ข่าวเครดิตบูโร 012/2567 : สัญญาณเศรษฐกิจเครดิตบูโร ณ ไตรมาส 3/2567

สัญญาณเศรษฐกิจเครดิตบูโร ณ ไตรมาส 3/2567

21 พฤศจิกายน 2567 : นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า รายงานภาระหนี้สินภาคครัวเรือนจากสถาบันการเงิน​ 157 แห่ง ที่เป็นสมาชิกของเครดิตบูโร​ ครอบคลุมประชาชนคนไทยและผู้มีถิ่นฐานในประเทศไทยที่มีหนี้สินกับสถาบันการเงินสมาชิก​ ซึ่งปัจจุบัน​ครอบคลุมประมาณกว่า​ 30 ล้านคนจากฐานข้อมูล​สถิติที่ไม่มีตัวตนในไตรมาส​ 3 ปี​ 2567​ มีรายละเอียด ดังนี้

ภาพที่​ 1 หนี้ครัวเรือนในระบบเครดิตบูโร​อยู่ที่​ 13.6 ล้านล้านบาท (หนี้ครัวเรือนไทยทั้งหมด​ 16.3 ล้านล้านบาท) อัตราการเติบโต​ 0.5% YoY (Year on Year) ​ถ้าเป็น​ QoQ (Quarter on quarter) จะ -0.2% สรุปคือสินเชื่อไม่โต เศรษฐกิจ​ในไตรมาส​ 3 เติบโต​ 3% ในช่วง​ 9 เดือนโต​ 2.3% สินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็ก​ -​4.6% YoY สินเชื่อเบิกเกินบัญชี​ -​4.5% YoY

ภาพที่​ 2 ระดับของหนี้เสีย หรือ​ NPL (Non-Performing Loan)  ก็เป็นไปตามคาดมาอยู่ที่ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาท​ คิดเป็นสัดส่วน​ 8.8% ของ​หนี้รวม 13.6 ล้านlล้านบาท​ คือเส้นสีแดงที่พุ่งขึ้นมาชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส​ 1 ปี​ 2566​ พักฐานไตรมาส​ 4 ปี 2566​ แล้วไปต่อตั้งแต่ปี​ 2567​ พร้อม ๆ กับมาตรการกลับไปสู่ความเป็นปกติ (normalize) เศรษฐกิจ​ค่อย ๆ โตกลับมาอย่างเชื่องช้า มีเรื่องการให้กู้อย่างรับผิดชอบ การแก้หนี้เรื้อรัง​ และแก้หนี้ครบวงจร​ ภาพของเส้นหนี้เสียวิ่งจาก​ 7.7% สู่​ 8.8%        

ภาพที่​ 3 หนี้​ NPL​ ประมาณ​ 1.2 ล้านล้านบาทโดยประมาณ​ เติบโต​ 14.1% YoY 3.4% QoQ ซึ่ง​ NPL สินเชื่อบ้านรถยนต์ บัตรเดรดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลนิ่ง ๆ​ หรือโตไม่มากจากไตรมาสก่อน​ แต่ที่กังวลมากคือสินเชื่อธุรกิจคนตัวเล็กหรือ​ SMEs เติบโต​ 20%YoY​ 5.2%QoQ อันนี้คือประเด็นสำคัญ​มาก ๆ

ภาพที่​ 4 หนี้กำลังจะเสียหรือหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ หรือ SM​ ​(Special Mention) ยอดคงค้าง​ Q3​ ปี​ 2567 มาหยุดที่​ 4.8 แสนล้านบาทโดยประมาณ​ ลดลงมาทั้ง​ YoY และ QoQ​

2 ภาพสุดท้าย คือ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่มีปัญหา (Troubled Debt Restructuring: TDR) ซึ่งตัวเลขสะสมมาอยู่ที่ 1.03ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7.6% ของ 13.6 ล้านล้านบาท เติบโต QoQ ติดลบประมาณ 3%

ในส่วนของ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้เชิงป้องกันก่อนเป็นหนี้เสีย (Debt Restructuring : DR) ยอดสะสมตั้งแต่เมษายน 2567 มาหยุดที่ 1.2 ล้านบัญชี 6.45 แสนล้านบาท

ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหลายท่านจะได้นำไปประกอบการพิจารณากับมาตรการแก้หนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้ SMEs ที่กำลังจะประกาศความชัดเจนในเร็ววัน