มองเศรษฐกิจระดับฟุตพาท เดินเผชิญสืบในวันก่อนตรุษจีน 2565
บทความในวันนี้เขียนขึ้นมาก่ อนวันไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษตามคติความเชื่ อของเทศกาลตรุษจีนในปี 2565 ประจวบเหมาะกับเป็นวันสิ้นเดื อนของใครหลายคน เป็นวันที่มนุษย์เงินเดือนส่ วนใหญ่จะได้รับเงินเดือน บางกิจการก็มีการจ่ายเงินรางวั ลพิเศษ (Bonus) เพื่อตอบแทนพนักงานลูกจ้างที่ต่ อสู้ร่วมกันมาในปี 2564 แต่บางกิจการก็ไม่มี เพราะได้รับผลกระทบรุนแรงมาก เรียกว่ายังรักษางานเอาไว้ได้ก็ ถือว่าดีมากแล้ว
เมื่อผู้เขียนได้ ออกไปสำรวจตลาดนัดตอนเช้าในย่ านการออกกำลังกาย ก็พบว่ามีผู้คนออกมาจับจ่ายใช้ สอยกันมากพอสมควร พ่อค้าแม่ขายในตลาดนัดตอนเช้าซึ่ งนำเสนอสินค้าของกินของใช้ต่ างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ขายได้มาก ขายได้ดีขึ้น แต่ยังไม่มากเท่าก่อนโควิด-19 ระบาด วัตถุดิบและต้นทุนมีแนวโน้มสู งขึ้นมาก โดยเฉพาะของกินจำพวกเนื้อสัตว์ และไข่ อันนี้บอกได้เลยว่าส่งผลกระทบกั บทุกคน ไม่มีใครสนใจคำอธิบายหรอกครั บเรื่องเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือไม่พื้นฐาน สิ่งที่ผู้คนต้องการคือ การบริหารจัดการให้มันมีราคาที่ มันจับต้องได้ ในเมืองกรุงมันไม่สามารถทำปศุสั ตว์ครัวเรือนได้ ผักสวนครัวข้างรั้วแบบกินได้มั นยากจะทำได้ในความเป็นจริง ตามชั้นดาดฟ้าของออฟฟิศที่ เคยคิดเคยทำแปลงผัก พอมันต้องทำงานที่บ้านหรือ Work from home มันก็ทำให้ความต่อเนื่องในการดู แลมันขาดหายไป การรณรงค์หลายสิ่งในเรื่องลดค่ าใช้จ่ายมันเลยกลายเป็น Fashion ที่ไม่ Function ยิ่งถ้ามีใครที่ออกมาพูดแบบไม่ รู้จริงประมาณว่า ผลกระทบจะเป็นแบบชั่วคราว รับรองมีทัวร์ลงแน่นอน
ในช่วงบ่ายผู้เขียนได้มี โอกาสไปตลาดสำเพ็งเพื่อหาซื้อสิ นค้า ก็พบว่าผู้ขายหลายเจ้าต่างปิดกิ จการไป เพราะกำไรไม่มากพอหลังหักต้นทุ นค่าเช่าร้าน ค่าแรงลูกจ้าง พนักงานในร้านค้า หลายร้านที่เคยไปซื้อของหน้าร้ านปิด เจ้าของหลบไปเลียแผลก่อน ตัวลูกจ้างก็มาทำอาหาร มาทำขนมขายแทน เรียกว่าสู้กันยิบตาเพื่อเอาตั วรอด ได้เข้าไปพูดคุยแล้วต่างบอกว่า ต้องทำ ต้องสู้ เพราะมีภาระหนี้ต้องส่ง ลูกหลานและคนสูงอายุในต่างจั งหวัด รอเงินส่งไป ค่าเช่าหอพัก บ้านเช่าต้องจ่ายมารออยู่ แววตาพร้อมสู้แต่เห็นความกั งวลเอามาก ๆ ต้องเรียนท่าน ๆ ที่อยู่บนหอคอยแห่งเศรษฐศาสตร์ จักวาลนฤมิตร เมื่อไหร่ท่าน ๆ จะเลิกผลัดกันเขียน เวียนกันอ่าน ผ่านกันชม อวยบทความกันไปมา มาตรการแบบให้กลไกตลาดมั นทำงานกันเองโดยไม่แทรกแซง มันไม่น่าจะใช่ ตัวอย่างเช่น การช่วยลูกหนี้เวลานี้ มันต้องช่วยพวกสีเหลืองคือเริ่ มค้าง สีส้มคือค้างมาหลายงวดอย่างเร่ งด่วน จะบี้เจ้าหนี้แบบไหนก็ต้องใส่ เกียร์เร่ง ส่วนสีแดงอ่อนคือพวกเป็นหนี้เสี ยเพราะโควิด-19 กับพวกสีแดง สีดำ คือกลุ่มที่เป็นหนี้เสียไปแล้ว อันนี้ทั้งแก้ยาก ทั้งใช้เวลา ต้องยื้อกันอีกนาน แถมกติกาถ้าเกิดจะช่วยแบบมี ความสูญเสีย สถาบันการเงินที่มีหลวงเป็นเจ้ าของก็มีข้อจำกัด ทำก็อาจจะมีคนร้องเลื่อยขาเก้ าอี้ ไม่ทำก็ไม่จบ ลาก ๆ กันไป ยืด ๆ กันไป มันจะทำได้กี่มากน้อยก็ยังเป็ นที่กังขา
ตอนบ่ายแก่ ๆ ต่อเนื่อง ผู้เขียนได้ไปเดินห้างสรรพสินค้ า ก็พบว่ามีมุมลดราคากันมากมาย เสื้อผ้าแบบชุดละ 350 บาท แต่มาขายบนราวแขวนในห้างตามมุ มโปรโมชันเห็นอยู่มากมาย มีการเล่นดนตรีสดเปิดหมวกรับเงิ นแบบวณิพกคือขายความสามารถ แบกเงินให้เห็น แสดงว่าข่าวเป็นจริงที่ห้ างสรรพสินค้าเปิดให้คนมีของมี ความสามารถร้องเพลง มาหารายได้ในห้างได้ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการไม่ สามารถทำงานหาเลี้ยงชีพในร้ านแบบผับ บาร์ได้ในช่วงเวลาที่โอมิ ครอนระบาดแบบติดเชื้อต่อวัน 7-8 พันราย
กลับมาตอนเย็น ผู้เขียนได้มีโอกาสพาบุ ตรหลานไปกินข้าว โดยเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นในย่ านถนนราชพฤกษ์ ก็พบว่ามีผู้คนพาครอบครัว บางโต๊ะมีผู้สูงวัยกลุ่ม 608 ที่น่าจะฉีดวัคซีน ครบหลายโดสออกมาทานกันอุ่ นหนาฝาคั่งครับ ก่อนเข้าร้านต้องมีการขอดู แอปการฉีดวัคซีนว่าได้ครบ มีการตรวจอุณหภูมิ มีการขอให้ล้างมือด้ วยเจลแอลกอฮอล์ พนักงานที่มาให้บริการใส่ถุงมื อยาง ใส่หน้ากากสองชั้น มีแผ่นพลาสติกใสกั้นระหว่างโต๊ ะแบบแข็งแรง มีการทำความสะอาดแบบฉีดพ่นกลิ่ นแบบโรงพยาบาล เรียกว่าทั้งคนกิน คนขาย คนบริการ ป้องกันตัวเต็มที่มาก ๆ ได้ถามพนักงานว่าเป็นอย่างไรบ้ าง ทุกคนที่ตอบบอกว่าเหนื่อยมาก ๆ มันมีทั้งออเดอร์ออนไลน์ สั่งไปกินที่บ้าน กับมากินที่ร้าน ทำงานกันแบบลืมกินข้าว แต่ก็ยังไม่เท่ากับเวลาก่อนโควิ ด-19 ระบาด ถามว่าทิปรวมได้มากขึ้นไหม ก็ตอบว่าไม่มากเท่าแต่ก่อน ปลายเดือนอย่างนี้ก็พอได้แบ่งกั น สุดท้ายก็จะบอกว่า มีงานทำดีกว่าไม่มี อย่างน้อยยังมีเงินเอาไปจ่ายหนี้ ส่งยอดผ่อนได้บ้าง ที่ไปเจรจาลดยอดผ่อนได้ ผ่อนยาวออกไปกว่าเดิม แต่ดอกเบี้ยก็ยังไม่ลด ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ยังสงสัยว่าคนที่บอกว่ าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้แล้วได้ ลดดอกเบี้ยลงมามันมีอยู่ที่ไหน ถามใครต่อใครก็เจอแบบเดียวกันคื อ ผ่อนยาวขึ้นเท่านั้นเอง
เศรษฐกิจแบบเดินไปกระท่ อนกระแท่น บนการบ้านการเมืองที่ หาความสงบสุขไม่ได้ (ดูจากข่าวแต่ละวันก็ให้นึกว่ าทำไมมันเป็นอย่างนี้หนอ) ถ้าเกิดน้ำมันขึ้นราคา ราคาอาหารพวกเนื้อสัตว์พุ่ง ดอกเบี้ยขยับขึ้น พวกเหรียญดิจิทัลต่าง ๆ ราคาตก สภาประชุมไม่ได้เพราะขาดองค์ ประชุมไม่ครบ คนทำผิดกฎหมายได้รับการช่วยเหลื อแบบน่ารังเกียจ เรื่องพวกนี้มันน้ำซึมบ่อทราย มันน้ำหยดลงบนหิน สักวันหินมันก็กร่อนและพั งทลายลง หินที่ว่าคือเศรษฐกิจ สังคม การบ้านการเมืองครับ