอยู่ในระบบของธนาคารครับ เขาอาจจะยังเก็บไว้เพื่อบริหารความสัมพันธ์ในอนาคต เก็บไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงอนาคต เก็บไว้เพื่อการบริหารความเสี่ยงในอนาคตก็ได้
3.2แต่ถ้าเราไปต่างธนาคารที่เราไม่เคยมีบัญชีในอดีต แล้วเรายื่นเรื่องขอกู้ไปกับเขา ธนาคารเหล่านั้นจะไม่เห็นข้อมูลเครดิตแน่นอน เพราะตัวระบบธนาคารนั้นเองก็เพิ่งรู้จักเราเป็นครั้งแรก ไม่มีข้อมูลเราหรือบัญชีสินเชื่อที่เรามีในอดีต ในขณะที่ประวัติในเครดิตบูโรก็ไม่มีแล้ว
ทีมงานผมจะได้ตอบคำถามของท่านนั้นในระบบที่ท่านได้ถามมาและผมได้นำเอาประเด็นความเข้าใจผิดมาบอกกล่าวกับท่านผู้อ่านนะครับ
ขอบคุณครับ