5 เรื่องวางแผนการเงินที่คนตัดสินใจโสดตลอดชีวิตควรรู้ เมื่อ Marriage Strike กำลังมา

รู้หรือไม่? ในปัจจุบันอัตราการถือครองตัวเป็นโสดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลการสำรวจล่าสุดพบว่าจำนวนคนโสดเพิ่มสูงขึ้นถึง 52% ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่เป็นประเด็นระดับโลกเลยก็ว่าได้ จนเกิดเป็นปรากฎการณ์ Marriage Strike หรือก็คือกลุ่มคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะผู้หญิงที่จบการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปมีแนวโน้มที่จะแต่งงานช้าลง หรือตัดสินใจเลือกที่จะเป็นโสดตลอดชีวิต เนื่องจากพวกเธอไม่ต้องการเสียโอกาสในการทำงาน และมองกว่าตลาดแรงงานเปิดกว้างมากขึ้น สามารถหางานและเงินมาเลี้ยงตัวเองได้อย่างสบาย จึงทำให้คนกลุ่มนี้มองว่าการแต่งงาน หรือการมีครอบครัว มีลูก ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต

เมื่อเกิด Marriage Strike กันทั่วโลกแบบนี้ และหากตัวเราเองก็เป็นหนึ่งในคนที่มีความคิดและตัดสินใจที่จะอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตแล้ว เราควรจะต้องวางแผนการเงินล่วงหน้าไว้อย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอิสระได้อย่างเต็มที่โดยที่ไม่ต้องกังวลหน้าพะวงหลัง

 

  1. ออมเงินเพื่ออนาคตตั้งแต่เนิ่น ๆ

เพราะว่าคนโสดจะมีรายจ่ายมากกว่าคนมีคู่ถึง 2 เท่า และยิ่งแก่ตัวลงไปก็ยิ่งมีรายจ่ายมากขึ้นตาม ซึ่งแนวทางการออมเงินก็จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับสถานะทางการเงินและความถนัดของตัวเราที่ทำได้ในช่วงเวลานั้น ๆ แต่หากใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นในทิศทางไหนก็ขอแนะนำการออมเงินง่าย ๆ

ตัวอย่างเช่น 

ปัจจุบันอายุ 27 ปี ต้องการเกษียณอายุ 60 ปี และหลังเกษียณต้องการมีเงินใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาท โดยคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 85 ปี แสดงว่าเราต้องเก็บเงินให้ได้ 9,000,000 บาท โดยมีระยะเวลาเก็บเงินอีกทั้งสิ้น 33 ปี

 

  1. แบ่งเงินเดือนไปลงทุนบ้าง

ในช่วงระยะเวลาที่เรายังทำงานหาเงินจากน้ำพักน้ำแรงเป็น Active Income ให้เราแบ่งเงินสัก 10-20% เพื่อสร้าง Passive Income เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มเติม หรือว่าง่าย ๆ คือปล่อยให้เงินได้ทำงานและเรารอรับผลตอบแทนจากการทำงานของเงินก้อนนั้น โดยวิธีการสร้าง Passive Income มีหลากหลายวิธีมาก ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพื่อเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเรา เช่น การเล่นหุ้น การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์หรือของสะสม การสร้างผลงานที่มีลิขสิทธ์ทรัพย์สินทางปัญญาอย่างการเขียนนิยาย การเขียนบทความ เป็นต้น

 

  1. วางแผนค่ารักษาพยาบาลไว้ด้วย

เมื่ออยู่ครองตัวเป็นโสดก็อาจจะขาดคนมาดูแลเคียงข้างยามคับขัน การวางแผนในส่วนของค่ารักษาหรือค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพเข้าโรงพยาบาลก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากอนาคตเราเกิดเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลก็จะได้ไม่เป็นภาระกับใคร เช่น การทำประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เป็นต้น เพื่อครอบคลุม และคุ้มครองเหตุที่ไม่คาดฝันกับชีวิตของเรา

 

  1. หาที่พักอาศัยลงหลักปักฐานให้เรียบร้อย

อย่างน้อยการมีที่พักพิงเป็นหลักแหล่งที่ชัดเจนก็เป็นเครื่องช่วยยืนยันได้ว่ายามแก่เฒ่าไปเราก็จะมีที่อยู่อาศัยถาวร เป็นที่คอยพักพิงใจได้แม้ว่าเราจะต้องอยู่คนเดียว หรือหากใครที่รู้สึกว่าในช่วงบั้นปลายอยู่คนเดียวแล้วเหงา อีกตัวเลือกที่น่าสนใจคือบ้านพักคนชรา ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกไม่ว่าจะเป็นจ่ายรายเดือน หรือซื้อขาด สำหรับใครที่ต้องการเพื่อนถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ

 

  1. จงสร้างอิสรภาพทางการเงินให้ได้มากที่สุด

อย่าคิดสร้างพันธะหรือข้อผูกมัดทางการเงินมากจนเกินไป เช่น การก่อหนี้ที่ไม่ดี หรือหนี้ที่มีแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิต และต้องตามมาเกิดเป็นภาระหนี้สินระยะยาวจนบั้นปลายเกษียณ เมื่อตัดสินใจอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตแล้วเราควรให้ความสำคัญกับการบริหารการเงิน และระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายเงินให้มาก ลิสต์สิ่งที่จำเป็นและไม่จำเป็นในชีวิตว่ามีรายจ่ายไหนที่พอจะลดได้ ก็ถือว่าช่วยได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน

 

สุดท้ายนี้การวางแผนหรือการเตรียมพร้อมทางด้านการเงินสำหรับคนที่ตัดสินใจอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตก็ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะออกแบบเป้าหมายอนาคตออกมาเป็นหน้าตาประมาณไหน 5 ข้อนี้ถือเป็นเพียงพื้นฐานการเงินเบื้องต้นที่จะให้ทุกคนได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง หากใครมีแนวทางที่น่าสนใจลองมาแชร์กันได้นะคะ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://spacebar.th/business/TAGCLOUD-single-questionnaire