5 ทริคการออมเงินของคน GEN Z ที่ลองแล้วดีจนอยากบอกต่อ

ในแต่ละช่วงวัยก็มีแนวทางการออมเงินที่ไม่เหมือนกัน สมัยก่อนอาจจะเน้นฝากกับกับบัญชีธนาคาร หรือฝากประจำระยะยาว เน้นทำงานประจำสร้าง Active Income มากกว่า Passive Income แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แนวทางต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ เริ่มมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับพฤติกรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ รอบตัว และนี่คือเคล็ดลับการออมเงิน GEN Z กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะมาขับเคลื่อนโลกต่อไปในอนาคต ที่มีแนวทางการออมเงินรูปแบบใหม่ที่ดีจนอยากบอกต่อ

 

  1. ไม่เก็บเงินช่องทางเดียว

คนกลุ่มนี้จะหาช่องทางการเก็บเงินที่มากกว่า 1 ช่องทาง ไม่เก็บแค่ในบัญชีเดียว แต่จะกระจายเงินออมแยกออกให้เป็นสัดส่วน เช่น เปิดบัญชีฝากประจำ ฝากกองทุน ลงทุนในหุ้น ที่จะได้ผลตอบแทนสูง และในระยะเวลาที่ไม่นาน

 

  1. หาวิธีสร้างรายได้ด้วยตนเอง

จะเห็นว่ากลุ่ม GEN Z หันมาทำธุรกิจส่วนตัว หรือ Content Creator กันเยอะมากขึ้น และสิ่งเหล่านี้ก็ช่วยสร้างรายได้ให้เลี้ยงชีพได้สบาย ๆ และด้วยความที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายมากขึ้น คนกลุ่มนี้ก็จะรู้จักหาวิธีสร้างรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นงานเสริม รองจากงานประจำ เช่น เป็น Youtuber, Tiktoker, เขียนบทความ, กราฟิกดีไซน์ หรือแม้แต่รับฟรีแลนซ์ในแต่ละอาชีพ เป็นการสร้างรายได้ และนำเงินเหล่านี้มาเก็บออมได้ด้วย

 

  1. เริ่มวางแผนการเงินและเกษียณให้เร็ว

คนกลุ่มนี้ชอบความสมดุลในชีวิต และรู้สึกว่าการทำงานจนเกษียณอาจไม่ใช่คำตอบของพวกเขาอีกต่อไป เมื่อเข้าสู่วัยทำงานก็จะคิดริเริ่มวางแผนเกษียณเร็วกว่ากำหนด เพื่อต้องการสร้างอิสรภาพ โดยบางคนก็เลือกที่จะออมเงินเกินกว่า 50% ของรายได้ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายเกษียณโดยเร็วที่สุด

 

  1. คิดถึงคุณภาพของที่จะซื้อมากกว่าราคา

หลายคนเมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งแรกที่จะทำเลยคือคำนึงถึงคุณภาพและระยะเวลาในการใช้งาน คนกลุ่มนี้เลือกซื้อสินค้าที่คุณภาพ หากราคาสูง แต่มีคุณภาพ และมีความคงทนใช้ได้นานคุ้มกับที่จ่ายก็จะเลือกซื้อ และก็จะไม่ซื้อของที่คล้าย ๆ กันบ่อย ทำให้มีเงินเก็บออมจากของไม่ฟุ่มเฟือยด้วย

 

  1. รู้เท่าทันสถานะการเงินของตนเองอยู่เสมอ

คนส่วนใหญ่มักจะวางแผนการเงิน และประเมินรายรับ รายจ่ายของตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์การเงินของตนเองในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร และจะคำนึงถึงรายจ่ายที่จะตามมาอยู่เสมอ หากเริ่มรู้สึกว่าเกินลิมิต หรือขีดจำกัดที่วางไว้ ก็จะหยุดทันที และจะไม่ไปกระทบกับส่วนเงินออมโดยเด็ดขาด

หรือบางคนก็จะเลือกใช้วิธีหักออมเท่าที่ใช้ เช่นวันนี้ใช้ 200 บาท ก็จะหักออม 200 บาท จากวงเงินรายรับที่ตั้งไว้ในเดือนนั้น ๆ เพื่อเป็นการบังคับว่าตนเองจะต้องมีเงินเก็บนะ

 

เด็กเจนใหม่ ๆ เริ่มหันมาใส่ใจเรื่องของการวางแผนการเงินมากขึ้น และการที่เรารู้จักปรับตัวพร้อมรับกับสถานการณ์ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะช่วยให้เราได้ไอเดีย และแนวทางการเงินแบบใหม่ ๆ ที่จะพาไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้โดยเร็วที่สุดนั่นเอง