หลักการ “กระจายความเสี่ยง” ที่คุณต้องรู้ เซฟชีวิตจากเหตุไม่คาดฝัน

อย่าวางไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว

คือคำกล่าวสุดโด่งดังของ Warren Buffett นักธุรกิจระดับโลก ผู้ได้ฉายาเป็น พ่อมดการเงินแล้วมันหมายความว่าอย่างไร เกี่ยวอะไรกับชีวิตเรา

เมื่อชีวิตประสบวิกฤติ อย่างเช่นวิกฤติ COVID-19 เราจะเข้าใจคำว่า ความเสี่ยง และ ความไม่แน่นอน ได้ชัดขึ้น เราเห็นแล้วว่าธุรกิจที่รุ่งเรืองก็สั่นคลอนได้ หุ้นพื้นฐานดียังราคาตก แม้อาชีพที่มั่นคงก็อาจตกงาน ทั้งหมดนี้เกิดจากการระบาดของไวรัสที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ในเมื่อเราไม่รู้อนาคต แล้วจะปกป้องชีวิตและความมั่นคงทางการเงินจากเรื่องไม่คาดฝันแบบนี้ได้ยังไง?

โดยทั่วไปการรับมือกับความเสี่ยง ทำได้ 3 วิธีใหญ่ ๆ ได้แก่

1. หลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้นซะ (Avoid Risk) : เช่น ถ้าเราเลิกทำธุรกิจ ก็ไม่มีความเสี่ยงว่าธุรกิจจะล้ม ถ้าเราไม่ซื้อหุ้นเลย ก็ไม่ต้องกลัวว่าหุ้นจะลงนั่นเอง แต่นั่นหมายถึงการทิ้งผลตอบแทนไปด้วย

2. ยกความเสี่ยงให้คนอื่น (Transfer Risk) : หมายถึงการซื้อประกัน เช่น ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันภัย ประกันรถยนต์ หากเกิดความเสียหายกับสิ่งเหล่านี้ ประกันจะรับภาระค่าใช้จ่ายไปแทน แต่ก็ต้องแลกกับต้นทุนเบี้ยประกัน

3. ลดความเสี่ยง (Reduce Risk) : เช่น ลงทุนน้อยลง พอขาดทุนก็ไม่เจ็บหนัก หรือการตั้งใจทำงานให้ดี เพื่อลดโอกาสถูกเลิกจ้าง และหนึ่งในวิธีลดความเสี่ยงก็คือ การกระจายความเสี่ยง ซึ่งเราจะเจาะลึกกันในบทความนี้

การกระจายความเสี่ยงอาวุธรับมือความผันผวนแบบมืออาชีพ

การกระจายความเสี่ยง (Risk Diversification) สามารถอธิบายง่าย ๆ ได้ด้วยคำกล่าวของ Warren Buffett ที่ยกมาในทีแรก ถ้าเรามีไข่หลายฟองที่เราอยากรักษาเอาไว้ ก็ไม่ควรเอาไข่ทั้งหมดใส่รวมในตะกร้าใบเดียว เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตะกร้านั้น เราก็จะไม่เหลือไข่เลย แต่ถ้าแยกไข่ออกใส่ตะกร้าหลายใบ ใบหนึ่งมีอันเป็นไป เราก็ยังเหลือไข่ในตะกร้าอื่นไว้กินบ้าง

เอามาประยุกต์ใช้กับเรื่องการเงินได้ว่า…

  • ถ้าอยากรักษารายได้เอาไว้ อย่าพึ่งพารายได้แค่ทางเดียว เพราะถ้าแหล่งรายได้นั้นเกิดสะดุด หดหาย คุณก็จะไม่เหลือรายได้เลยสักบาท ต้องสร้างลู่ทางรายได้เสริมไว้เสมอ
  • ถ้าอยากรักษาเงินออม อย่าเอาเงินทั้งหมดเก็บไว้ในที่เดียว เช่น การใส่กระปุกใบเดียวเก็บไว้ที่บ้าน หรือใส่บัญชีเงินฝากไว้บัญชีเดียว เพราะถ้าเกิดมีคนมาขโมยกระปุกนั้นไป หรือระบบเงินฝากของธนาคารเกิดขัดข้อง ถอนเงินไม่ได้ชั่วคราว ก็จะเดือดร้อนขึ้นมา
  • ถ้าอยากรักษาผลตอบแทนจากการลงทุน อย่าลงทุนในสินทรัพย์อย่างเดียว เพราะสถานการณ์ตลาดมีขึ้นมีลง ถ้าเราลงทุนหลาย ๆ อย่าง เช่น ซื้อหุ้นหลายอุตสาหกรรม ลงทุนในทองคำบ้าง อสังหาฯบ้าง กองทุนบ้าง แบ่ง ๆ กันไป ไม่ทุ่มไปอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกิน ถึงบางอย่างจะมูลค่าดิ่งลง ก็ยังมีบางอย่างที่เป็นขาขึ้น หรือยังเป็นปกติอยู่
  • สำหรับคนทำธุรกิจ อย่าพึ่งพาวัตถุดิบจากแหล่งเดียว หรือพึ่งพาฐานลูกค้ากลุ่มเดียว เพราะถ้าแหล่งวัตถุดิบเกิดขัดข้อง ส่งของไม่ได้ หรือลูกค้ากลุ่มนั้นเกิดปัญหาขึ้นมา (เช่นกรณีนักท่องเที่ยวหายเพราะ COVID-19) ธุรกิจเราจะชะงักทันที
  • สุดท้ายคือ อย่านำเงินไปทุ่มหมดหน้าตักเพื่อสิ่ง ๆ เดียว เช่น ถ้ามีเงินอยู่ ก็อย่าเอาไปออมอย่างเดียวจนหมด ควรแบ่งมาลงทุนบ้าง ในขณะเดียวกันก็ไม่เอาเงินไปทุ่มลงทุนจนหมด ต้องแบ่งไว้ใช้ยามฉุกเฉินด้วย หรืออย่างการซื้อของสักชิ้น ซื้อบ้าน ซื้อรถ ก็ไม่ควรเอาเงินทั้งหมดที่มีไปแลกมา ซื้อแล้วต้องยังมีเงินเหลือไว้บ้าง ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรซื้อ

ถ้าเรารู้จักกระจายความเสี่ยงให้ดีตั้งแต่ก่อนจะเกิดวิกฤติ ความเสียหายเราจะน้อยกว่าคนอื่น เช่นในวิกฤติ COVID-19 ถ้าเรามีรายได้หลายทาง มีลูกค้าหลายกลุ่ม มีผลตอบแทนจากการลงทุนหลายแบบ และสุดท้ายเรามีเงินสำรองฉุกเฉินเก็บไว้บ้าง เราเหนื่อยน้อยกว่าคนอื่นแน่นอน ลองสำรวจตัวเองดูว่าตอนนี้เรากระจายความเสี่ยงแต่ละด้านดีพอรึยัง ถ้ายัง แนะนำให้ทำเลย ก่อนจะต้องเจอกับเหตุไม่คาดฝันอีกในอนาคต