Q: มีตรวจเครดิตบูโรผ่านโมบายแอป หรือไม่

แบบส่งรายงานรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (NCB e-Credit Report) ทางอีเมล  

ได้ทันที

1.ผ่านโมบายแยงก์กิ้ง ธนาคารกรุงเทพ บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

2.ผ่านโมบายแอป “KKP Mobile” (ธนาคารเกียรตินาคินภัทร) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

 

ภายใน 24 ชั่วโมง (เป็นไปตามเงื่อนไขที่เครดิตบูโรกำหนด) 

3.ผ่านโมบายแอป “Krungthai NEXT” (ธนาคารกรุงไทย) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

4.ผ่านโมบายแอป “MyMo” (ธนาคารออมสิน) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

5.ผ่านโมบายแอป “เป๋าตัง” (เป๋าตังเปย์) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

6.ผ่านโมบายแอป “Flash Express” (Flash Money) บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิตและเครดิตสกอริ่ง 

 

ภายใน 3 วันทำการ

7.ผ่านโมบายแอป “ttb touch” (ธนาคารทีทีบี)  บริการตรวจรายงานข้อมูลเครดิต 

หมายเหตุ : กรณีชื่อ-นามสกุล อีเมล เบอร์โทรศัพท์มือถือ และที่อยู่ของท่านมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาปรับแก้ไขในระบบให้ถูกต้อง ก่อนใช้บริการ

Q: ตรวจเครดิตบูโร ได้ที่ไหนบ้าง

แบบรอรับได้เลย (ค่าบริการ 100 บาท) ภายใน 15 นาที 

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00-16.30 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

1 ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น 2 (โซนพลาซา)  วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์  * รายงานข้อมูลเครดิต (บุคคลธรรมดาและมอบอำนาจ) l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดาและ,มอบอำนาจ) l นิติบุคคล นิติบุคคล (มอบอำนาจ) l ชาวต่างชาติ

วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

3.ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี) วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 – 18.00 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์   *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น. (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)

5.ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 1 วันจันทร์ – อาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.00 น. วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.00 น.   *เฉพาะบุคคลธรรมดาของตนเองและมอบอำนาจ l เครดิตสกอริ่ง (บุคคลธรรมดา) l ชาวต่างชาติ

Q: จะตรวจเครดิตบูโรในต่างจังหวัด ได้ที่ไหนบ้าง

ท่านสามารถยื่นคำขอตรวจ โดยรายงานจะจัดส่งกลับไปให้ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ภายใน 7 วันทำการ  ดังนี้

  1. เคาน์เตอร์ธนาคาร (ทุกสาขา) กรุงศรี, กรุงไทย, ธอส. และ ธ.ก.ส.
    – แจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เคาน์เตอร์ พร้อมยื่นบัตรประชาชนของตนเอง
  2. ใช้บัตร ATM กรุงไทย, ไทยพาณิชย์
    – มีบัตรของธนาคารไหน ใช้ตู้ ATM ธนาคารนั้น
    – ทำรายการผ่านหน้าจอ (เมนู ตรวจเครดิตบูโร)
  3. ใช้โมบาย แอปพลิเคชัน สำหรับผู้ที่ลงทะเบียน ธนาคารมือถือ กรุงเทพ, ออมสิน, ทีทีบี, กรุงไทย, เกียตรนาคินภัทร , เป๋าตัง , Flash Express
    – ทำรายการผ่านธนาคาร บนโทรศัพท์มือถือ
  4. ใช้บริการธนาคารออนไลน์กรุงศรี
    – มีบัญชีธนาคาร / ทำรายการผ่านเว็บไซต์
  5. ที่ทำการไปรษณีย์ ที่ทำการไปรษณีย์ และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ ทุกแห่งทั่วประเทศ
    * สอบถามเพิ่มเติม THP Contact Center โทร.1545 หรือ www.thailandpost.co.th

Q: ข้อมูลในเครดิตบูโรจัดเก็บไว้กี่ปี

เครดิตบูโรจัดเก็บข้อมูลไม่เกิน 3 ปี เช่น ถ้าเจ้าของข้อมูลมีบัตรเครดิตที่ค้างชำระในเดือนสิงหาคมและต่อมาได้จ่ายหนี้และปิดบัญชีในเดือนกันยายน ข้อมูลเครดิตของเดือนกันยายนจะแสดงยอดหนี้เป็น 0 มีสถานะบัญชีเป็น”ปิดบัญชี” และแสดงข้อมูลอยู่ในเครดิตบูโรอีกไม่เกิน 3 ปีนับจากวันที่ได้รับรายงานข้อมูลการปิดบัญชีจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกหลังจากนั้น เมื่อครบกำหนด 3 ปี บัญชีบัตรเครดิตดังกล่าวก็จะถูกลบออกไปจากฐานข้อมูลเครดิตบูโร โดยอัตโนมัติ เครดิตบูโรไม่สามารถลบข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตได้ในทันทีที่ได้ ชำระหนี้เสร็จสิ้นปิดบัญชีตามที่เข้าใจ

Q: การอัพเดทข้อมูลในรายงานเครดิต

สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกจะนำส่งข้อมูลให้กับเครดิตบูโรตามรอบการรายงานและจัดส่งข้อมูล ซึ่งเป็นการรายงานและส่งข้อมูลสินเชื่อแบบรายเดือน (Monthly Basis) มิใช่รายงานและส่งข้อมูลสินเชื่อแบบทันที (Real Time) เช่น ข้อมูลการชำระปิดบัญชีของเดือน มีนาคม 2564 ท่านสามารถตรวจสอบเครดิตบูโรได้ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2564 เป็นต้นไป

Q: จ่ายหนี้แล้ว ข้อมูลเครดิตจะเป็นอย่างไร

เมื่อท่านจ่ายหนี้ที่ค้างหมดแล้วในวันหนึ่งวันใด ข้อมูลเครดิตบูโรของท่านจะยังไม่ได้รับปรับสถานะบัญชีและยอดหนี้ในทันที แต่ข้อมูลจะมีการเปลี่ยนแปลงและแสดงผลในรายงานเครดิตบูโรในเดือนถัดไป เพราะระบบข้อมูลของเครดิตบูโรเป็นการรายงานข้อมูลแบบรายเดือน คือข้อมูลความเคลื่อนไหวของเดือนนี้ จะรายงานหรือแสดงผลในเดือนหน้า เช่น ข้อมูลที่จ่ายหนี้หมดเดือนตุลาคม แบงก์หรือสถาบันการเงินจะส่งหรือรายงานข้อมูลเดือนตุลาคมให้เครดิตบูโรในเดือนพฤศจิกายน เป็นยอดหนี้ ศูนย์บาท สถานะบัญชี ปิดบัญชี เป็นต้น

Q: จะขอแก้ไขข้อมูลเครดิต ทำอย่างไร

  1. ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงิน 

ติดต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเจ้าของบัญชี (ผู้ส่งข้อมูล) เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องธนาคารหรือสถาบันการเงินจะแจ้งให้เครดิตบูโรแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องตามความเป็นจริงและแจ้งผลการตรวจสอบให้เจ้าของข้อมูลทราบภายใน 30 วัน หากสถาบันการเงินยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้วไม่สามารถแก้ไขตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอได้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้เครดิตบูโรบันทึกโต้แย้งไว้ในระบบข้อมูลเครดิตและสามารถยื่นอุทธรณ์ ข้อโต้แย้งต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครติตเพื่อพิจารณาได้

2. ติดต่อศูนย์ตรวจเครดิตบูโร 

ติดต่อศูนย์ตรวจเครดิตบูโร โดยกรอกแบบคำขอแก้ไขข้อมูลพร้อมยื่นสำเนาบัตรประชาชน สำเนา รายงาน เครดิตบูโร ที่ต้องการแก้ไข และหลักฐานที่เกี่ยวข้องเครดิตบูโรจะแจ้งสถาบันการเงินผู้ส่งข้อมูลให้ตรวจสอบความถูกต้อง และแจ้งผลการตรวจสอบให้เจ้าของข้อมูลทราบภายใน 30 วันนับจากวันที่ยืนคำขอ

ถ้าข้อมูลไม่ถูกต้องจริงและสถาบันการเงินได้แก้ไขแล้ว เครดิตบูโรจะส่งรายงานข้อมูลเครดิตฉบับที่แก้ไขแล้วให้กับเจ้าของข้อมูล

แต่หากสถาบันการเงินยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องแล้วไม่สามารถแก้ไขตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอได้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้เครดิตบูโร บันทึกโต้แย้งไว้ในระบบข้อมูลเครดิตและสามารถยื่นอุทธรณ์ ข้อโต้แย้งต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครติตเพื่อพิจารณาได้

หรือสามารถ Download แบบคำขอได้ที่ https://www.ncb.co.th/check-your-credit-bureau/form_download และส่งเอกสารคำขอพร้อมหลักฐาน มาทางไปรษณีย์ ถึง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ส่วนบริการเจ้าของข้อมูล ชั้น 2อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า เลขที่ 33/4 ถ.พระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

Q: จะขอแก้ไขรหัสสถานะบัญชี (กรณีชำระหนี้ให้แก่นิติบุคคลผู้รับโอนหนี้เสร็จสิ้น) ต้องทำอย่างไร

กรณีที่ท่านมีความประสงค์ ยื่นคำขอแก้ไขรหัสสถานะบัญชี (เนื่องจากได้ชำระหนี้ให้แก่นิติบุคคล ผู้รับโอนหนี้เสร็จสิ้นแล้ว) เครดิตบูโรขอสงวนสิทธิ์ในการรับเรื่อง โดยจะรับเป็นเอกสารต้นฉบับเท่านั้นค่ะ

โดยท่านสามารถยื่นคำขอ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยตนเองประกอบด้วย

  1. แบบฟอร์มคำขอแก้ไขระหัสสถานะบัญชี (เนื่องจากได้ชำระหนี้ให้แก่นิติบุคคลผู้รับโอนหนี้เสร็จสิ้นแล้ว) กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน https://www.ncb.co.th/check-your-credit-bureau/form_download
  2. สำเนาบัตรประชาชน ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
  3. สำเนาหนังสือยืนยันการชำระหนี้ปิดบัญชี ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
  4. สำเนาใบเปลี่ยน ชื่อ-นามสกุล ในกรณที่มีการเปลี่ยน ชื่อ-นามสกุล ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

หรือ จัดส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ถึง บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ส่วนบริการเจ้าของข้อมูล ชั้น 2อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า เลขที่ 33/4 ถ.พระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

ทั้งนี้ เมื่อได้รับคำขอและเอกสารที่เกี่ยวข้องของท่าน ถูกต้อง ครบถ้วนแล้ว เครดิตบูโรจะดำเนินการประสานงานตรวจสอบกับสถาบันการเงิน และเมื่อได้รับคำชี้แจงจากสถาบันการเงินแล้ว เครดิตบูโรจะแจ้งผลให้ท่านทราบ (ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน) ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอของท่านตามที่กฎหมายกำหนด

Q: ทำไมกู้สินเชื่อไม่ผ่าน

การพิจารณาสินเชื่อเป็นดุลยพินิจของสถาบันการเงิน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ หรือ นโยบายสินเชื่อของแต่ละสถาบันการเงินในขณะนั้น ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ข้อมูลเครดิตเป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งในการนำไปประกอบการพิจารณาสินเชื่อเท่านั้น นอกเหนือจากข้อมูลจากแหล่งอื่น ที่สถาบันการเงินใช้ประกอบการพิจารณา เช่น รายได้ รายจ่าย อาชีพ ประวัติการออม อายุงาน หรือ หลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นต้น

นอกจากนี้ หากปรากฎว่าสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทได้ปฏิเสธสินเชื่อแก่ลูกค้าโดยเหตุเพราะการตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากบริษัท สถาบันการเงินแห่งนั้นจะต้องมีหนังสือปฏิเสธสินเชื่อให้แก่ลูกค้า พร้อมแจ้งที่อยู่ของบริษัทข้อมูลเครดิตที่เป็นสถาบันการเงินที่ใช้ตรวจสอบข้อมูล และท่านสามารถนำหนังสือปฏิเสธสินเชื่อที่ได้จากสถาบันการเงินไปขอตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองได้ที่บริษัทข้อมูลเครดิตโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

Q: ถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยอ้างเหตุเกี่ยวกับเครดิตบูโร ต้องทำอย่างไร

ถ้าท่านกู้ไม่ผ่านหรือถูกปฏิเสธสินเชื่อ โดยธนาคารหรือสถาบันการเงินให้เหตุผลว่าเป็นเพราะข้อมูลในเครดิตบูโรหรือเกี่ยวข้องกับเครดิตบูโร ธนาคารหรือสถาบันการเงินต้องออกหนังสือชี้แจงเหตุผลที่ไม่ให้กู้หรือปฏิเสธให้สินเชื่อโดยชัดเจนว่า ไม่ให้กู้เพราะข้อมูลของท่านในเครดิตบูโรเป็นอย่างไร เช่น มีข้อมูลแสดงว่ามีหนี้ค้าง มีหนี้หรือวงเงินสินเชื่อมากเกินไป เป็นต้น ให้แก่ท่าน เพื่อที่ท่านจะได้นำหนังสือดังกล่าวพร้อมกับบัตรประชาชนตัวจริง มายื่นขอตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเครดิตบูโรได้ฟรี ณ ศูนย์บริการตรวจเครดิตบูโรทุกแห่ง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ

ในกรณีที่ท่านเห็นว่า ข้อมูลไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง ท่านอาจยื่นคำขอพร้อมแสดงหลักฐานประกอบเพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินพิจารณาแก้ไขข้อมูลของคุณให้ถูกต้อง และหรือขอให้ธนาคารหรือสถาบันเงินพิจารณาคำขอกู้ให้แก่ท่านอีกครั้งหนึ่งก็ได้

Q: จริงหรือไม่ที่ว่า “กู้ได้ไม่ได้เป็นเพราะเครดิตบูโร”

ในความเป็นจริงแล้วเครดิตบูโรไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติหรือไม่อนุมัติเงินกู้หรือสินเชื่อ แต่อย่างใดการพิจารณาเงินกู้หรือสินเชื่อให้ผู้ขอสินเชื่อเป็นอำนาจของแบงก์และสถาบันการเงิน โดยธนาคารและสถาบันการเงินอาศัยข้อมูลเครดิตบูโรเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเท่านั้น โดยนำไปร่วมกับข้อมูลอื่นๆอีกหลายอย่างของตัวลูกค้าเอง เช่น รายได้ ความสามารถในการชำระหนี้คืน อาชีพ อายุ หลักประกัน เป็นต้น

Q: Blacklist หรือ ติดเครดิตบูโร มีจริงหรือไม่

มีคนชอบพูดเสมอว่า เครดิตบูโรเก็บข้อมูล “แบล็กลิสต์” หรืออ้างว่า “ติด Blacklist ติดเครดิตบูโร” แล้วกู้ไม่ผ่าน ขนาดเคลียร์แล้วยังติด Blacklist เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลย การเก็บข้อมูลของเครดิตบูโร ไม่ได้จัดเก็บเป็นแบล็กลิสต์ หรือบัญชีดำ เครดิตบูโรไม่เคยจัดทำและขึ้นบัญชี แบล็กลิสต์กับใครไว้ในฐานข้อมูลเลย และในรายงานข้อมูลเครดิตบูโรก็ไม่มีคำว่า แบล็กลิสต์

โดยเครดิตบูโรจะจัดเก็บข้อมูลตามความจริง หากจ่ายแล้วก็บอกว่า “ปกติ” หรือ “ไม่ค้างชำระ” แต่ถ้ายังไม่จ่าย ก็บอกว่า “ค้างชำระ” ไม่ว่าจะชำระตรงกำหนดหรือไม่ก็ตาม ถ้าเคลียร์หรือปิดบัญชีแล้วก็จะบอกตามนั้น เพียงแต่ข้อมูลจะยังไม่ถูกลบออกไปจนกว่าจะถึงกำหนดที่กฎหมายให้เก็บ

Q: เคยมีหนี้ค้างในข้อมูลเครดิต ขอกู้เงินใหม่ได้หรือไม่

ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะให้สินเชื่อลูกค้านั้น มีหลักเกณฑ์พิจารณาหลายอย่าง นอกจากข้อมูลเครดิตบูโร เช่น  ลูกค้ามีหน้าที่การงานดีรายได้แน่นอน นโยบายการให้สินเชื่อของแบงก์และสถาบันการเงินเอง แล้วจึงมาดูประวัติการชำระหนี้จากเครดิตบูโรประกอบการพิจารณา หากลูกค้ามีรายได้น้อย รายได้แน่นอน ก็มิใช่ว่าจะไม่ได้รับสินเชื่อ แต่อาจได้รับเงินกู้น้อยกว่า ซึ่งก็พิจารณาตามความสามารถของลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้นการให้หรือไม่ให้สินเชื่อขึ้นอยู่กับนโยบายของแบงก์และสถาบันการเงิน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครดิตบูโรเลยข้อมูลที่ธนาคารและสถาบันการเงินได้รับจากเครดิตบูโรเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ของลูกค้า

Q: ติดตามการจัดส่งรายงานทางไปรษณีย์ ได้อย่างไร

ขอให้ท่านโปรดแจ้งชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน มาที่ email: Consumer@ncb.co.th โดยจะมีอีเมลตอบกลับไปว่า เครดิตบูโร ขอเรียนว่าได้ดำเนินการให้ท่านแล้ว ตัวอย่างเช่น เลขที่เอกสารลงทะเบียน RY9107XXXXX31TH  ทั้งนี้ท่านสามารถเช็กสถานะทางไปรษณีย์ออนไลน์ได้ที่ http://track.thailandpost.co.th

Q: ถ้าเคยมีหนี้ค้างในรายงานเครดิตบูโร จะขอกู้เงินใหม่ได้หรือไม่

แบงก์หรือสถาบันการเงินจะให้สินเชื่อลูกค้านั้น มีหลักเกณฑ์พิจารณาหลายอย่าง นอกจากข้อมูลเครดิตบูโร เช่น  ลูกค้ามีหน้าที่การงานดี รายได้แน่นอน นโยบายการให้สินเชื่อของแบงก์และสถาบันการเงินเองแล้วจึงมาดูประวัติการชำระหนี้จากเครดิตบูโรประกอบการพิจารณา หากลูกค้ามีรายได้น้อย รายได้ไม่แน่นอน ก็มิใช่ว่าจะไม่ได้รับสินเชื่อ แต่อาจได้รับเงินกู้น้อยกว่า ซึ่งก็พิจารณาตามความสามารถของลูกค้าเป็นหลัก ดังนั้น การให้หรือไม่ให้สินเชื่อขึ้นอยู่กับนโยบายของแบงก์และสถาบันการเงินไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครดิตบูโร ข้อมูลที่แบงก์และสถาบันการเงินได้รับจากเครดิตบูโร เป็นส่วนหนึ่งที่นำมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อร่วมกับข้อมูลอื่นๆของลูกค้า

เป็นผู้ค้ำประกัน มีข้อมูลในเครดิตบูโร หรือไม่

– เครดิตบูโรไม่ได้จัดเก็บข้อมูลผู้ค้ำประกัน เพราะผู้ค้ำประกันไม่ใช่คนขอกู้เงินหรือคนที่ขอสินเชื่อ แต่ถ้าผู้ค้ำประกันเป็นผู้กู้ร่วมก็ถือว่าเป็นลูกค้าผู้ขอกู้เงินหรือขอสินเชื่อด้วย ดังนั้น เครดิตบูโรจะเก็บข้อมูลในฐานะที่เขาเป็นผู้กู้ร่วม ไม่ใช่ในฐานะผู้ค้ำประกัน

Q: ต้องการทราบว่าข้อมูลเครดิตของบุคคลธรรมดาที่ถูกบัณทึกไว้ ณ วันสิ้นปี ของแต่ละปี หากก่อนสิ้นสุดปีมีการ โปะยอด หรือ clear ยอดแล้ว เมื่อขึ้นปีใหม่ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกล้างออกไปหรือไม่

ข้อมูลเครดิตมีการบันทึกไว้ทุกๆ สิ้นเดือน เป็นลักษณะของประวัติ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่แสดงให้เห็นเป็นรายเดือน โดยสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตมีหน้าที่นำส่งข้อมูลสินเชื่อของลูกค้าเข้ามาในฐานข้อมูลของบริษัท และเมื่อมีการชำระหนี้เสร็จสิ้นทั้งหมดในเดือนใด ก็จะรายงานว่าปิดบัญชี ไม่มีภาระหนี้คงเหลือแล้วในเดือนนั้น และข้อมูลดังกล่าวจะจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลอีก 3 ปีหรือ 36 เดือน นับจากวันที่ได้รับรายงานจากสมาชิก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้วข้อมูลจะถูกลบออกไป เพียงแต่จะปรากฏข้อมูลใหม่ว่าได้ชำระเสร็จสิ้นแล้วค่ะ

Q: มีหนี้ชำระส่วนขาด หลังจากขายทอดตลอดแล้ว เริ่มทำสัญญาประนอมหนี้ เมษายน 2547 มีกำหนด 5 ปี ปัจจุบันส่งตลอด ไม่เคยขาดเลย 2 ปีกว่าแล้ว ไม่ทราบว่าอย่างนี้เรียกติดแบ็กลิสอยู่หรือเปล่า

ข้อมูลเครดิตในฐานข้อมูลมิใช่เป็นแบล็กลิสต์แต่อย่างใด จะเป็นการรายงานประวัติการผ่อนชำระตามความเป็นจริง และในกรณีที่มีการประนอมหนี้และผ่อนชำระมาแล้ว 2 ปี โดยไม่เคยค้างชำระธนาคารก็จะรายงานเป็นปกติ เพราะสามารถชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขใหม่ ในกรณีที่ถูกฟ้องศาลหรือขายทอดตลาดสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะส่งข้อเท็จจริงดังกล่าวมาบันทึกในระบบฐานข้อมูลของบริษัทด้วย

Q: หากจะเดินทางไปยื่นคำขอที่บริษัท ไม่ทราบว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ

Q: กรณีที่ขอสินเชื่อ หรือมีบัตรเครดิตไว้กับธนาคารหลายแห่ง ข้อมูลจากทุกธนาคารจะถูกส่งมาที่บริษัทข้อมูลเครดิตใช่หรือไม่่

เฉพาะข้อมูลการขอและการชำระสินเชื่อจากธนาคารที่เป็นสมาชิกกับบริษัทเท่านั้นที่จะรายงานข้อมูลเข้ามา ซึ่งธนาคารเกือบทุกแห่งใน ประเทศไทยเป็นสมาชิกของบริษัท และเราจะแสดงข้อมูลจากที่ทุกๆ สถาบันการเงินสมาชิกส่งเข้ามา

Q: ได้รับหมายศาลว่าให้ชำระหนี้กู้บ้านราคา 3 ล้าน ทั้งๆ ที่ไม่เคยขอกู้เงินซื้อบ้านมาก่อนเลย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และควรจะทำอย่างไรดี

กรณีนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลอื่น มีชื่อ-นามสกุล ซ้ำกับคุณ เพราะข้อมูลการค้างชำระที่ทางศาลเก็บไว้ กรณีนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่มีบุคคลอื่น มีชื่อ-นามสกุลซ้ำกับท่านได้ เพราะข้อมูลการค้างชำระที่ทางศาลเก็บไว้จะเก็บเพียงชื่อ-นามสกุล เท่านั้น และอาจจะซ้ำซ้อนกันได้ ท่านควรมาตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองที่บริษัทซึ่งจัดเก็บข้อมูลของแต่ละบุคคลตามเลขที่ประจำตัวประชาชนจะไม่มีสิทธิ์ซ้ำกันอย่างแน่นอน เมื่อท่านได้รายงานข้อมูลเครดิตแล้ว ท่านสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นประกอบคำร้องเพื่อให้ศาลพิจารณาได้

Q: พวกบัตรเครดิตจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ อย่างเช่น Central, Lotus นี่เขาเช็กบูโรไหม

ขึ้นอยู่กับว่าสถาบันการเงินนั้นๆ เป็นสมาชิกกับบริษัทข้อมูลเครดิตหรือไม่ หากเป็นสมาชิกก็จะสามารถเช็กข้อมูลได้ ในกรณีนี้คุณอาจจะลองเข้ามาตรวจสอบข้อมูลที่บริษัทฯ เพื่อดูข้อมูลของตัวเองก่อนก็ได้

Q: อยากทราบว่า ค้างชำระเป็นเวลานานเท่าใด ชื่อจึงถูกจัดเข้าไปอยู่ในแบล็กลิสต์ของบริษัทข้อมูลเครดิต

ก่อนอื่นคงต้องขอทำความเข้าใจกับคุณก่อนว่า บริษัทข้อมูลเครดิตไม่ได้เป็นศูนย์กลางในการจัดหรือเก็บข้อมูลแบล็กลิสต์แต่อย่างใด บริษัทฯ มีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการขอและการชำระสินเชื่อของคุณไม่ว่าจะเป็นการชำระดีหรือไม่ดีจะบันทึกไว้ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

Q: ข้อมูลในเครดิตบูโรจะเก็บย้อนหลังกี่ปี และจะอัพเดททุก ๆ กี่เดือน

ข้อมูลของบุคคลธรรมดาและข้อมูลของนิติบุคคล กฎหมายกำหนดไว้ว่าให้เก็บไว้ในระบบประมวลผลได้ไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่สมาชิกรายงานข้อมูลมายังบริษัท โดยที่จะมีข้อมูลใหม่เข้าไปแทนที่ข้อมูลเก่าเรื่อยไปน่ะค่ะ ส่วนการอัพเดดข้อมูลนั้น สถาบันการเงินจะรายงานประวัติการชำระของคุณเข้ามาที่บริษัทฯ ทุกๆ สิ้นเดือนค่ะ

Q: หากไม่จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิต ข้อมูลจะถูกนำส่งบริษัทข้อมูลเครดิตหรือไม่

ข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งเข้ามาที่บริษัทฯ ข้อมูลเครดิตด้วยค่ะ เพราะข้อมูลในรายงานข้อมูลเครดิตจะไม่ได้แยกว่าเป็นหนี้จากการใช้บัตรเครดิต หรือหนี้จากค่าธรรมเนียม แต่ถ้ามีการขอยกเว้นในภายหลัง ก็ต้องแจ้งเรื่องให้บริษัทหรือสถาบันผู้ออกบัตรแก้ไขข้อมูลแล้วส่งมาที่บริษัทข้อมูลเครดิตอีกครั้งค่ะ

Q: ชำระหนี้ที่เคยค้างค่าบัตรเครดิตไว้ไปหมดแล้ว แต่ทำไมในรายงานข้อมูลเครดิต จึงยังมีชื่อปรากฏอยู่ว่าค้างชำระ

รายงานข้อมูลเครดิตเปรียบเหมือนรายงานผลการศึกษา คือจะรายงานตามผลจริงที่เกิดขึ้น และไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขประวัติเดิมได้ หากคุณเคยค้างชำระไว้ ข้อมูลก็จะขึ้น ณ เดือนที่คุณค้างชำระว่า “ค้างชำระ” ในกรณีที่คุณได้ชำระหนี้ไปแล้ว จะมีข้อมูลใหม่ขึ้นมาว่า คุณชำระเรียบร้อยแล้วหรือปิดบัญชีแล้ว โดยที่ข้อมูลการค้างชำระเดิมไม่ได้ถูกลบออกไป จนกว่าข้อมูลนั้นจะถูกลบออกไปตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ 3 ปีหรือ 36 เดือน

Q: ค้างค่าโทรศัพท์มือถือมาประมาณ 1 ปี จะติดเครดิตบูโรหรือเปล่า และจะทำให้ขอสินเชื่อยากขึ้นหรือเปล่า

ปัจจุบันนี้ประวัติการชำระค่าโทรศัพท์มือถือยังไม่ถูกนำส่งมาที่บริษัทข้อมูลเครดิต จึงไม่มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ แต่ทางที่ดี คุณน่าจะไปชำระค่าโทรศัพท์ที่ค้างไว้

Q: มีสินเชื่ออยู่กับสถาบันการเงิน และตามปกติประมาณทุกต้นปี จะได้รับหนังสือแจ้งจากสถาบันการเงินว่าได้นำส่งข้อมูลเครดิตให้บริษัทข้อมูลเครดิต บางครั้งข้อมูลเครดิตที่ระบุไม่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร

ในเบื้องต้นท่านควรแจ้งให้สถาบันการเงินทราบโดยตรงเพื่อดำเนินการแก้ไขก่อน เพราะบริษัทข้อมูลเครดิตเองจะไม่แก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับข้อสรุปที่ชัดเจนถูกต้องจากลูกค้าและสมาชิก แต่หากท่านได้รับรายงานข้อมูลเครดิตและมีข้อเท็จจริงตามรายงานว่าข้อมูลของท่านผิดพลาด ท่านก็สามารถยื่นคำขอโต้แย้งได้ที่ส่วนดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้าของบริษัทข้อมูลเครดิตได้้้้

Q: ใช้บัตรเครดิตที่เป็นบัตรเสริมกับของคุณพ่อ ไม่ทราบว่าจะมีข้อมูลอยู่ในรายงานข้อมูลเครดิตหรือเปล่า

สถาบันการเงินที่ให้บริการบัตรเครดิตทุกแห่งจะนำส่งข้อมูลบัตรเสริมในนามเจ้าของบัตรหลักเหมือนกันทุกแห่งค่ะ ไม่มีการนำส่งข้อมูลบัตรเสริม ในนามผู้ถือบัตรเสริมค่ะ

Q: มีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลเครดิตของตนเองที่กรุงเทพฯ ควรทำอย่างไร

ช่องทางในการตรวจเครดิตบูโรมีหลายช่องทาง ประชาชนทั่วไปสามารถตรวจเครดิตบูโรโดยต้องนำบัตรประชาชนของตนเองเพื่อแสดงตน
เครดิตบูโรมีช่องทางผ่านธนาคารตัวแทน (Agent) ของเครดิตบูโรที่ให้บริการตรวจเครดิตบูโรทั่วประเทศ โดยรับรายงานเครดิตบูโรทางไปรษณีย์ ภายใน 7 วัน
1. ทำรายการที่เคาน์เตอร์ทุกสาขา ธนาคารกรุงไทย  ธนาคารกรุงศรี ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส ธกส
2. ทำรายการผ่านตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หากมีบัตรธนาคารไหนก็ ใช้กับตู้ของธนาคารนั้น
3. ทำรายการผ่านเว็บไซต์ (ธนาคารออนไลน์) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพียงมีบัญชีกับธนาคาร

4. ที่ทำการไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

4.ที่ทำการไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

Q: หากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง และข้อมูลดังกล่าวเป็นสาเหตุให้สถาบันการเงินปฏิเสธคำขอสินเชื่อของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสามารถเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากสถาบันใดได้หรือไม่่

บริษัทข้อมูลเครดิตทำหน้าที่เสมือนตัวกลางในการรับข้อมูลจากสถาบันการเงินสมาชิกแต่ละแห่ง นำข้อมูลทั้งหลายเหล่านั้นมาประมวลผลเพื่อให้ได้ภาพรวมโดยที่บริษัทข้อมูลเครดิตไม่ได้แก้ไขดัดแปลงข้อมูลใดๆทั้งสิ้นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลหรือมีผลสรุปของข้อโต้แย้ง อีกทั้งสถาบันการเงินต่างมีนโยบายในการให้สินเชื่อที่แตกต่างกัน และใช้รายงานข้อมูลเครดิตเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณาเท่านั้น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตกำหนดว่าหากท่านถูกปฏิเสธสินเชื่อโดยสถาบันการเงินอ้างข้อมูลเครดิตท่านสามารถนำหนังสือปฏิเสธสินเชื่อนั้นมาขอรายงานข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย บริษัทข้อมูลเครดิตและสถาบันการเงินต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเครดิตอยู่แล้ว หากท่านมีข้อร้องเรียนสามารถดำเนินการผ่านคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิตได้

Q: หากค้างชำระเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา จะทำให้ไม่สามารถขอสินเชื่อได้หรือเปล่า

การอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินนั้น จำเป็นจะต้องพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่าง ซึ่งไม่ใช่การพิจารณาเพียงประวัติการค้างชำระแต่เพียงอย่างเดียว แต่อาจดูที่รายได้ในปัจจุบัน ผู้ค้ำประกัน หรือหลักทรัพย์ต่างๆ อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังไม่มีการนำส่งข้อมูลจากกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเข้ามาในระบบข้อมูลเครดิตค่ะ

Q: เครดิตบูโร คือ อะไร

เครดิตบูโร หรือ บริษัทข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) คือ บริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงินหลายๆแห่งที่เป็นสมาชิก นำมารวบรวมประมวลผลเป็นข้อมูลเครดิตในภาพรวมสำหรับลูกค้าเจ้าของข้อมูลแต่ละราย และเมื่อสถาบันการเงินหรือลูกค้าเจ้าของข้อมูลต้องการเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทข้อมูลเครดิตจึงจะเปิดเผยข้อมูลเครดิตนั้นในรูปของรายงานข้อมูลเครดิต

Q: รายงานข้อมูลเครดิต คือ อะไร

รายงานข้อมูลเครดิต (Credit Report) คือ รายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าที่ขอสินเชื่อ โดยมีข้อมูลประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงที่บ่งชี้ถึงตัวลูกค้า ข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติจากสถาบันการเงิน และประวัติการชำระสินเชื่อของลูกค้า

Q: มีข้อมูลส่วนตัวของข้าพเจ้ามากน้อยเพียงไรในรายงานข้อมูลเครดิต

ข้อมูลส่วนตัวของท่านในรายงานข้อมูลเครดิตจำกัดอยู่เพียงข้อมูลระบุตัวตนเท่านั้นเพื่อป้องกันมิให้มีการเรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตของผู้อื่นที่อาจบังเอิญมีชื่อนามสกุลพ้องกัน บริษัทข้อมูลเครดิตจะไม่จัดเก็บข้อมูลของบุคคลธรรมดาที่ไม่เกี่ยวกับการรับบริการการขอสินเชื่อ หรือที่มีผลกระทบต่อความรู้สึกหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือมีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของผู้เป็นเจ้าของข้อมูลอย่างชัดเจน เช่น ลักษณะพิการทางร่างกาย ลักษณะทางพันธุกรรม หรือ ข้อมูลของบุคคลที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนหรือพิจารณาคดีอาญา

Q: มีข้อมูลบัญชีเงินฝากหรือข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของข้าพเจ้าในรายงานข้อมูลเครดิตหรือไม่่

รายงานข้อมูลเครดิตก็คือรายงานเฉพาะข้อมูลสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติจากสถาบันการเงิน และประวัติการชำระหนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลบัญชีเงินฝากหรือข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนตัวของท่านในรายงานข้อมูลเครดิต

Q: เครดิตบูโร ประกอบธุรกิจภายใต้กฎหมายใด

เครดิตบูโรประกอบธุรกิจภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. ๒๕๔๕ และที่แก้ไข

Q: ใครเป็นผู้เรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตและเรียกดูได้เมื่อไร

สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตเป็นผู้เรียกดูรายงานข้อมูลเครดิตเกี่ยวกับตัวลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ทั้งนี้ในการสมัครขอสินเชื่อสถาบันการเงินจะให้ท่านทำหนังสือให้ความยินยอมให้บริษัทข้อมูลเครดิตเปิดเผยข้อมูล เพื่อประกอบการพิจารณาการให้สินเชื่อตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้

Q: รายงาน สถาบันการเงินทุกแห่งเป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิตหรือไม่

สถาบันการเงินส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของบริษัทข้อมูลเครดิต เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ บริษัทลีสซิ่งเช่าซื้อ บริษัทผู้ออกบัตรเครดิตที่เรียกกันว่านอนแบงก์ เป็นต้น

Q: ทำไมข้อมูลเครดิต จึงถูกส่งมาให้บริษัทข้อมูลเครดิตทั้งที่ไม่เคยให้อนุญาต

ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 บัญญัติให้สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องนำส่งข้อมูลของลูกค้าของตนแก่บริษัทข้อมูลเครดิตที่ตนเป็นสมาชิก แต่เมื่อได้นำส่งในครั้งแรกแล้วสถาบันการเงินนั้นต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่นำส่งข้อมูล แต่ไม่ต้องขออนุญาตจากลูกค้า นอกจากนั้นสถาบันการเงินสมาชิกอาจต้อแจ้งให้ลูกค้าทราบในกรณีอื่นๆ

Q: ทำไมจึงถูกปฏิเสธคำขอสินเชื่อ

เครดิตบูโรเปิดเผยประวัติข้อมูลและการชำระสินเชื่อของท่านที่ปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิต แต่ไม่ได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อแต่อย่างใด สถาบันการเงินแต่ละแห่งมีนโยบายการให้สินเชื่อเป็นของตนเองซึ่งอาจแตกต่างกันไปในระหว่างสถาบันการเงิน สถาบันการเงินไม่ได้รายงานให้บริษัทข้อมูลเครดิตทราบว่าเหตุใดจึงอนุมัติให้สินเชื่อหรือเหตุใดจึงปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ท่าน

Q: จะทราบได้อย่างไรว่าถูกปฏิเสธคำขอสินเชื่อเนื่องจากรายงานข้อมูลเครดิต

ตามกฎหมาย หากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกปฏิเสธการให้สินเชื่อแก่ท่านโดยเหตุอันเนื่องมาจากการได้รับรู้ข้อมูลเครดิตของท่าน สถาบันการเงินนั้นต้องแสดงเหตุผลและแจ้งให้ท่านทราบเป็นหนังสือ ท่านสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมที่ศูนย์ตรวจสอบเครดิตบูโร ภายในสามสิบวันนับจากวันที่ได้รับคำปฏิเสธการขอสินเชื่อ

Q: บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ไม่ใช่สถาบันการเงินสมาชิกจะติดต่อตรวจสอบรายงานข้อมูลเครดิตของตนเองได้ที่ไหน

สามารถตรวจสอบข้อมูลเครดิตได้ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา สามารถตรวจเครดิตบูโร ได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สาขาอาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า  หรือ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง  และห้างเจ-เวนิว (นวนคร) รับรายงานได้เลยภายใน 15 นาที
2. บุคคลธรรมดา สามารถตรวจเครดิตบูโร โดยยื่นคำขอผ่านเคาน์เตอร์ ธนาคารกรุงไทย กรุงศรี ธอส. ธกส ได้ทุกสาขา บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน
3. บุคคลธรรมดา สามารถตรวจเครดิตบูโร โดยยื่นคำขอผ่านตู้เบิกเงินสด(ATM) ธนาคารกรุงไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน
4. บุคคลธรรมดา สามารถตรวจเครดิตบูโร โดยยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์ (Internet Banking)  ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน

5 บุคคลธรรมดา สามารถตรวจเครดิตบูโร ยื่นคำขอผ่านที่ทำการไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์และเคาน์เตอร์บริการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ

6. นิติบุคคล สามารถตรวจสอบเครดิตบูโร ได้ที่ศูนย์ตรวจเครดิตบูโีร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น 2 รับรายงานภายใน 15 นาที และผ่านทางไปรษณีย์ บริษัทฯ จะจัดส่งรายงานผ่านทางไปรษณีย์ แบบลงทะเบียนภายใน 7 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับเอกสารครบถ้วน

Q: หากทราบว่าข้อมูลที่ปรากฏในรายงานข้อมูลเครดิตไม่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร

ท่านมีสิทธิยื่นคำขอตรวจสอบ/แก้ไขข้อมูลเครดิตได้ที่ส่วนดูแลและให้คำปรึกษาลูกค้า ที่ศูนย์ตรวจสอบเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระรามเก้า ชั้น2 บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่ส่งข้อมูลนั้น และแจ้งให้ท่านทราบภายใน 30 วัน หากไม่ได้ข้อยุติ ท่านสามารถใช้สิทธิบันทึกข้อโต้แย้งพร้อมหลักฐานประกอบของท่านไว้ในระบบข้อมูลเครดิต และมีสิทธิอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต (ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย) ได้ภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งสิทธิ

01-12-2554 • เครดิตบูโรไขข้อข้องใจ

25-11-2554 • ขอให้เครดิตบูโรช่วยไม่ให้ติดบัญชีดำ

25-11-2554 • เครดิตบูโรช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างไร

09-11-2554 • เครดิตบูโรชี้แจงลูกค้าติดน้ำท่วม

11-10-2554 • ไปค้ำประกันจะติดเครดิตบูโรหรือไม่

12-09-2554 • ชี้แจงการเปิดเผยข้อมูลของเครดิตบูโร

01-09-2554 • อ้างได้เบอร์จากเครดิตบูโรโทรฯ มาขายประกัน

03-08-2554 • อยากตรวจสอบเครดิตบูโรได้ที่ไหน

24-06-2554 • ไม่เคยกู้ที่ไหนแต่ติดเครดิตบูโร

03-04-2554 • ขอปรึกษาเกี่ยวกับการติดเครดิตบูโร

03-03-2554 • เครดิตบูโรชี้แจงการเปิดเผยข้อมูลลูกค้า