คอลัมน์เศรษฐกิจคิดง่ายๆ “ความคาดหวังของสังคม และกระแสที่ตีกลับ” วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม 2561

คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ

ความคาดหวังของสังคม และกระแสที่ตีกลับ

นสพ.โพสต์ทูเดย์ วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม 2561

เมื่อมีข่าวสารออกมาถึงการประกาศของกลุ่มผู้คนทั้งที่ทำงาน มีอาชีพ (อันเป็นที่เคารพในสังคมไทย) มีรายได้ เกษียณจากอาชีพไปแล้วก็ตาม หากแต่ท่านเหล่านั้นโดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้นำกลุ่มได้กล่าวแทนลูกหนี้ ความโดยสรุปว่า จะขอพักการชำระหนี้ ไม่ใช้หนี้ ที่มีกับสถาบันการเงินของรัฐ ได้สร้างความตื่นตระหนกและแรงกระเพื่อมไปถึง สิ่งที่เรียกว่า คุณค่าที่เรายึดถือกันในสังคม กระแสเสียงจากแทบทุกสื่อมวลชน และผู้คนในสังคม ต่างออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก มีการออกมาเตือนถึงผลที่จะตามมาทั้งต่อท่านที่เป็นลูกหนี้ ท่านที่เป็นผู้ค้ำประกันหนี้นั้น อาจต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี เดือดร้อน เสียหาย และเสียเกียรติของตนเองที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิตในการทำงาน ผมจึงขอยกเอากรณีนี้มานำเสนอในอีกมุมหนึ่งให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณา ไม่ว่าท่านจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย แต่เราทั้งหลายล้วนต้องการอยู่ในสังคมที่ดีงามเช่นเดียวกัน

ความจริง : มีคนในอาชีพนี้เป็นหนี้จำนวนที่มากพอสมควร ไม่ว่าจะมองในด้านขนาดของหนี้ที่ก่อ หรือจำนวนบุคคลในสาขาอาชีพดังกล่าว จนมันได้กลายเป็นภาพนี้ไปแล้วว่า ถ้ากล่าวถึงหนี้ก็จะให้คิดไปถึงผู้คนในอาชีพนี้ ด้วยการก่อหนี้ที่มาจากเหตุผลต่างๆ นานา ผ่านโครงการที่ไม่น่าจะคิดกันออกมาได้เพื่อมาหยิบยื่นหนี้ให้กันและกัน เช่น กู้โดยเอาเงินที่จะได้ตอนเสียชีวิตในอนาคตมาเป็นหลักประกันในการใช้เงินในวันนี้ที่เรียกว่า แปลงวิญญาณเป็นทุน บวกด้วยการทำประกันชีวิตยกประโยชน์ให้กับเจ้าหนี้ โดยจ่าย ค่าเบี้ยประกันชีวิตก้อนใหญ่ ถ้าจ่ายไม่ได้ก็ให้เอายอดเงินนี้เป็นส่วนหนึ่งของการกู้ ซึ่งเท่ากับว่ากู้มาทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองหนี้ที่ตนเองก่อขึ้นเพิ่มจากหนี้เดิมที่ตนเองมีอยู่แล้วกับสหกรณ์ออมทรัพย์ (ที่พอเงินเดือนของลูกหนี้ออกมาวันใด ก็จะถูกหักชำระหนี้ที่ถึงกำหนดโดยสหกรณ์ออมทรัพย์ไว้ก่อน-เงินหักหน้าซองเงินเดือน) แล้วแต่ละเดือนก็จะมีเงินเหลือเอาไปใช้จ่าย เอาไปจ่ายเจ้าหนี้รายอื่นๆ ตามแต่ความเป็นจริง อยู่กันได้หรือไม่…ไม่รู้

ความดี : ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ผู้คนในอาชีพนี้ เหตุใดเจ้าหนี้จึงชอบให้เงินกู้ เหตุเพราะท่านไม่เคยคิดจะไม่จ่ายหนี้ครับ มีความตั้งใจที่จะชำระหนี้เสมอ แม้ว่าจะมีความสามารถในการชำระหนี้ลดน้อยถอยลงไปก็ตาม ขีดความสามารถในการหารายได้มีได้หลายทางมาก ดังนั้นในอดีตผู้คนในอาชีพนี้จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายในการให้เงินกู้อย่างมีนัยสำคัญของสถาบันการเงิน

ความงาม : ที่ผ่านมาการหาทางออกให้กับท่านที่ติดกับดักในหนี้สินก้อนนี้ผ่านโครงการต่างๆ มีมาโดยตลอด ภาครัฐยื่นมือเข้ามา ภาคเจ้าหนี้สถาบันการเงินก็ยื่นมือเข้ามา มีข่าวคราวการเจรจาออกมา มีการใช้เหตุและผล ต่อสู้หักล้างในเงื่อนไข ในสิ่งที่ได้ลงนามในสัญญากันไปแล้วมาโดยตลอด แต่ก็ตั้งอยู่บนหลักการ เป็นหนี้ต้องใช้หนี้ สัญญาต้องเป็นสัญญา เพราะหากไม่จ่ายหนี้คนที่เสียหายสุดท้ายคือผู้ฝากเงินของสถาบันการเงินที่เอาเงินฝากไปปล่อยกู้นั่นเอง

ความคาดหวังของสังคม : การจะส่งต่อคำสอน คุณค่า สิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ต้องไม่ทำอย่างเด็ดขาด ไปยังผู้คนที่เป็นลูกศิษย์ ในทุกช่วงชั้นและวัย มันจะเป็นจริงได้อย่างไร ผมขอยกข้อความที่ว่า แม่ปูจะสอนลูกปูให้เดินตรงได้อย่างไร หากแต่แม่ปูเดินไม่เคยตรง ที่สำคัญคือถ้าแม่ปูไม่มีแม้แต่ความพยายามจะเดินตรงแล้ว “คุณค่า” ที่จะส่งมอบมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นใช่หรือไม่

กระแสที่ตีกลับ ทิ้งไว้แต่ความเสียหาย : หลังปี 2540 เราทุกคนเคยรู้สึกอาย เวทนา และขัดเคือง ตลอดจนไม่สบายใจกับคำพูดของนักธุรกิจการเมืองที่พูดว่า “ไม่กลัว ไม่มี ไม่หนี ไม่ให้ อยากได้ไปฟ้องเอา” หลายสถาบันเอาไปเป็นข้อสั่งสอน เอาไปเป็นบทเรียนที่จะบอกว่า อะไรคือสิ่งที่ควรทำ อะไรคือสิ่งที่แม้แต่คิดก็ไม่ควร แต่ในปี 2561 หรือ 21 ปีผ่านมาจึงได้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก

ท่านผู้อ่านครับ สิ่งใดที่ถูกมันจะถูกตลอดไปแม้ไม่มีใครทำ สิ่งใดที่ผิด มันคือผิดแม้ทำกันทั่วไปขอบคุณครับ