อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะหมดปี 2563 ถือเป็นอีกปีที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีเป้าหมายที่ตนเองวางไว้มากมาย บ้างก็ทำสำเร็จ บ้างก็ยังไม่ได้เริ่ม แต่อย่างไรก็ตามเราควรใช้เวลาที่เหลืออยู่นี้ให้คุ้มค่ามากที่สุดในทุก ๆ เรื่อง ทั้งการงาน การใช้ชีวิต รวมไปถึงเรื่องการวางแผนการเงิน และการลงทุนด้วย
สำหรับใครที่ยังไม่เริ่มวางแผนการเงิน และการลงทุนสามารถเริ่มลงมือลงทุน สร้างความมั่นคงทางการเงินแบบ 5 ชั้นได้ตั้งแต่วันนี้เลยนะคะ ถือว่าเป็นของขวัญให้กับตนเองส่งท้ายปี และเริ่มต้นอนาคตที่ดีในปีหน้านั่นเองค่ะ
ชั้นที่ 1 – เริ่มต้นวางเป้าหมายการลงทุน
การเริ่มต้นลงทุนชั้นแรกก่อนเดินขึ้นไปชั้นต่อ ๆ ไป คือการวางเป้าหมายในการลงทุน และสำรวจความพร้อมของตนเอง ระบุเจาะจงไปว่า เราลงทุนไปเพื่ออะไร เราจะลงทุนใช้เวลานานเท่าไหร่ เช่น ต้องการลงทุนระยะยาว เพื่อใช้ยามหลังเกษียณ หรือลงทุนระยะสั้น เพื่อใช้ไปศึกษาเรียนต่อต่างประเทศ คอร์สอบรม เป็นต้น
ชั้นที่ 2 – ศึกษาข้อมูลการลงทุนหลากหลายรูปแบบ
การศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนจะช่วยให้เราสามารถเลือกระดับความเสี่ยง และความเหมาะสมในการลงทุนได้ เพราะรูปแบบการลงทุนมีให้เลือกมากมาย เช่น กองทุนรวม หุ้น ประกันชีวิต ทองคำ เป็นต้น ซึ่งทุกการลงทุนล้วนแต่เป็นสิ่งที่ความเสี่ยง จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเพื่อนำมาปรับใช้ในการลงทุนที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของตนเอง
ชั้นที่ 3 – กำหนดระดับความเสี่ยงที่รับได้
เมื่อศึกษาข้อมูลการลงทุนพร้อมในระดับหนึ่ง เราก็จะต้องมากำหนดระดับความเสี่ยงในการลงทุนของเราว่าสามารถรับได้ในระดับเท่าไหร่
ตัวอย่างเช่น ระดับความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับการลงทุนแบบฝากประจำ ฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง , ระดับความเสี่ยงปานกลาง เหมาะกับการลงทุนแบบพันธบัตรรัฐบาล กองทุนตราสารหนี้ , ระดับความเสี่ยงสูง เหมาะกับการลงทุนแบบ กองทุนหุ้นต่างประเทศ หุ้น เป็นต้น
รวมไปถึงจัดลำดับความสำคัญของรูปแบบการลงทุน สภาพคล่องทางการเงิน เพื่อที่ว่าในยามฉุกเฉินเราจะสามารถนำเงินในส่วนนี้ออกมาใช้ได้ค่ะ
ชั้นที่ 4 – จัดพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง
หลังจากที่ศึกษาข้อมูล และเช็กระดับความเสี่ยงของตนเองแล้ว ก็ต้องมาเริ่มออกแบบพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง โดยเลือกจากระดับความเสี่ยงที่รับได้ และผลตอบแทนที่ต้องการ ความคุ้มค่าต่อการลงทุน จากนโยบายการลงทุน เงินปันผลที่ได้รับของแต่ละสถาบันการเงิน
ชั้นที่ 5 – ติดตามการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
ทุกการลงทุนควรจะมีการตรวจสอบผลการลงทุนอย่างสม่ำเสมอว่าเป็นไปตามที่เราวางเป้าหมายไว้หรือไม่ เพราะการลงทุนมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ เงินฝืด ที่อาจส่งผลกระทบให้เราได้รับผลตอบแทนไม่ได้ดั่งที่หวัง