คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ : Digital Lending จะเห็นชัดเจนในปี 2562 : วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561

คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ

Digital Lending จะเห็นชัดเจนในปี 2562

นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม 2561

บทความในวันนี้ซึ่งเข้าสู่โค้งสุดท้ายปลายปี 2561 เราๆ ท่านๆ จะเห็นว่าทิศทาง ในเทคโนโลยีใหม่ในปี 2562 ของเหล่าสถาบันการเงินที่เปิดเผย ออกมานั้น จะเน้นลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการต่อยอดหรือช่วยให้การปล่อยสินเชื่อหรือชำระเงินได้สะดวกและง่ายขึ้นโดยมีเรื่อง Digital Lending และ Payment เป็นหลัก

ในเรื่องของ Digital Lending จะพบว่าสถาบันการเงินส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อบนออนไลน์มากขึ้น บนแนวคิด พื้นฐาน Information Base Lending ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสนับสนุน ยิ่งถ้าหากตัวของ Platform และข้อกฎหมายของ National Digital ID รองรับอย่างสมบูรณ์แล้วละก็จะยิ่งทำให้การปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัลหรือออนไลน์สะดวกและง่ายมากขึ้น

กระบวนการในภาพใหญ่ๆ ของการให้กู้แบบดิจิทัลจะเป็นดังนี้นะครับ1.ลูกค้าเป้าหมายจะถูกส่งข้อมูลให้เกิดความสนใจในบริการผ่านกระบวนการสื่อสารที่ตรงใจ ใช่เลย คือรู้เรื่องของเรา รู้จริงว่าเราต้องการอะไรและรู้ใจว่าเราอยากได้แบบไหน

2.การส่งข้อมูลของผู้ขอกู้จะทำผ่านช่องทางดิจิทัล  ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่  หรือเครื่องมือสื่อสารสมัยใหม่โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขา อีกต่อไป

3.เอกสาร รูปภาพ ข้อมูล จะถูกกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มข้นว่าไม่มีการปลอมแปลงใดๆ อันนี้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากๆ เรื่องของเอกสารแบบกระดาษลืมไปได้เลย

4.กระบวนการพิสูจน์และยืนยันตัวตนที่ชาวแบงก์เรียกว่า KYC จะใช้เทคนิคหลากหลาย ด้วยลายพิมพ์นิ้วมือ  ด้วยใบหน้า ด้วยรหัสผ่าน ตามแนวคิดของการพิสูจน์ ความถูกต้องว่า “You are who you say you are”  เทคโนโลยีจากจีนต่างหลั่งไหลเข้ามาในประเทศเรานะครับ

5.กระบวนการต่อมาคือ การให้ความยินยอมหรือ Consent เพื่อให้แน่ใจว่าการเข้าถึงข้อมูลความเป็นส่วนตัวมีการปกป้องคุ้มครอง ดังนั้นคนยื่นขอกู้จึงถูกกำหนดว่าต้องให้ความยินยอมในเรื่องหนึ่ง… สอง… สาม…

6.การลงลายมือชื่อแบบดิจิทัล เมื่อมาถึงขั้นนี้การเซ็นชื่อในเอกสารต่างๆ  มันไม่มีการเซ็นสดอีกต่อไปแล้ว  การลงนามโดยรหัสหกตัวบ้าง หรือวิธีการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดก็จะเข้ามาในขั้นตอนนี้ เพื่อรับรองยืนยันเอกสารของคนขอกู้ว่าใช่

7.กระบวนการวิเคราะห์สินเชื่อด้วยข้อมูลจากหลากหลายแห่ง ทั้งของตัวผู้ยื่นขอกู้ และข้อมูลอื่นๆ จากเครดิตบูโร จากแหล่งที่คนขอกู้ได้ให้ Consent ไว้เช่น Platform E-commerce ที่ตนเองเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เป็นต้น

8.การตัดสินใจและการแจ้งผลจะเป็นระบบที่ประมวลผลโดยเครื่องมือที่ทันสมัยมีการเรียนรู้ด้วยตนเองปราศจากอคติและมีการใช้อารมณ์ของคนน้อยมากๆ เมื่อได้ผลเป็นประการใดแล้วก็อาจมีการสกรีนอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าไม่หลุดไปปฏิเสธคนที่ควรจะได้ แต่ดันไปรับหรืออนุมัติคนที่ไม่ควรจะได้ เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือใช้ข้อมูลเป็นอาหาร  ข้อมูลเป็นเชื้อเพลิง  ข้อมูลเป็นวัตถุดิบข้อมูลเป็นอากาศในระบบนิเวศแบบใหม่ครับผม

แต่ในไทยสถาบันการเงินคงจะมุ่งกลุ่มที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงินหรือ Unbank จึงต้องมีการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ดีมากๆ เพราะขั้นตอนบางอย่างยังไม่ได้เป็นดิจิทัลทั้งหมด เช่น สัญญาตอนสุดท้ายอาจ ยังคงเป็นกระดาษ ซึ่งคงจะไม่คุ้มกับอัตราดอกเบี้ยที่ทางการจะประกาศควบคุมไว้และปัญหาประการสุดท้ายคือกิจการที่จะให้บริการต้องมีทุน จดทะเบียนเบื้องต้นหลายล้านบาทแน่นอน ส่วนการเป็นสมาชิกของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ  (เครดิตบูโร) ก็ต้องว่าไปตามความสมัครใจครับ