คอลัมน์เศรษฐกิจภาษาคน โดยคุณสุ : ความจริงทั้งสี่ประการ​ มันก็จริงทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ… : วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม 2565

ความจริงทั้งสี่ประการมันก็จริงทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ 

จากการได้เข้าไปอ่านเอกสารการรับฟังความคิดเห็นของระบบนิเวศใหม่ภูมิทัศน์ใหม่ของระบบการเงินไทยที่มุ่งหวังซึ่งเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของประเทศไทยเราได้เปิดใจและเปิดกว้างให้ผู้ที่คิดว่าตนเองจะมีส่วนได้และเสียกับระบบที่คาดหวังใหม่นี้ จากการที่ได้สนทนาบ้างรับฟังข่าวสารรับฟังการพูดคุยแบบหลังไมค์ของคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องบอกว่าความเป็นจริงของเรื่องราวที่เปิดกันออกมาจะมี​ 4แบบ คือ

1.ความจริงของฉัน ลึก แล้วที่ไปให้ข้อมูลนั้นตัวฉันต้องการอะไรต้องการให้คนฟังเชื่ออะไร

2.ความจริงของเราอันนี้คือความจริงที่พยายามจะออกมาแบบให้ดูดีตอบโจทย์ได้ไม่ได้น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งคำว่าเราในที่นี้ก็ต้องบอกว่าเราที่มีฉันรวมอยู่หรือเราที่ไม่มีฉันรวมอยู่ความจริงของเรามันจึงมีหลากหลายแบบ

3.ความจริงที่ถูกเขียนถูกบันทึกซึ่งก็ต้องรอว่าคนสรุปจะสรุปกันออกมาแบบไหนมันมีได้หลายวิธี ฟังได้ยินเห็นด้วยบันทึกตามหรือฟังแต่ไม่ได้ยินแต่จะบันทึกหรือไม่จะบันทึกกี่มากน้อยบันทึกแบบเน้นบันทึกแบบให้รู้ว่าบันทึกแล้วนะ​ 

4.สุดท้ายคือความจริงที่เป็นจริงความจริงที่เป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่งแม้ไม่มีใครเห็นด้วยแต่มันคือความจริง​ 

ในความเห็นของผู้เขียนที่มาจากฐานะของส่วนตัวในฐานะเป็นประชาชนเป็นผู้ใช้บริการและขอย้ำว่าไม่ใช่ความเห็นของสถาบันที่ตนเองสังกัดที่ย้ำเพราะหากจะมีใครเอาไปอ้างเพื่อเป็นเหตุกับผู้เขียนก็ต้องบอกว่าอันนี้คือส่วนตัวนะครับผม

ผู้เขียนสนใจที่สุดคือการแข่งขันการแข่งขันก็ต้องมีผู้เล่นหน้าใหม่ผู้เล่นคนเดิมขยายบทบาทได้พอ กับคนใหม่ที่จะเข้ามาเรื่องการแข่งขันมันก็มีแนวคิดอยู่แล้วว่ารัฐต้องแทรกแซงน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นและทำไปเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของคนใช้บริการเท่านั้นคนตรงกลางต้องทำให้พื้นที่การแข่งขันมันแฟร์ชัดเจนตรงไปตรงมามากที่สุดทีนี้ถ้าการแข่งขันมันจะเกิดก็หมายความว่าคนมาใหม่ต้องสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานได้เช่นเดียวกับคนเก่าเพราะถ้าต้องไปตัดถนนใหม่สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ต้องเดินสายใหม่มันก็ไม่มีทางเข้ามาได้ง่าย แต่ความยากมันอยู่ที่คนเก่าเขาลงแรงตัดถนนเองถางหญ้าถมดินราดยางติดเสาไฟฟ้าแสงสว่างด้วยเงินด้วยทรัพยากรของเขา คนจำนวนเป็นพันบางโครงการหลายพันลงแรงลงความคิดพัฒนามันขึ้นมาดันไม่ใช่ถนนที่หลวงเป็นคนสร้างหลวงแค่ให้สิทธิในการสร้างและไปแบ่งปันกันใช้ในหมู่คนเก่าที่สร้างกันมาไว้นานถึงนานมากแล้วต้นทุนตรงนี้คนใหม่มาจะอ้างแต่การแข่งแล้วจะไม่ชดเชยให้คนลงแรงถมดินถางหญ้ากันเลยหรือหรือตั้งใจจะวิ่งส่งของบนถนนหลวงอย่างเดียวอย่างนี้มันจะไปต่อยังไงล่ะครับ

ตัวอย่างง่าย ธนาคารเสมือนหรือธนาคารแบบล่องหนที่จะเกิดขึ้นใหม่เป็นคนเข้ามาใหม่สามารถให้บริการแบบไม่ต้องพบเห็นต่อหน้า (Non​ face to face) พอเสนอเงินฝาก​ 2% แต่ตนเองมีต้นทุนดำเนินการ​ 0.5% เท่านั้นขณะที่คนเก่ายังมีต้นทุนในการรักษาให้ระบบการโอนเงินไปมามันทำงานได้อีก​ 1%  ทีนี้ถ้าให้คนใหม่มาโดยไม่ต้องแบกภาระร่วมในระบบการโอนเงินไปมาแต่เข้ามาใช้โครงสร้างพื้นฐานเลยมันก็ดูจะไม่แฟร์กับคนเก่าแต่ถ้าจะให้คนใหม่รับต้นทุนตรงนี้ไปด้วยเท่า กันคนใหม่ก็เหนื่อยกับการต่อสู้อีกทั้งคนใหม่มันมีขนาดใหญ่เล็กไม่เท่ากันอีกบ่าที่จะแบกต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานร่วมมันก็อาจทำให้คน นี้เลิก ล้มหายตายจากไปเลยตั้งแต่ยังไม่ได้ขายของก็เป็นไปได้ทีนี้ถ้าคนใหม่จะไม่เข้าระบบโครงสร้างพื้นฐานที่คนเก่าทำไว้แล้วจะไปทำเองมันอีกกี่ปีถึงจะสำเร็จขีดความสามารถมีหรือไม่ถ้าไม่มีการ​ pools ทรัพยากรของคนใหม่เข้ามาด้วยกันมันก็ยากที่จะสร้างได้ที่สำคัญคือสร้างได้ใหม่แต่ต้องใช้เวลาปัญหามันก็วนกลับมาอีกครั้ง

จากตัวอย่างข้างต้นคนใหม่สร้างบริการดึงดูดใจมีเงินฝากดอกเบี้ยสูงไปให้แต่ดันโอนข้ามไปมาไม่ได้เพราะไม่อยู่ในระบบทีนี้จะเป็นอย่างไรอาการกลับไม่ได้ไปไม่ถึงมันจะดูดพลังของคนใหม่จนทุนหายกำไรหดล้มหายตายจากไปเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องกฎหมายเป็นหลัก มันเป็นเรื่องธุรกิจแต่เป็นเรื่องของการเจรจาตกลงกันว่าแค่ไหนเพียงใดเหมาะควรมันจะประมาณไหน​ 

การแข่งขันดีขึ้นมันเป็นผลครับเป็นผลที่เราอยากเห็นอยากเห็นการเข้ามานำเสนอในเงื่อนไขที่ดีกับลูกค้าแต่การแข่งจะเกิดไม่ได้ถ้าโครงสร้างพื้นฐานไม่เปิดกว้างให้ใช้ร่วมกันการใช้ร่วมกันจะมีสูตรค่าใช้จ่ายที่แบ่งปันกันอย่างไรใครมีรายได้​-ใครเสียค่าใช้จ่ายสูตรสมการคือออกมาประมาณไหนถ้ามันไม่จบที่หวังไว้มันจะพลอยพับกลับไป​ 

หลายอย่างที่น่าเสียดายเกิดช้าหรือไม่เกิดก็เพราะเรามีแผนดีบนกระดาษเรามีเอกสารนำเสนอสีสวยงามแต่เบื้องหลังการเจรจามันไม่ถูกขยับให้จบมันต้องว่าให้จบใต้โต๊ะไม่จบหลังไมค์ไม่ยุติมันก็จะเป็นแผนที่เดินให้เป็นจริงไม่ได้​ 

ท่านผู้อ่านครับมันมีเรื่องที่ต้องจ่ายกันไม่จ่ายแต่จะร่วมโต๊ะคงไม่ได้จ่ายแต่จ่ายจนหมดตัวมันก็ไม่มีใครเอาเพราะหมดแรงที่โต๊ะเดินลุกจากโต๊ะไม่ได้ที่ผู้เขียนกลัวที่สุดคืออยู่มันอย่างนี้แหละอยู่กับความหวังว่าว่ามันจะเกิดเกิดแล้วจึงจะแข่ง​ แข่งแล้วจะช่วยลูกค้าช่วยลูกค้าได้แล้วฝันที่ต้องการจึงเป็นจริง… 

ประเทศสารขันธ์ข้าง บ้านเราจะมีแผนเยอะมากมากถึงมากที่สุดแต่หาอันที่เป็นจริงได้กระท่อนกระแท่นข้างบ้านเรามีหลากหลายองค์กรวิสัยทัศน์สุดยอดสุด ฟังแล้วเคลิ้มลืมตาขึ้นมามีแต่ฝันร้ายขออย่าทำเหมือนเพื่อนบ้านเราเลยครับ