ข่าวประชาสัมพันธ์ : สคร. จับมือธนาคารรัฐ ร่วมกับ ไฟฟ้า-ประปา Big Data ยกระดับการให้บริการประชาชน

สคร. จับมือธนาคารรัฐ ร่วมกับ ไฟฟ้า-ประปา Big Data ยกระดับการให้บริการประชาชน

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลด้านการเงิน-สาธารณูปการ เพื่อยกระดับการให้บริการประชาชนสู่การเป็น Big Data ในวันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2561 ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ 4 กระทรวงการคลัง เพื่อผลักดันนโยบายของรัฐบาลในด้านการบูรณาการข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากข้อมูล  ขนาดใหญ่ได้จริงและเป็นรูปธรรม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการประชาชนให้มีความสะดวก รวดเร็ว โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลัง เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามดังกล่าว

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการขับเคลื่อนนโยบายด้านบูรณาการข้อมูลรัฐวิสาหกิจที่เป็นรูปธรรม โดยมีการนำข้อมูลมาบูรณาการร่วมกันได้อย่างเป็นระบบ และมีการนำฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาวิเคราะห์เพื่อประกอบการวางนโยบาย อีกทั้งมีเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อการพัฒนาสินค้าและบริการโดยยึดถือประโยชน์ประชาชนได้รับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่าการบูรณาการ    ข้อมูลด้านการเงิน-สาธารณูปการนี้ จะทำให้สถาบันการเงินของรัฐสามารถพิจารณาสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลาง  และขนาดย่อม (SMEs)ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นจากข้อมูลที่ได้จากสาธารณูปการ และขณะเดียวกันรัฐวิสาหกิจด้านไฟฟ้า-ประปา ก็จะสามารถพัฒนาบริการประชาชนให้ได้ดียิ่งขึ้นจากข้อมูลของผลประกอบการของ SMEs

นอกจากนี้ สคร. ได้ร่วมกับ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด วางแผนการดำเนินโครงการ SMEs Financial Intelligence เพื่อนำข้อมูลจากการบูรณาการมาวิเคราะห์ออกแบบนโยบายเพื่อตอบโจทย์การช่วยเหลือ SMEs ให้ตรงจุด เช่น การกำหนดอุตสาหกรรม SMEs เป้าหมายที่ต้องสนับสนุนได้อย่างชัดเจน และสามารถนำฐานข้อมูล Big Data มาต่อยอดเป็นการสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เหมาะสมให้กับ SMEs โดยให้บริการผ่านทาง Digital Platform ซึ่งจะทำให้ (1)ประชาชนสามารถ ทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น ขอสินเชื่อผ่อนชำระหรือปรับโครงสร้างหนี้ (Refinance) ได้ผ่านทางมือถือ (2) สร้างเครือข่าย SMEs    ให้ต่อยอดธุรกิจ (3) มีระบบ E-Commerce ในการซื้อ-ขายสินค้า SMEs ได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น (4)ภาครัฐสามารถจัดหลักสูตรอบรมที่สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของ SMEs นอกจากนั้นข้อมูลที่ได้จาก Digital Platform   นี้จะยังนำไปพัฒนาบริการทางการเงินให้ SMEs โดยไม่ต้องพึ่งพิงหลักประกันเพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ข้อมูลอื่นๆ เช่น พฤติกรรมของ SMEs มาเป็นข้อมูลในการให้สินเชื่อ (Information-based lending)

การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการข้อมูลด้านการเงิน–สาธารณูปการ ในวันนี้นับเป็นพลังแห่ง   ความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐโดย สคร. และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจกลุ่มสถาบันการเงินของรัฐจำนวน 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และรัฐวิสาหกิจกลุ่มสาธารณูปการจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ของประเทศเพื่อให้ประเทศพัฒนาได้อย่างมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนอย่างแท้จริง