เศรษฐกิจคิดง่ายๆ (ดิจิทัล) “3 เรื่อง​ 3อารมณ์​ มองลึกๆเราน่าจะเห็นอะไรถ้าไม่หลอกตัวเอง” วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2562

3 เรื่อง​ 3อารมณ์​ มองลึกๆเราน่าจะเห็นอะไรถ้าไม่หลอกตัวเอง 

บทความวันนี้ผมใคร่ขอนำเรียนข่าวสารที่ออกมาจากองค์กรที่มีความแตกต่างในภารกิจแต่หากมองแบบมีสติเต็มเปี่ยม​ คิดพิเคราะห์ดีๆ​ มองให้ลึกๆแล้ว​ เราน่าจะเห็น”อะไร” บางอย่างในความจริงเรื่องการเป็นหนี้​ การก่อหนี้​ การเป็นทุกข์กับหนี้​ การแก้หนี้​ และผมได้พบกับผู้คนมากมายที่คาดหวัง​ “อัศวินขี่ม้าขาว” มาช่วยปัดเป่าทุกข์ด้วยนโยบายประชานิยมประเภท​… ยุบหนี้​ ยืดหนี้​ โยกหนี้​ พักชำระหนี้… ซึ่งเราจะได้เห็นหรือไม่เห็นก็คงอีกไม่นานนี้ครับ​ เรื่องราวที่อยากนำเสนอคือ

เรื่องที่​ 1 : ผู้บริหารทันสมัย​ หัวก้าวหน้า ซึ่งดำเนินธุรกิจ โรงรับจำนำรูปแบบใหม่ได้ให้ข่าวเปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายโรงรับจำนำให้มีสาขาเพิ่มขึ้นและสาขาทั้งหมดจะอยู่ในภาคตะวันออกเพื่อรองรับโครงการ EEC ที่ถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการประกอบธุรกิจโรงรับจำนำอย่างมาก​ สำหรับผลประกอบการในปี​ 2562​ นี้คาดว่าจะเติบโตประมาณ 25% โดยมียอดรับจำนำเดือนละประมาณ 3,000 ล้านบาท​ โดยคาดว่าจะมียอดเพิ่มขึ้น 20% ต่อเดือนในปี 2563
มีการคิดดอกเบี้ยตามที่ กฎหมายกำหนดโดยทรัพย์ไม่เกิน 2,000 บาท ดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อเดือน หากเกิน 2,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน สำหรับสินค้าจะรับจำนำจะเปิดกว้างรับตั้งแต่นาฬิกาข้อมือ ทอง เพชร พลอย เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบรนด์เนมและอื่นๆ ที่ถือเป็นทรัพย์เอาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน

โรงรับจำนำถือเป็นสถาบันการเงินที่เก่าแก่ที่อยู่กับสังคมไทยมายาวนานและเป็นที่พึ่งของคนที่ขาดสภาพคล่อง (ผู้เขียน​ : การขาดสภาพคล่องมาจากสาเหตุใด​ จากกลุ่มฐานะใด​ ควรมีการศึกษาและเปิดเผยออกมาหรือไม่​ ตลอดจนภาครัฐควรจัดมาตรการแก้ไขแบบเบ็ดเสร็จในบางกลุ่มที่ต้องช่วยแบบสวัสดิการเลยหรือไม่​ ขอตั้งเป็นประเด็นไว้ก่อน)​ การทำธุรกิจจะใช้แนวคิดโรงจำนำที่มีความทันสมัย ใช้เวลาการบริการลูกค้าแบบง่ายๆ สะดวกรวดเร็ว ใช้เพียงบัตรประชาชน ไม่นำเอาเครดิตบูโรหรือข้อมูลเครดิตมาพิจารณาและใช้เวลาไม่เกิน 3 นาทีต่อราย

 

เรื่องที่​ 2 : ผู้บริหารกิจการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลหรือ​ P-Loan ประเภทกู้เป็นก้อน​ ผ่อนเป็นงวด​ สินเชื่อ​ 0% ระบุว่าภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคลยังขยายตัวได้ปีนี้ แต่มีแรงกดดันจากสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 79% อยู่ในระดับและภาครัฐมีความกังวลและติดตามสถานการณ์อยู่ ซึ่งล่าสุดทราบว่า​ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมจะออกเกณฑ์เกี่ยวกับสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (DSR) ออกมากำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง(ผู้เขียน:ยังไม่ชัดว่ากลุ่มไหนนะครับ)​ ต้องติดตามเกณฑ์ที่ชัดเจนจะเป็นอย่างไรและจะมีผลต่อการปล่อยสินเชื่อบุคคลใหม่หรือไม่ แต่มองว่าอาจจะกระทบกับการผ่อนสินค้าเพราะการคิดภาระหนี้จะคิดเป็นยอดรวม ไม่ได้แยกเป็นยอดแบ่งชำระในแต่ละเดือน ทั้งนี้ที่ผ่านมา ธปท. ได้ออกเกณฑ์กำกับดูแลการปล่อยสินเชื่อบุคคลโดยให้ขอกู้ไม่เกิน 3 ผู้ประกอบการ ซึ่งมีผลกระทบให้ลูกค้าใหม่ลดลงไปราว 5-10% สอดคล้องกับอุตสาหกรรม โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 2562 จะเดินหน้าธุรกิจต่อเนื่อง คาดว่าความต้องการสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลังจะขยายตัวมากกว่า ครึ่งปีแรก(ผู้เขียน:หนี้ครัวเรือนสูง​ กำลังจะออกมาตรการเข้ม​ แต่คนปล่อยกู้มีแผนขยายตัว​ และคาดว่าคนอยากขอกู้มากขึ้น… ผู้เขียนน่าจะแปลความสรุปได้ถูกนะครับ)​

เรื่องที่​ 3 : กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (บสส.) หรือ SAM จัดงาน “พบกันวันหยุดกับคลินิกแก้หนี้” ทุกวันเสาร์ตลอดเดือนมิถุนายน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. โดยย้ายสถานที่จัดงานเป็นที่สำนักงานใหญ่ของ SAM ณ ชั้น 24 อาคารซันทาวเวอร์ส บี บริเวณห้าแยกลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารพาณิชย์ที่เข้าร่วมโครงการ 16 แห่ง รวมทั้งผู้ประกอบธุรกิจทางการเงิน หรือที่เรียกว่า Non-Bank จำนวน 19 แห่ง (หมายถึง คนที่ค้างชำระเกิน​ 90วันหรือค้างเกินสามงวดหรือคนที่เป็น​ NPL)​ ที่ไม่สามารถเข้ามาขอคำปรึกษากับเจ้าหน้าที่ได้ในวันทำการปกติ ได้มีโอกาสเข้ามาสมัครเข้าร่วมโครงการ และขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ในวันที่ 29 มิถุนายน ศกนี้ ยังจัดให้มีบริการตรวจเครดิตบูโรโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมรู้ผลทันที ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดภาระของลูกหนี้แล้ว ยังทำให้กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้เริ่มต้นได้เร็วขึ้นและใช้เวลาโดยรวมสั้นลง ผู้ที่สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ Call Center 0-2610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-17.00 น. หรือสมัครเข้าร่วมโครงการคลินิกแก้หนี้ผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.คลินิกแก้หนี้.com และ www.debtclinicbysam.com แอดไลน์ @debtclinicbysam

ทั้งสามเรื่องสามรส​ ลองดูความสอดคล้องเรียงร้อยกันให้ดีจะเห็นสภาพการณ์แบบบ้านๆในประเทศอันเป็นที่รักของเราครับ… เราคงต้องอยู่กับหนี้ไปอีกตราบนานเท่านาน… ขอบคุณครับ