เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) : ปี​ 2563 “ลับขวาน” ให้คม​ ปี​ 2564​ ได้ใช้ขวานตั้งแต่วันแรกของปี : วันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564

ปี​ 2563 “ลับขวาน” ให้คม​ ปี​ 2564​ ได้ใช้ขวานตั้งแต่วันแรกของปี

“If you give me six hours to chop down a tree, I’ll spend four hours sharpening the axe.” 
Abraham Lincoln
ขอเวลา​ 6 ชั่วโมง ในการโค่นต้นไม้​โดยเวลา​ 4 ชั่วโมง คือการลับขวานให้คม​ คำพูดนี้เป็นข้อความที่น่าคิด​ และผู้เขียนก็เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่เป็นผู้นำองค์กร​ เป็นหัวหน้า​ เป็นทีมงาน​ เป็นคนทำงาน​ เป็นพ่อค้า​ แม่ขาย​ นักธุรกิจ​ เมื่อเวลาแบบนี้​ เวลาแห่งการตั้งหลักต่อสู้กับมรสุมที่ตั้งเค้ารางขึ้นมาอีกแล้วพร้อมกับแสงแรกแห่งปี​ 2564​ 
ในช่วงสองสัปดาห์ของปลายปี​ 2563​ ผู้เขียนเชื่อว่า​ ไม่มีใครคาดคิดว่าสถานการณ์​จะพลิก​กลับหัวจากการเตรียมตัวเฉลิม​ฉลอง​ เตรียมจับจ่ายใช้สอย​ เตรียมเดินทางไปพักผ่อน​ เตรียมเดินทางกลับบ้านไปพบพ่อแม่ครอบครัว​ในต่างจังหวัด​ แถมอากาศ​ก็เป็นใจมาก ๆ​ ในยามที่เดินทางไปในต่างประเทศ​ไม่ได้ของใครหลายคน​ แต่พอเรื่องปะทุที่ตลาดอาหารทะเล​มหาชัย​ ต่อด้วยเรื่องจาก​สถานที่อโคจร​ ลากยาวมาจนทำให้เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศไทยครั้งใหม่​ จนทำให้สวดมนต์​ข้ามปีต้องทำผ่านออนไลน์​ ต้องดูการจุดพลุปีใหม่จากที่บ้านที่คอนโด​ งานฉลองไม่ต้องพูดถึง​ งานวันเด็กจบข่าวแน่นอน​ ประกาศของทางการออกมาเรื่อย ๆ ตามความเข้ม​ ความรุนแรงของปัญหาในแต่ละพื้นที่​ ทั้งหมดนี้สรุปได้เป็นคำ ๆ เดียว คือ​ “ประมาท​ และการ์ด​ตก” ดังนั้นช่วงเวลาต้นปีใหม่ที่จะเริ่มทำงานกันในวันที่​ 4 มกราคม​ 2564​ เราหลายท่านหลายคน​ จะต้องทักทายเพื่อนร่วมงานกันแบบไม่พบเห็นต่อหน้า​ หลายสำนักงานเริ่มปีใหม่ด้วยสิ่งที่เรียกว่า​ การทำงานจากที่พักอาศัยหรือ​ Work​ from Home หรือ​ WFH 
ในช่วงเวลาที่เราต่อสู้กันแบบ​ หยุดอยู่บ้าน​ เพื่อหยุดเชื้อ​ ก็เพื่อชาตินั้น​ การปรับตัวและเตรียมตัวเราจะประกอบด้วย
1.สุขอนามัย​จะต้องมาก่อน​ ความสะอาดของมือ การวัดอุณหภูมิ​ของร่างกาย​ การสังเกตอาการตัวเอง​ ต้องมาก่อน
2.หน้ากากอนามัย​ หน้ากากผ้า​ จากที่ป้องกัน​ PM 2.5 ถูกปรับมาเป็นการป้องกันไวรัสสายพัน​ธุ์ใหม่​ปี 2019​ 
3.การจัดหาอุปกรณ์​เพื่อใช้ในสำนักงานแบบการไร้สัมผัส​ อุปกรณ์​ดิจิทัล​ Application​ ใหม่ ๆ ต้องมีการเรียนรู้มากมายโดยเฉพาะการจัดประชุมออนไลน์​
4.การปรับโหมดการใช้ชีวิต​ การสั่งข้างของมากิน​ มาใช้​ มีรูปแบบใหม่​ แรก ๆ ก็มีเงอะงะ​บ้างทุกชั้นวัย​ สักพักก็ลื่นไหล​ 
5.การวางแผนงาน​ แผนธุรกิจ​ อัตรากำลัง​ การมองธุรกิจช่วงปลายปีที่ว่าสดใสขึ้นมา​ GDP​ ติดลบน้อยกว่าที่คิด​ มีมาตรการออกมากระตุ้นการใช้จ่าย​ มีโครงการคนละครึ่ง​ออกมากระจายเม็ดเงินไปสู่คนตัวเล็ก​ตัวน้อย​ ไม่ใช่ไหลไปเข้ากระเป๋าเจ้าสัว​ ดีใจกับเรื่องวัคซีน​ และจบด้วยว่าเราชนะ​ อยู่กับเลขศูนย์​ และไม่มีการระบาดรอบสอง​ แผนที่เตรียมจึงมีทิศทางในแง่บวกขึ้นมานิดนึง​ 
การที่สิ่งต่าง ๆ เดินมาแบบผ่อนคลายเรื่อย ๆ​ หมอท่านก็ออกมาเตือนว่า​ กำลังการ์ด​ตกแล้วนะ​ จนอยู่ดี ๆ มันก็ปะทุขึ้นมาจากคนที่ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน​ ดังนั้นเพลานี้​ เพลาที่วันนี้คือวันที่​ 4 มกราคม​ 2564​ จะได้เริ่มต้น​ การฝึกฝน​ วินัยในอดีต​ ความอึด​ ความถึก​ ความขยันและการมีประสบการณ์​ใหม่ในปี​ 2563​ ที่ผ่านมา​ หรือก็คือ​ “การลับคมขวาน” ลับให้คม​ ลับให้ดี​ เพื่อเป็นมีดที่ดีในการใช้ในอนาคตก็ได้มาถึงแล้ว​ สิ่งที่ได้เรียนรู้มาตลอดปีเก่า​ มันคือชุดความรู้ในการเอาชีวิตรอดตั้งแต่ต้นปีนี้​ เลิกคิดถึงการสาดน้ำสงกรานต์​ได้เลยนะครับ​ ตรุษจีน​ปีนี้คงได้ไหว้บรรพบุรุษ​ทางออนไลน์​ เทศกาลงานบุญแบบมามุงหาบคงยากแล้วละครับ​ การทำงานจากที่อยู่อาศัยจะเป็นสัดส่วนในเวลาทำงาน เป็นสัดส่วนกับคนที่จะมาทำงานเยอะมากขึ้น​ การสั่งงาน​ ติดตามงาน​ ไปให้ถึงเป้าหมายคงต้องใช้ความอึดและปัญญามากกว่าปีที่แล้ว​ 
ย้อนกลับมาที่คำพูดตั้งต้น​ มีคนตั้งคำถามว่าทำไมต้องใช้เวลาตั้ง 4 ชั่วโมง ในการลับขวาน? …แม้ฟังดูขัดอกขัดใจ ว่าเอาเวลาไปตัดต้นไม้เลยไม่ดีกว่าหรือ แต่เรื่องจริงก็คือ มันจะช่วยให้เราใช้เวลาน้อยลงในการตัดต้นไม้เพราะมีความชำนาญจากการฝึกฝน และ 2 ชั่วโมงที่เหลืออยู่นั้น อาจจะทำให้ตัวเราตัดต้นไม้ได้เยอะกว่าเดิมมาก ๆ ก็ได้เพราะเรามี​ productivity สูงมากขึ้น​ กองทัพที่ดีต้องฝึกฝนผู้คนนานนับปีเพื่อใช้ประโยชน์​ในวันที่ต้องรบจริงแค่วันเดีย​ว​ สัปดาห์​เดียวให้ได้ชัยชนะ​ 
ขอทุกท่านที่อ่านบทความนี้ได้กลับไปสู่ความเป็นสามัญพื้นฐานตอนการ์ด​เราไม่ตกตอนต้นปี​ 2563​ ตอนที่เรา “ลับคมขวาน” 
1.หยุดกิจกรรมที่​ “ไปโน่น ไปนี่​ ไร้สาระ” เพื่อลดเสี่ยงการติดเชื้อ
2.ตอนทำงานให้ทำจริงจัง​ มีสมาธิ​ ใช้ปัญญาจริงก่อนพูดก่อนทำ​ อย่าใช้ปัญญา​อ่อนในการประพฤติ-ปฏิบัติ
3.ทำอะไรบนความรู้จริง​ ไม่ใช่บนความรู้สึก​ เช็กข้อมูลให้ชัวร์​ อย่าแชร์​อะไรมั่ว ๆ
4.ล้างมือ​ ใส่หน้ากาก​ กินร้อน​ ช้อนกลาง​ อยู่ห่าง ๆ กัน
5.รับฟัง​ เปิดใจ​ รับไอเดียใหม่ ๆ​ ต้องเชื่อว่าทุกสิ่งเป็นจริงได้​ ไม่ใช่​ ไม่เอาไว้ก่อน
สุดท้ายเชื่อว่า​ อดีตเป็นเหตุ​ ปัจจุบันเป็นผล​ ปัจจุบัน​เป็นเหตุ​ อนาคตเป็นผล​