หลักการออมขั้นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งง่าย ๆ ได้ทุกช่วงวัย ฉบับมือใหม่หัดออม

หลักการออมขั้นพื้นฐาน สร้างความมั่งคั่งง่าย ๆ ได้ทุกช่วงวัย ฉบับมือใหม่หัดออม

อยากออมเงินให้เห็นผลต้องเริ่มต้นจากตรงไหน ?

เชื่อว่าในทุก ๆ ช่วงวัยคงจะมีรูปแบบการออมเงินที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม และไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล แม้ว่าการออมเงินหลาย ๆ คนอาจจะมองว่าไม่ใช่เรื่องยาก แค่เก็บเงินแต่ละเดือนก็ทำได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ความคิดที่ผิดค่ะ แต่การจะออมเงินให้สร้างความมั่งคั่ง และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แค่ออมเงินอย่างสม่ำเสมออย่างเดียวคงไม่เพียงพอ

อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการออมเงินในรูปแบบไหน สิ่งที่สำคัญในการเริ่มต้นสำหรับมือใหม่หัดออม คือหลักการออมเงินขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีหลักการสากลง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

หลักการออมขั้นพื้นฐาน 3 แบบ

– รายรับ – รายจ่าย = เงินออม

– รายรับ – เงินออม = รายจ่าย

– หักเงินออม 20% ของรายรับทั้งหมด

เหตุผลที่ควรมีหลักการออมเบื้องต้นยึดเป็นหลักไว้ เพื่อที่ว่าอย่างน้อยเราจะได้มีเป้าหมายที่แน่ชัดในการเริ่มต้นในการออม และเพื่อที่จะได้วางแผนการเงินในอนาคตต่อไปได้ พอเราได้หลักการ ก็จะได้แนวทางการออม เพื่อที่จะสร้างความมั่งคั่งต่อไปได้ค่ะ

แนวทางการออมเบื้องต้น

การออมก็เปรียบเสมือนกับการลงทุนอย่างหนึ่งที่จะช่วยสร้างความมั่นคงในชีวิต ยิ่งเราออมเงินมากเท่าไหร่ ในอนาคตเราจะมีเงินไว้ใช้มากเท่านั้น มาลองดูแนวทางการออมเงินเบื้องต้นที่ไม่ว่าใครก็ทำได้กันค่ะ

  1. ออมด้วยตัวเอง

แนวทางการออมเงินด้วยตัวเองส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ชีวิตของแต่ละบุคคล เช่น เก็บแบงก์ 50 บาท เก็บเหรียญ ออมเงินตามวันที่ ออมเงินตามสัปดาห์ เป็นต้น

  1. ออมด้วยฝากประจำ

การฝากประจำเหมือนเป็นแนวทางการออมเงินรูปแบบหนึ่งที่ดูแล้วคล้ายกับการพักเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง   ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ และผลตอบแทนที่ไม่สูง แต่เพราะด้วยที่เราจะต้องทำการฝากอย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ เดือน การออมเงินแบบนี้จะช่วยสร้างวินัยทางการเงินได้อย่างเคร่งครัด ให้เราสามารถสร้างความมั่นคงในอนาคตแบบง่าย ๆ ได้

  1. ออมผ่านกองทุนรวม

กองทุนรวมไม่ใช่แค่การออมเงิน แต่นับเป็นการลงทุนด้วยเนื่องจากมีความเสี่ยงปานกลางไปจนถึงสูง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาดูแลพอร์ตการเงินของตัวเอง กองทุนรวมก็จะมีผู้เชี่ยวชาญคอยจัดการดูแลให้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกกองทุนเอง หรือ DCA ในจำนวนที่เท่า ๆ กันในแต่ละเดือน แต่ทั้งนี้เราก็ควรต้องศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจการลงทุนด้วยเช่นกัน

  1. ออมหุ้น

เช่นเดียวกับกองทุนรวม แต่หุ้นจะมีความเสี่ยงที่สูงกว่า และจะต้องมีเวลาคอยอัปเดตข่าวเดตอยู่ตลอดเวลา ทั้งต้องมีความรู้พื้นฐานการงทุนมาในระดับหนึ่ง ฉะนั้นหากใครที่ต้องการออมเงินในรูปแบบนี้จะต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุนนะคะ

  1. ออมทอง

การออมทองถือเป็นการออมเงินที่มีความผันผวน และความเสี่ยงที่สูง แต่มั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยกว่าทรัพย์สิน หรือการออมในรูปแบบอื่น ๆ โดนสามารถเริ่มออมจากจำนวนเงินทีละเล็ก ๆ เมื่อครบกำหนดก็สามารถถอนออกมาเป็นทอง หรือขายเพื่อนำเงินมาก็ได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้หลักการออมเงินไม่มีอะไรที่แน่ชัดตายตัว ขึ้นอยู่กับความถึงพอใจของแต่ละบุคคล แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีการวางแผนอย่างชัดเจนว่าเราจะออมเงินไปเพื่ออะไร และเหมาะสมกับการออมเงินในรูปแบบไหน ซึ่งถ้าหากหาทางที่ใช่เจอแล้ว การสร้างความมั่นคั่งในชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้วล่ะค่ะ