เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) “ทุกข์ของคนเป็นหนี้​ ที่คิดจะแก้หนี้ด้วยหนี้” วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2562

ทุกข์ของคนเป็นหนี้​ ที่คิดจะแก้หนี้ด้วยหนี้

บทความวันนี้ผู้เขียนขอนำเอาข้อเท็จจริงขอผู้คนที่ส่งเรื่องเข้ามาที่เครดิตบูโรผ่านช่องทางการสื่อสาร​ ในเนื้อหาไม่ว่าจะเป็นจริงขนาดไหน​ มันได้สะท้อนกลิ่นอายของความทุกข์​ยาก​ ที่เข้าใจได้ว่าคนที่มีหนี้แล้วใช้หนี้ไม่ได้ตามเงื่อนไขของสัญญาในเวลาหนึ่งในอดีต​ มันก็เกิดประวัติการค้างชำระขึ้น​ตามข้อเท็จจริง​ ทีนี้พอไม่ไปจ่ายต่อเนื่องมันก็สะท้อนว่ามีความสามารถในการชำระหนี้น้อยลงไป​ หนี้ที่ค้างยังไม่ได้ไปชำระ​ แต่ก็คิดหาหนทางแก้ไขด้วยการจะไปก่อหนี้ใหม่​ ทางหนึ่งก็เพื่อเอามาชำระหนี้ที่ค้างอยู่เดิม​ ส่วนที่เหลือ (หากกู้ได้มากกว่ายอดหนี้ที่ค้างชำระ)​ ก็จะเอาไปหมุนเวียนใช้จ่าย​ แต่ความเป็นจริงในกระบวนการบริหารและป้องกันความเสี่ยงของสถาบันการเงินที่ถูกกำกับดูแลอย่างเข้มข้นย่อมทำได้ยากจนถึงยากมากที่สุด​ เพราะมันไม่มีใครสามารถให้เงินกู้ใหม่ได้ทั้งที่เงินกู้เก่ายังค้างชำระคาตาอยู่​ มันไม่มีใครสามารถหยิบเงินฝากจากคนฝากที่เขาไว้เนื้อเชื่อใจตัวสถาบันการเงิน​ เพื่อนำไปปล่อยกู้ให้กับคนที่อยากกู้แต่มีคุณสมบัติ​ คุณลักษณะที่อาจจะเชื่อได้ว่าขาดความสามารถในการชำระหนี้ได้นั่นเอง​ ท่านผู้อ่านลองใจร่มๆ​ ใจเย็นๆ​ อ่านในใจ​ คิดเงียบๆ​ มองให้ลึกว่า​ ถ้าเราเป็นคนขอกู้​ ถ้าเราเป็นคนตัดสินใจจะให้กู้ดีหรือไม่​ ถ้าเราเป็นคนฝากเงิน​ ถ้าเราเป็นธนาคารกลาง​ ถ้าเราเป็นผู้ตรวจสอบสถาบันการเงิน​ ถ้าเราเป็นนักวิชาการ​ ถ้าเราเป็นนักวิชาเกิน​ ถ้าเราเป็นคลินิกแก้หนี้​ ถ้าเราเป็นเครดิตบูโร​ ถ้าเราเป็นคนเดินดินกินข้าวแกงและมีหนี้​ เราคิดกันอย่างไร​ อะไรคือคำตอบที่ดีที่สุด​ ข้อความมีดังนี้

…. ผมยื่นขอกู้สถาบันการเงินไป  10  กว่าแห่ง​ ไม่ได้รับอนุมัติสักแห่งเพราะติดเครดิตบูโร ค่างวดรถ  ผมส่งช้าติดกัน  2  งวด

ครอบครัวก็เดือดร้อนเพราะไม่มีเงินใช้จ่าย  ไม่มีเงินซื้อข้าวสาร  ต้องไปยืมข้าวสารข้างบ้านมาหุงให้ครอบครัวกินกับเกลือในวันนี้แล้ววันพรุ่งนี้จะมีอะไรกินกันทรมานไหม

มีบ้านมีที่ดินแต่เป็นที่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะไปจำนำที่ไหนได้  ไม่มีใครเขารับเป็นประกันหนี้​ ขายก็ไม่ได้

บริษัททวงหนี้ก็ทวงทุกวัน​ ทำงานอยู่ก็โทรตาม​ โทรจิก​ ไม่มีความสุขเลย  จะขายชีวิต​ ขายไต​ ขายหัวใจ​ ขายลูกตาก็ไม่มีใครซื้อ

ทางออกอยู่ตรงไหนครับ คลินิกแก้หนี้ก็สมัครไม่ได้​อีก…

ถ้าท่านผู้อ่านคิดว่าที่ผู้เขียนยกมามันเกินเหตุ​ ไม่มีอยู่จริง​ ก็มาขอดูหลักฐานได้นะครับ​ บ้านเราเมืองเรา​ ผู้คนของเราไม่ว่าจะชั่วดีถี่ห่างอย่างไรก็ไทยด้วยกันทั้งสิ้นเวลานี้ได้สะท้อนออกมาเป็นตัวหนังสือที่ชัดเจนแล้ว หนี้ครัวเรือนไทยพิษร้ายมันก็พอๆ กับไข้เลือดออกในเด็กๆ​ หรือเท่ากับวัณโรค​สำหรับผู้ใหญ่​ ท่านนักวิชาเกิน​ ท่านที่เป็นกู้รู้ (อ้างตัวว่าเป็นกูรู) ​ท่านไม่ต้องบอกว่าให้แก้โดยทำบัญชีครัวเรือน​ หรือบอกให้แก้ด้วยการให้ความรู้ทางการเงินนะครับ​ หรือไม่ต้องบอกว่าต้องเร่งเสริมสร้างวินัยทางการเงิน​ หรือบอกว่าต้องรีบให้มีหลักสูตรการบริหารเงินส่วนบุคคลนะครับ​ มันไม่ทันแล้ว​ ไฟกำลังไหม้หลังคาแล้ว​ อย่าบอกให้อ่านคู่มือการทาสีบ้านป้องกันปลวกแมลง​

ผู้เขียนขอสารภาพตรงนี้เลยนะครับว่า​ หมดภูมิความรู้ที่จะให้คำแนะนำ​ หรือคำชี้แนะแล้วครับ​ ได้แต่คิดถึงคำพระในใจแต่ไม่กล้าบอกว่า​
กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา​
อดีตเป็นเหตุ​ ปัจจุบันเป็นผล
ปัจจุบันเป็นเหตุ​ อนาคตเป็นผล
การไม่มีหนี้​ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไม่มีใครรอด​ ด้วยการเอาหนี้มาใช้หนี้
กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามครับ