คนรุ่นผมได้ทิ้งอะไรไว้ให้กับคนรุ่นต่อไป หรือที่ผ่านมาเราเห็นแก่ตัวมากเกินไป
บทความวันนี้อาจไม่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยตรงแต่มันได้ถูกเขียนขึ้นในวันที่มหาพายุกำลังเคลื่อนเข้าสู่ญี่ปุ่น เขียนในวันที่มีฝนตกต่อเนื่องในกรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมร น้ำตาจากฟ้าร่วงหล่นลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับที่ผู้อ่านได้เห็นบทแปลที่ถอดคำพูดของเด็กผู้หญิงที่ต่างกล่าวถึงในความมุ่งมั่นของเธอในการส่งสารและสาระถึงผู้คนที่รับผิดชอบสิ่งต่างๆในโลกใบนี้ เราลองมาดูบทแปลสิ่งที่เธอพูดที่ UN ของ Greta Thunberg ที่บอกต่อเหล่าผู้นำโลกที่ยังพยายามไม่พอในการแก้ปัญหาโลกร้อน
…. หนูไม่ควรจะมาอยู่ตรงนี้ หนูควรจะไปเรียนหนังสือที่อีกฟากของมหาสมุทร พวกคุณกล้าดีอย่างไรขโมยความฝันและชีวิตวัยเด็กของพวกเราไป
ผู้คนกำลังล้มตาย และ
โลกของเรากำลังจะพังพินาศ
เรากำลังเข้าสู่จุดเริ่มต้นของการสูญพันธ์ุครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิต
แต่พวกคุณกลับพูดถึงแต่เรื่องของเงิน นิยายเพ้อฝันการเติบโตของเศรษฐกิจ พวกคุณกล้าดีอย่างไร
เป็นเวลากว่า 30 ปีแล้วที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกคุณทำเป็นมองไม่เห็น และบอกพวกเราว่า คุณพยายามเต็มที่แล้ว ทั้งๆ ที่นโยบายทางการเมืองต่างๆ ไม่ไปไหน
คุณบอกว่าคุณเข้าใจพวกเราและทราบถึงความเร่งด่วน แต่ไม่ว่าหนูจะโกรธและเศร้าขนาดไหน
ถ้าคุณเข้าใจถึงสถานการณ์ดีแต่ยังไม่ลงมือเปลี่ยนแปลง คุณก็ไม่ต่างอะไรกับคนชั่วคนนึง ความคิดที่จะลดการเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งนึง มีโอกาสแค่ 50%เท่านั้นที่จะช่วยให้อุณหภูมิโลกเพิ่มไม่ถึง1.5C และป้องกันการเสียหายอย่างถาวรของสภาพอากาศ คุณอาจจะคิดว่า 50% นี้มันโอเค แต่อย่าลืมว่ามันอาจจะแย่กว่านี้เพราะเรายังไม่รวมปัจจัยอื่นๆ
คุณทิ้งภาระไว้ให้คนรุ่นของหนูต้องกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์กว่าพันล้านตันที่คุณทิ้งเอาไว้ให้เราทั้งๆที่ตอนนี้แทบจะไม่มีเทคโนโลยีทำสิ่งเหล่านี้ได้เลย
จากข้อมูลของ IPCC intergovernmental Panel on Climate Change โอกาสในการอยู่รอดของพวกเรามี 67% ตามตัวเลขนี้ เราสามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่บรรยากาศได้อีกเพียง 420 gigatonnes เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2561 ณ ตอนนี้เหลือแค่ 350 gigatonnes
คุณกล้าดีอย่างไรมาบอกว่า ปัญหาขนาดนี้สามารถแก้ไขได้โดยการดำเนินชีวิตแบบปกติ และใช้เทคโนโลยีนิดๆหน่อยๆ ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ Carbon Budget ที่เรามีเหลืออยู่จะหายไปภายในเวลา 8 ปีครึ่ง ทุกวันนี้ยังไม่มีทางออกของปัญหา ตัวเลขเหล่านี้น่ากลัวมาก
แต่คุณก็ยังไม่โตพอที่จะยอมรับและบอกความจริงกับประชาชน คุณทำให้พวกเราผิดหวัง
พวกเราคนรุ่นใหม่จะจับตามองพวกคุณ และถ้าพวกคุณยังล้มเหลวอีก เราจะไม่มีวันให้อภัยพวกคุณ และเราจะไม่ยอมให้พวกคุณรอดตัวไปได้อีก ตอนนี้ทุกคนในโลกจะต้องรู้ความจริงในเรื่องนี้
เราๆท่านๆที่มีอายุมากกว่าเด็กๆเหล่านี้ ต้องเข้าใจว่าเขามีสิทธิในโลกใบนี้ ในประเทศที่เขาเป็นพลเมืองเท่ากันกับเรา เราท่านที่มีตำแหน่งแห่งที่ มากบุญวาสนาบารมี มีอำนาจอันเป็นสิ่งสมมติ ในองค์กรต่างกรรมต่างวาระ หรือมีอายุมากกว่าก็ไม่ได้มีสิทธิพลเมืองที่มากกว่าน้องๆเหล่านั้น มันถึงเวลาที่เราซึ่งสูงวัยควรต้องคิดว่า “เราได้ทิ้งอะไรบนสิ่งที่เรารับผิดชอบที่ดีกว่าตอนที่เราได้รับภาระมาจากคนรุ่นพ่อแม่ของเรา และเราได้ทิ้งสิ่งอะไรที่ไม่ดีไม่เหมาะสมกับที่คนรุ่นต่อไปควรจะได้รับหรือไม่” ไม่ต้องคิดแก้ไขนะครับ ผมคิดอย่างนี้นะคือ เดินลงเขาแห่งอำนาจวาสนา ไปกินคลีน ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพด้วยการเดินเร็ว เลี้ยงปลา ปลูกต้นไม้ อ่านหนังสือที่สะสมมาชั่วชีวิต ปล่อยผ่านโลกนี้และสิ่งสมมติให้กับคนรุ่นต่อไปดีกว่าครับ