ทำไมเราต้องตรวจเครดิตบูโรของตนเอง และตรวจได้ที่ไหนบ้าง
บทความนี้ ผมอยากจะขอให้ท่านทราบถึงเหตุผลที่เราต้องไปตรวจเครดิตบูโรอย่างสม่ำเสมอ ตรวจไปแล้วเราได้ประโยชน์อะไร และจะไปตรวจรายงานเครดิตบูโรของตัวเราเองได้ที่ไหนบ้างครับ
คำถาม : ทำไมเราต้องตรวจเครดิตบูโรของตนเองอย่างสมำเสมอ
คำตอบ : การยื่นขอตรวจข้อมูลเครดิตของตนเองเป็นสิทธิพื้นฐานในการเข้าถึงข้อมูลเครดิต โดยเหตุผลที่ควรตรวจข้อมูลเครดิตของตนเอง มีดังนี้ 1) ช่วยให้รู้เท่าทันและป้องกันภัยไซเบอร์ทางการเงิน 2) ช่วยเช็กว่าเรามี “หนี้งอก” โดยที่เราไม่ได้ก่อหรือไม่ 3) เช็กว่าข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลเครดิตถูกต้องตามความจริงหรือไม่ 4) ข้อมูลสินเชื่อของเราถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องสามารถขอแก้ไขได้ 5) เช็กให้ชัวร์ว่าเรามีประวัติค้างชำระหรือไม่ 6) เช็กหลังจากที่จ่ายหนี้หมดแล้ว สถานะข้อมูลเครดิตขึ้นเป็นปิดบัญชี ยอดหนี้เป็นศูนย์ถูกต้องหรือไม่ 7) การเตรียมความพร้อมก่อนขอสินเชื่อ
คำถาม : ตรวจเครดิตบูโรของตัวเองบ่อย ๆ มีผลต่อการพิจารณาขอสินเชื่อของสถาบันการเงินหรือไม่?
คำตอบ : หากเป็นเจ้าของข้อมูล ยื่นขอตรวจข้อมูลเครดิตของตนเอง ผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เครดิตบูโรให้บริการนั้น จะตรวจเครดิตบูโรกี่ครั้งก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาขอสินเชื่อของธนาคารหรือสถาบันการเงินแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นสิทธิพื้นฐานในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเอง
คำถาม : จะไปตรวจเครดิตบูโรได้ที่ไหนบ้างในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
คำตอบ : ที่ผ่านมา เครดิตบูโรได้ดำเนินการพัฒนาและให้ความสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง โดยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของข้อมูลในการตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตได้อย่างรวดเร็ว หลากหลายช่องทาง อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในช่วยตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตของตนเองและเพื่อป้องกันภัยการเงินในยุคปัจจุบัน ผมขออัพเดทช่องทางตรวจเครดิตบูโร…ล่าสุด ดังนี้ครับ
1) ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร แบบรอรับรายงานได้ภายใน 15 นาที ใช้บัตรประชาชนของตนเอง ได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่) อาคาร 2 ชั้น 2 หรือเครดิตบูโร คาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 หรือสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หมอชิต และชิดลม (ภายในสถานี) ท่าวังหลัง และห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 3
2) โมบายแอปพลิเคชัน (แอป) เลือกรับรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมล แบบรับรายงานได้ทันที ผ่านแอป “KKP Mobile” (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) หรือเลือกแบบรับรายงานภายใน 24 ชั่วโมง ผ่านแอป “Krungthai NEXT” (ธนาคารกรุงไทย) แอป “MyMo” (ธนาคารออมสิน) หรือเลือกรับรายงานภายใน 3 วันทำการ ผ่านแอป “ttb touch” (ธนาคารทีทีบี)
3) แบบส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 7 วันทำการ ผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร (ทุกสาขา) กรุงไทย กรุงศรี ธอส. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และ ธ.ก.ส. หรือใช้บัตร ATM กรุงไทย ไทยพาณิชย์ หรือผ่านธนาคารออนไลน์ กรุงไทย กรุงศรี หรือเคาน์เตอร์บริการที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
4) ตรวจข้อมูลเครดิตแบบสรุป (ฟรี) ผ่านแอปทางรัฐ” หรือตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) หรือตู้ตรวจเครดิตบูโรด้วยตนเอง (ตู้คีออส) ทุกแห่ง (สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง หมอชิต ชิดลม (ภายในสถานี) สถานีกลางบางซื่อ ท่าวังหลัง และชั้น 4 ศูนย์การค้า ดิ อเวนิว รัชโยธิน กรุงเทพฯ) หรือที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ เครดิตบูโรได้ให้ความสำคัญในการสร้างวินัยทางการเงินด้วยตนเอง และการเข้าถึงข้อมูลเครดิตของตนเองมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การรณรงค์สร้างวัฒนธรรม “ออมก่อนกู้ คิดก่อนใช้ มีวินัย เมื่อมีหนี้” เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีการวางแผนการเงิน พร้อมมีวินัยในการออมเงินและรักษาเครดิตของตนเอง เป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้ประชาชนทั่วไปได้ตระหนักในเรื่องการออม ภาระหนี้ การบริหารจัดการหนี้ การมีวินัย ใช้หนี้ครบใช้หนี้ตรงตามเวลา เพราะอยากเห็นคนไทยมีวินัยทางการเงินเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น