เทคนิคออมเงินขั้นเทพ ออมอย่างไรให้เงินงอกเงย

แน่นอนว่าการออมเงินเราจะได้เป็นเงินก้อนที่เราสะสมมา เมื่อเวลาผ่านไปก็จะได้เงินก้อนใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่การที่จะทำให้ได้เงินมากกว่าที่ออมอยู่ เช่น ออม 1,000 บาท แต่กลับได้เงิน 1,500 นั่นก็อาจเป็นเพราะได้ดอกเบี้ยหรือไม่ก็เทคนิคที่เพิ่มมา ถ้าอยากให้ปรากฏการณ์เงินออมแสดงอภินิหารให้ชื่นใจแบบนี้ ก็สามารถทำเองได้ เรามีเทคนิคพิเศษมาแชร์กัน

ความคล่องตัว หรือผลตอบแทนสูง เลือกให้ดีก่อนออม

แม้ว่าการฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์จะมีความคล่องตัวสูง จะฝาก-ถอนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก็ต้องแลกกับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการฝากประจำ แต่หากมีการวางแผนการเงินที่ดี จะทำให้คุณสามารถประเมินได้ว่า ควรฝากเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์เท่าไหร่จึงจะเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในยามปกติ หรือสำรองไว้ยามฉุกเฉิน เพื่อจะได้นำเงินส่วนที่เหลือมาเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากประจำที่ได้ผลตอบแทนสูงกว่า ลองวางแผนให้ดี มีเงินหลายบัญชีซึ่งอาจมีดอกเบี้ยไม่เทากัน แต่ก็มีโอกาสที่เงินจะงอกเงยได้

ผลตอบแทนดีย่อมมีความเสี่ยงสูง ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

สิ่งที่ต้องระวังในการออมหรือลงทุน คือ ผลตอบแทนที่สูงมักมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ซึ่งหมายถึงความเป็นไปได้ในการที่คุณจะต้องสูญเสียเงินต้นไปนั่นเอง เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจออมหรือลงทุน ควรศึกษาลักษณะ เงื่อนไข และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ในการออมหรือลงทุนให้เข้าใจอย่างชัดเจน และควรเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการอื่น หรือทางเลือกอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันด้วย

การกระจายความเสี่ยงไว้ไม่มีพลาด

ปัจจุบัน เงินฝากในธนาคารพาณิชย์ ยังได้รับความคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากในวงเงินไม่เกิน 50 ล้านบาท/ราย/สถาบันการเงิน ไปจนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง ส่วนเงินลงทุนนั้นจะไม่ได้รับความคุ้มครอง เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก คุณจึงไม่ควรนำเงินทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทเดียวกัน หรือมีความเสี่ยงประเภทเดียวกัน ทางที่ดีควรแบ่งเงินออมไว้ส่วนหนึ่ง เงินลงทุนในทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ ไว้อีกส่วนหนึ่ง โดยเงินลงทุนที่แบ่งนี้อาจจะแยกให้ชัดเจน เช่น ก้อนหนึ่งซื้ออสังหาริมทรัพย์ ก้อนหนึ่งซื้อกองทุน ก้อนหนึ่งไว้ลงทุนในหุ้น ก้อนหนึ่งไว้ลงทุนซื้อทรัพย์สินเพื่อเก็งกำไร เช่น เงินตรา ทอง เป็นต้น เท่านี้ก็เป็นช่องทางในการหารายได้หลายทางและกระจายความเสี่ยงได้อย่างปลอดภัย

ภาษี หัก ณ ที่จ่าย เรื่องน่าคิดที่ต้องรู้

ในการลงทุนไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม จำเป็นต้องคำนึงถึงภาษีด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย (เช่น ดอกเบี้ยเงินฝาก ดอกเบี้ยพันธบัตร) จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 15% และผลตอบแทนในรูปเงินปันผล (เช่น เงินปันผลจากหุ้นทุน) จะถูกหัก 10% เช่น หากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เท่ากับ 4% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยหลังหักภาษีที่คุณได้รับจะเท่ากับ 4% – (4% x 15%) หรือเท่ากับ 3.4% ต่อปี แต่ก็ยังมีรายได้จากการออมหรือการลงทุนบางประเภทที่ได้รับยกเว้นภาษี เช่น

  • ดอกเบี้ยจากเงินฝากออมทรัพย์ส่วนที่ไม่เกิน 20,000 บาท
  • ดอกเบี้ยจากสลากออมสิน
  • ดอกเบี้ยจากเงินฝากประจำรายเดือน ตั้งแต่ 24 เดือนขึ้นไป (บุคคลธรรมดาสามารถใช้สิทธิฝากเงินในบัญชีประเภทนี้ได้ เพียงบัญชีเดียว โดยยอดเงินฝากรวมต้องไม่เกิน 600,000 บาทและผู้ปกครองสามารถเปิดบัญชีในนามของผู้เยาว์ได้)
  • ส่วนต่างระหว่างราคาขายและราคาซื้อกองทุนรวม

กรมธรรม์ประกันภัย เลือกให้ดีไม่มีภัย

ไม่ว่าจะเป็นประกันแบบออมทรัพย์ ประกันแบบบำนาญ หรือกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองมากกว่า 10 ปีขึ้นไป ด้วยเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาจะเป็นการบังคับให้เราต้องออมเงินสม่ำเสมอ ด้วยการจ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือน หรือรายปี โดยผลตอบแทนที่ได้จะแตกต่างกันไปตามกรมธรรม์ บางกรมธรรม์มีกำหนดการจ่ายเงินต้นคืน พร้อมดอกเบี้ยคืนเมื่อครบสัญญา บางกรมธรรม์มีเงื่อนไขจ่ายคืนทุก ๆ 2-3 ปี นอกจากเงินต้นรวมดอกเบี้ย หรือความคุ้มครองที่จะได้รับแล้ว เรายังสามารถนำเบี้ยประกันไปหักลดหย่อนภาษีในแต่ละปีที่มีการจ่ายเบี้ยประกันอีกด้วย การออมประเภทนี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการออมเงินในระยะยาว ต้องการสร้างหลักประกันของรายได้หลังวัยเกษียณ หรือต้องการซื้อความคุ้มครองให้กับครอบครัวในกรณีของประกันชีวิต รวมถึงผู้ที่หาช่องทางการลดหย่อนภาษีเพิ่มเติม

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีไว้ย่อมให้คุณ

สำหรับพนักงานประจำในบริษัทเอกชน หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สำหรับข้าราชการ การเป็นสมาชิก กบข. นั้นเป็นข้อบังคับของข้าราชการทุกคน แต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นความสมัครใจของลูกจ้าง หลักการทั่วไปคือ ลูกจ้างต้องจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนทุกเดือน ซึ่งทั่วไปแล้วจะถูกตัดออกจากเงินเดือนโดยอัตโนมัติ และจะได้รับเงินคืนจากกองทุนเมื่อลูกจ้างเกษียณอายุ หรือเมื่อลาออกจากงาน ในแง่ผลตอบแทน นอกเหนือจากเงินสะสมรายเดือนจากลูกจ้างแล้ว ยังมีส่วนของนายจ้างที่จ่ายสมทบให้ลูกจ้างทุกเดือน รวมทั้งยังมีผลประโยชน์จากมูลค่าของหน่วยลงทุนที่สูงขึ้นจากการบริหารของกองทุน แถมเงินออมส่วนนี้ยังสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีในปีที่มีการจ่ายเงินเข้ากองทุนอีกด้วย ด้วยผลประโยชน์หลายต่อดังนี้ เพื่อน ๆ พนักงานประจำคงไม่พลาดที่จะออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  ซึ่งกองทุนนี้เหมาะสำหรับเหมาะสำหรับ พนักงานประจำในบริษัทเอกชน ข้าราชการ

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นเทคนิคการออมเงินแบบเบา ๆ สำหรับคนทั่วไปที่สามารถใช้เป็นแนวทางในการออมเพื่อให้เงินงอกเงยได้ วิธีนี้ที่คุณถูกใจลองนำไปใช้ดู

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ศคง. และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
http://multimedia.gpf.or.th/microsite/content/c14b331a42112c4d6b74fe6176de435f.pdf
https://www.krungsri.com/bank/th/plearn-plearn/saving-money-to-grow-every-month.html