เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : “ความเข้าใจผิดของคนไปขอสินเชื่อเรื่องเครดิตบูโร” www.posttoday.com วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2563

ความเข้าใจผิดของคนไปขอสินเชื่อเรื่องเครดิตบูโร

เมื่อผมได้ไปอ่านคำถามของผู้คนที่ส่งมายังทีมงานเครดิตบูโรในกรณีที่ท่านเหล่านั้นไปยื่นขอสินเชื่อ​ ขอเปิดบัตรเครดิตกับสถาบันการเงินแต่พบว่าได้รับการปฏิเสธ​ด้วยคำบอกเล่าต่างๆนาๆ​ แน่นอนว่าลูกค้าคนไปยื่นขอทำเรื่องก็มักจะไม่พอใจ​ หงุดหงิด​ ไม่สบายใจ​ ต่างก็ต้องการคำตอบให้หายคาใจ​ และถ้าได้ทราบข้อมูล​ที่ถูกต้องจะได้นำเอาไปแก้ไข​ ตัวอย่างในวันนี้คือ

… ผมไปสมัครบัตรเครดิตตามธนาคาร แต่ผลปรากฏว่า ทางธนาคารไม่สามารถอนุมัติบัตรให้ เนื่องจากมีชื่ออยู่ในเครดิตบูโร ทั้งนี้ชื่อของผมหลังจากได้เช็กประวัติแล้ว ปรากฏว่าได้มีการคัดชื่อออกตั้งแต่ พฤศจิกายน 2562 ไปแล้ว จึงสงสัยว่า ทางธนาคารยังเช็กได้ว่ายังคงมีชื่อผมอยู่ครับ รบกวนช่วยเช็กว่ายังติดในเรื่องด้านใดให้อีกทีนะครับ…

ผู้เขียนขอเคลียร์​คำตอบดังนี้นะครับ
1. การมีชื่ออยู่ในเครดิตบูโร​ เป็นเงื่อนไขของกฎหมายครับ​ เมื่อเราได้รับอนุมัติสินเชื่อหรือเปิดบัตรเครดิต​ ธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้จะส่งข้อมูลของตัวเราและรายละเอียดของบัญชีสินเชื่อภายใต้ชื่อของเรามาที่เครดิตบูโรครับ​ และจะส่งข้อมูลประวัติการชำระหนี้ว่าค้างหรือไม่ค้างชำระต่อเนื่องทุกเดือนจนกว่าเราจะปิดบัญชีนั้น​ ไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจผิดๆกันว่าจะส่งข้อมูลเฉพาะคนที่มีการค้างชำระเท่านั้นมาที่เครดิตบูโร​ คนที่ไม่ค้างชำระก็ส่งเข้ามาทุกเดือนครับ​ ส่งตามความเป็นจริง

2. ที่บอกว่าคัดชื่อออกหมายความว่าเมื่อมีการชำระหนี้เสร็จสิ้นทุกบัญชีที่มีอยู่​ ย้ำนะครับว่าต้องทุกบัญชีที่มีอยู่​ ถ้าได้มีการชำระหนี้ครบถ้วนและปิดบัญชีแล้ว​ นับจากวันที่ปิดบัญชีบวกไปอีก​ 36เดือน​ ทางเครดิตบูโรจะลบประวัติการชำระหนี้ของบัญชีนั้นๆ(Account​ Level) และจะลบข้อมูลของบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีนั้น(Subject Level) ออกไปจากระบบของเครดิตบูโร​ ย้ำอีกครั้งนะครับต้องชำระครบทุกบัญชีจึงจะเอาชื่อบุคคลที่เป็นลูกหนี้ออกไปจากระบบ​ แต่ถ้าปิดเฉพาะบัญชีใดบัญชีหนึ่งก็จะลบเฉพาะบัญชีนั้นครับเมื่อครบเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

3. ทำไมธนาคารเช็กเจอตัวเรา​ หรือเช็กเจอประวัติการชำระหนี้เราทั้งที่เป็นประวัติการชำระหนี้ที่ดี​ และประวัติการค้างชำระได้​ กรณี​นี้แบ่งได้ดังนี้
3.1 ถ้าเราไปติดต่อธนาคารที่เราเคยมีบัญชีกับเขาอยู่ในอดีตและต่อมาเราได้ปิดบัญชีกับเขาไปแล้วก็ตาม​ ประวัติที่เราเดินบัญชีกับเขาตั้งแต่เปิดบัญชีจนปิดบัญชีกับธนาคารนั้นอาจจะยังอยู่ในระบบของธนาคารครับ​ เขาอาจจะยังเก็บไว้เพื่อบริหารความสัมพันธ์ในอนาคต​ เก็บไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงอนาคต​ เก็บไว้เพื่อการบริหารความเสี่ยงในอนาคตก็ได้​
3.2แต่ถ้าเราไปต่างธนาคารที่เราไม่เคยมีบัญชีในอดีต​ แล้วเรายื่นเรื่องขอกู้ไปกับเขา​ ธนาคารเหล่านั้นจะไม่เห็นข้อมูลเครดิตแน่นอน​ เพราะตัวระบบธนาคารนั้นเองก็เพิ่งรู้จักเราเป็นครั้งแรก​ ไม่มีข้อมูลเราหรือบัญชีสินเชื่อที่เรามีในอดีต ในขณะที่ประวัติในเครดิตบูโรก็ไม่มีแล้ว

ทีมงานผมจะได้ตอบคำถามของท่านนั้นในระบบที่ท่านได้ถามมาและผมได้นำเอาประเด็นความเข้าใจผิดมาบอกกล่าวกับท่านผู้อ่านนะครับ

ขอบคุณครับ