คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ :
มาปิดทองหลังพระ เพื่อให้ไทยรุ่งเรือง
วันจันทร์ที่ 16 ตุลาคม 2560
วันที่ 13 ต.ค. 2560 เวลา 11.21 น. มีข้อความส่งมาในไลน์ผมให้ได้คิด และเกิดความรู้สึกว่าต้องการเขียนบทความมายังท่านผู้อ่าน เพราะวันที่ 25 ก.ค. 2506 คือ วันที่ก่อนวันเกิดของผู้เขียนหนึ่งวัน คือ ข้อความที่ว่า
“การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้าไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 ก.ค. 2506
ผู้เขียนขอน้อมนำเอาพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ได้ทรงชี้แนะให้เห็นว่า ในการทำงาน การดำเนินนโยบาย มาตรการ เพื่อประโยชน์สุขให้เกิดแก่ผู้คนนั้น ต้องมีคนที่ทำงานอยู่เบื้องหน้า และทำงานอยู่เบื้องหลัง
ท่านผู้อ่านครับ ท่านลองมองภาพพระเมรุมาศ พระมหาพิชัยราชรถ ท่านลองมองถึงเจ้าหน้าที่ ทหารช่าง วิศวกร ช่างเทคนิค ช่างศิลป์ที่มาทำงาน และเรายังมีอาสาสมัครที่คอยอำนวยสะดวกผู้คนนับสิบล้านในการเข้ามากราบพระบรมศพ ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทสิครับ ผู้คนที่ทำงานอยู่เบื้องหลังนับร้อยนับพันเหล่านั้น ท่าน คือ คนที่ปิดทองหลังพระโดยแท้ ทุกครั้งที่ผมได้มอง สบตา หรือพูดคุยกับท่านเหล่านั้น จะได้รับคำตอบว่า เป็นหน้าที่ที่ตั้งใจทำให้ดีที่สุดในชาตินี้ภพนี้ ไม่ว่าจะหนักแค่ไหนก็จะทำ
ประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้ดีกว่านี้ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การบริหารบ้านเมือง ถ้าเราเลิกให้ความสนใจชาติพันธุ์ นักการเมือง นักเลือกตั้ง พวกที่ออกมาแสดงวาจา โวหาร หรือสื่อสารออกมาไม่ว่าในช่องทางใด โดยไม่รู้กาลเทศะเวลานี้เลยว่ามันเหมาะมันควรไหม มาร่วมกันก้าวข้ามพวกเขาและมุ่งพัฒนาตัวเรา กิจการของเรา ลูกน้อง ลูกทีมของเราจะดีกว่าหรือไม่ ตัวเราๆ ท่านๆ ต้องทำงาน ทำภารกิจตามหน้าที่ และตัวเราก็ต้องรู้สิว่าหน้าที่ของตัวเรานั้นมีอะไรบ้าง ท่านลองนำไปคิดดูครับ